ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม รวม 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองทุนสนับสนุนการวิจัย กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา และกองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. การบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562
1.1 บุคคลธรรมดา ให้หักลดหย่อนได้เป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษาแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว
1.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้หักรายจ่ายได้เป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงิน ที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา และรายจ่ายที่กำหนดแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา
2. สำหรับการบริจาคที่ได้กระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
2.1 บุคคลธรรมดา ให้หักลดหย่อนได้ 1 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นๆ แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่นๆ แล้ว
2.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้หักรายจ่ายได้ 1 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์แล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา
การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมทั้ง 4 กองทุนนี้ จะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ อันมีผลช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) กรมสรรพากร โทร. 1161
--กระทรวงการคลัง--