นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า “ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม 2559 – พฤษภาคม 2560) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,496,129 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 4,395 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 มีสาเหตุจากการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต สูงกว่าประมาณการ 27,964 24,078 และ 3,384 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.5 24.6 และ 0.9 ตามลำดับ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมัน ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเบียร์”
นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลยังคงสูงกว่าประมาณการและเป็นไปตามที่กระทรวงการคลังได้ประเมินไว้ สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2560 กระทรวงการคลังจะติดตามดูแลให้การจัดเก็บรายได้เป็นตามเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่อไป”
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม 2559 – พฤษภาคม 2560) และเดือนพฤษภาคม 2560
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,496,129 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,395 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.9) โดยเป็นการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ที่สูงกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดี ผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เนื่องจากในช่วงเดียวกันปีที่แล้วมีรายได้พิเศษ เช่น การประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม (3G และ 4G) การรับรู้ส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตร (Premium) เป็นรายได้แผ่นดิน การชำระภาษีการพนันของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น ซึ่งหากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว การจัดเก็บรายได้ในปีนี้ จะขยายตัวร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ผลการจัดเก็บรายได้แยกตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
1.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1,084,502 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 46,240 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.1 แต่ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วจำนวน 19,950 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.9 โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่
- ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 25,716 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.0 แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.9 เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บในประเทศเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ อย่างไรก็ดี การนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางขยายตัวได้ดี ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าขยายตัวจาก ช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 10.0
- ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้ 35,707 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 24,993 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 18.7) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยของปี 2559 ต่ำกว่าข้อสมมติฐานที่ใช้ในการทำประมาณการ ทำให้กำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษีลดลง
อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย 11,822 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.6) เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีจากค่าบริการและจำหน่ายกำไร (ภ.ง.ด. 54) และภาษีกำไรสุทธิ (ภ.ง.ด. 50) ที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ
1.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 374,390 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 3,384 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.1)โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ได้แก่ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 14,506 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 27.0) เนื่องจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซินที่สูงกว่าประมาณการ การปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น และการจัดเก็บภาษีน้ำมันหล่อลื่น นอกจากนี้ ภาษีเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,224 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.5)
1.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 69,108 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 10,692 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.4 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.2) โดยเป็นผลจากการจัดเก็บอากรขาเข้าต่ำกว่าเป้าหมายจำนวน 11,514 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.7 เนื่องจากการใช้สิทธิพิเศษภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและผลกระทบจากการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากร ระยะที่ 2 ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ขยายตัวร้อยละ 10.9 และร้อยละ 9.3 ตามลำดับ โดยสินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ยานบกและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ประกอบ เครื่องจักรและเครื่องใช้กล ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า และพลาสติก
1.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้รวม 122,017 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 24,078 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 25.8) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนำส่งรายได้ที่ค้างนำส่ง จากปีก่อนหน้า โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงกว่าประมาณการ 5 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โรงงานยาสูบ และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
1.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 116,746 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 27,964 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.5 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 48.2) สาเหตุสำคัญมาจากการรับรู้ส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตร (Premium) เป็นรายได้แผ่นดิน การนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียน และการนำส่งเงินเหลือจ่ายประจำปี 2559 ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
กรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้รวม 7,408 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 2,118 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 44.5) โดยเป็นผลมาจากรายได้จากที่ราชพัสดุสูงกว่าประมาณการ 1,755 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.4 สาเหตุมาจากการปรับปรุงค่าเช่าสนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และการเปิดประมูลให้ใช้ที่ในท่าเรือภูเก็ต นอกจากนี้รายได้จากการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์จัดเก็บได้สูงกว่า ประมาณการ 365 ล้านบาท หรือร้อยละ 61.8
1.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 200,234 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 3,482 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.7 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 140,722 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 22,178 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.6 และการคืนภาษีอื่น ๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 59,512 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 18,696 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.8
1.7 อากรถอนคืนกรมศุลกากร จำนวน 6,670 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 150 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.2
1.8 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 10,018 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,423 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.4
1.9 เงินกันชดเชยภาษีสำหรับสินค้าส่งออก จำนวน 10,391 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 707 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.4
1.10 การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ จำนวน 5 งวด เป็นเงิน 43,321 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 139 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 268,940 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 4,149 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.5 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.9) เป็นผลจากภาษีเงินได้ปิโตรเลียมจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 20,388 ล้านบาท หรือร้อยละ 37.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.8) ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ ต่ำกว่าประมาณการ 4,111 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.5) และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,413 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.1 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.0) อย่างไรก็ดี การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ การจัดเก็บภาษีน้ำมัน และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 15,730 3,807 และ 2,465 ล้านบาท หรือร้อยละ 157.6 24.6 และ 49.0 ตามลำดับ
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3573
--กระทรวงการคลัง--