Fiscal Policy Office
For 18 - 22 Dec 2017
22 December 2017
Executive Summary
- มูลค่าการส่งออกในเดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
- มูลค่าการนำเข้าในเดือน พ.ย. 60 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
- ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศในเดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 6.4 ต่อปี
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) ในเดือน พ.ย. 60 อยู่ที่ระดับ 87.0
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน พ.ย.60 ขยายตัวร้อยละ 34.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 12.5 ต่อปี
- ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือน พ.ย. 60 หดตัว ร้อยละ -0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือน พ.ย. 60 หดตัวร้อยละ -4.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. 60 อยู่ที่ร้อยละ 2.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
- ผลผลิตอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรป เดือน ต.ค. 60 ขยายตัวร้อยละ 3.7
- ยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 10.20 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
มูลค่าการส่งออกในเดือน พ.ย. 60 มีมูลค่า 21,434.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ที่ร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 13.1 จากการขยายตัวดี ทุกหมวดสินค้าหลัก โดยเฉพาะหมวดสินค้าเกษตรกรรมที่ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 20.2 ตามการขยายตัวดีของข้าวและยางพาราเป็นสำคัญ รวมทั้งหมวดสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวดีต่อเนื่องที่ร้อยละ 13.3 ตามการขยายตัวดีของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์เป็นสำคัญ นอกจากนี้ หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ร้อยละ 2.0 ตามการกลับมาขยายตัวของสินค้าอาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป และ น้ำตาลทรายเป็นสำคัญ ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าในช่วง 11 เดือนของปี 60 ขยายตัวร้อยละ 10.0
มูลค่าการนำเข้าในเดือน พ.ย. 60 มีมูลค่า 19,671.7 mล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 13.5 จากการขยายตัวทุกหมวดสินค้าหลัก cโดยเฉพาะหมวดสินค้าเชื้อเพลิงที่ขยายตัวต่อเนื่องในระดับสูงที่ร้อยละ 20.6 รวมถึงหมวดสินค้าวัตถุดิบที่ขยายตัวในระดับสูงเช่นกันที่ร้อยละ 14.5 ประกอบกับหมวดสินค้าทุน และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 11.7 Maและ 15.1 ตามลำดับ นอกจากนี้ สินค้ายานยนต์กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งที่ร้อยละ 5.5 ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าในช่วง 11 เดือนของปี 60 ขยายตัวร้อยละ 14.5 ซึ่งจากการที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าต่ำกว่ามูลค่าการส่งออกสินค้า ทำให้ดุลการค้าในเดือน พ.ย. 60 เกินดุล 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศในเดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 6.4 ต่อปีและขยายตัวร้อยละ 8.7 ต่อเดือน หลังปรับผลทางฤดูกาล ทั้งนี้ ปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศในช่วง 11 เดือนแรกของปี 60 ยังคงขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 1.1 ต่อปี
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) ในเดือน พ.ย. 60 อยู่ที่ระดับ 87.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.9 ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ค่าดัชนีฯที่เพิ่มขึ้นได้รับปัจจัยทั้งจากยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ซึ่งในเดือน พ.ย. พบว่า อุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของดัชนียอดคำสั่งซื้อและยอดขายภายในประเทศ อันเป็นผลมาจากมาตรการช็อปช่วยชาติ และการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ผู้ประกอบการมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 102.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 103.3 ในเดือน ต.ค. จากความกังวลของผู้ประกอบการเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือน พ.ย. 60 มีจำนวน 31,435 คัน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 34.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล ซึ่งถือเป็นการขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 ตั้งแต่ต้นปี เป็นผลมาจากจากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด และเศรษฐกิจภาพรวมที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 60 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัวที่ร้อยละ 21.7 ต่อปี
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย. 60 มีจำนวน 46,647 คัน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 12.5 ต่อปี และขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 ต่อเดือนหลังขจัดผลทางฤดูกาล ตามยอดจำหน่ายรถกระบะ 1 ตัน ที่ขยายตัวร้อยละ 11.0 ต่อปี และขยายตัวร้อยละ 4.0 ต่อเดือนหลังขจัดผลทางฤดูกาล ทำให้ 11 เดือนแรกของปี 60 การจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 9.0 ต่อปี
ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมในเดือน พ.ย. 60 หดตัวร้อยละ -0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือคิดเป็นการหดตัวร้อยละ -4.6 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล หากพิจารณารายหมวดผลผลิตสินค้าเกษตรพบว่าหมวดประมงและหมวดปศุสัตว์หดตัวร้อยละ -21.5 และร้อยละ -7.0 ตามลำดับ ขณะที่หมวดพืชผลสำคัญขยายตัวร้อยละ 0.9 โดยสินค้าสำคัญที่ผลผลิตหดตัว ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า มันสำปะหลัง ไก่เนื้อ และกุ้งขาวแวนนาไม ขณะที่สินค้าสำคัญที่ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยางพารา สับปะรด สุกร และไข่ไก่
ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือน พ.ย. 60 หดตัวร้อยละ -4.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 0.7 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล โดยเป็นการหดตัวของราคาในหมวด ปศุสัตว์ร้อยละ -9.4 และหมวดพืชผลสำคัญร้อยละ -4.2 ในขณะที่ราคาในหมวดประมงขยายตัวร้อยละ 3.5 โดยสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ราคาสุกรจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากกว่าความต้องการ ราคาปาล์มน้ำมันจากภาวะการค้ายังชะลอตัวและสต็อกน้ำมันอยู่ในเกณฑ์สูง ราคายางพาราจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้นและภาวะการค้ายังชะลอตัวต่อเนื่อง และราคาไข่ไก่จากผลผลิตไข่ไก่ออก สู่ตลาดมาก ส่วนสินค้าที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% และกุ้งขาว แวนนาไม
Global Economic Indicators: This Week
ผลผลิตอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 3.4 เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2.7
อัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ย. 60 อยู่ที่ร้อยละ 1.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค. 60 อยู่ที่ระดับ 0.5 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 0.1 จุด
ด้านการส่งออก เดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 16.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า การนำเข้า เดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 17.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และเกินดุลการค้าใน เดือน พ.ย. 60 ที่ 113 พันล้านเยน อัตราดอกเบี้ยนโยบายเดือน พ.ย. 2560 ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.1
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เดือน พ.ย. 2560 ธนาคารกลางไต้หวัน มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.375
อัตราการว่างงานเดือน ต.ค. 60 (หลังขจัดผลทางฤดูกาล) อยู่ที่ร้อยละ 3.5 ต่อกำลังแรงงานรวม ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า อัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ย. 60 อยู่ที่ร้อยละ 3.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน
ด้านการส่งออก เดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 9.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าขณะที่ การนำเข้า เดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 28.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า และเกินดุลการค้าใน เดือน พ.ย. 60 ที่ 4.4 พันล้านดอลล่าร์สิงคโปร์
ยอดขายยานพาหนะใหม่ เดือน พ.ย. 60 ขยายตัวร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อหน้า ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับร้อยละ 2.6
อัตราการว่างงาน เดือน พ.ย. 60 อยู่ที่ระดับร้อยละ 3 เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ลดลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยอัตราเงินเฟ้อ เดือน พ.ย. 60 อยู่ที่ร้อยละ 1.6 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.5 ในเดือนก่อนหน้า
ดัชนี SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยดัชนี SET ณ วันที่ 21 ธ.ค. 60 ปิดที่ระดับ 1,736.91 ตรงข้ามกับดัชนี MSCI AC Asia Pacific Index ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันที่ 18 - 21 ธ.ค. 60 ที่ 48,869 ล้านบาทต่อวัน ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 18 - 21 ธ.ค. 60 นักลงทุนต่างชาติขายหลักทรัพย์สุทธิ -2,016 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเกือบทุกช่วงอายุปรับลดลง 1-3 bps จากสัปดาห์ก่อนหน้า ในสัปดาห์นี้ มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ที่มีนักลงทุนสนใจถึง 2.11 เท่าของวงเงินประมูล ระหว่างวันที่ 18 - 21 ธ.ค. 60 มีกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าจากตลาดพันธบัตรสุทธิ 6,894 ล้านบาท
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.02 โดย ณ วันที่ 21 ธ.ค. 60 เงินบาทปิดที่ 32.59 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สวนทางกับเงินสกุลหลักอื่น ๆ ส่งผลให้โดยรวมแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากกว่าเงินสกุลหลักอื่น ๆ ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.39
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3253 : www.fpo.go.th