นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560 - กุมภาพันธ์ 2561) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 894,012 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 1,378,010 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 214,900 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 189,327 ล้านบาท
นางสาวกุลยาฯ สรุปว่า “ฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ยังคงอยู่ในระดับที่เข้มแข็งเพียงพอต่อการเบิกจ่าย ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สูงขึ้นและสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพื่อสนับสนุนให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 รัฐบาลขาดดุลเงินสด จำนวน 22,957 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ จำนวน 10,647 ล้านบาท และเป็นการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ จำนวน 12,310 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวน 189,327 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ฐานะการคลังเดือนกุมภาพันธ์ 2561
1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง จำนวน 155,341 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 16,039 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 11.5) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว
1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 165,988 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 8,041 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 5.1) โดยเป็นรายจ่ายปีปัจจุบัน จำนวน 147,102 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.0 ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ จำนวน 119,046 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 4.6 และรายจ่ายลงทุน จำนวน 28,056 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.1 และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อน จำนวน 18,886 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 24.4 (ตารางที่ 1)
การเบิกจ่ายงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ เงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 8,107 ล้านบาท งบลงทุนของกรมทางหลวง จำนวน 7,918 ล้านบาท งบลงทุนของกรมทางหลวงชนบท จำนวน 5,389 ล้านบาท และเงินอุดหนุนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 2,938 ล้านบาท
1.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ขาดดุลจำนวน 10,647 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล จำนวน 12,310 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการถอนเงินฝากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก จำนวน 3,034 ล้านบาท การไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ จำนวน 2,649 ล้านบาท และการถอนเงินฝากคลังของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยสุทธิ จำนวน 1,840 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 23,549 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) เกินดุล จำนวน 592 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 189,327 ล้านบาท (ตารางที่ 2)
2. ฐานะการคลังในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560 - กุมภาพันธ์ 2561)
2.1 รายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 894,012 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 37,796 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 4.4) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz (ใบอนุญาต 4G)
2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1,378,010 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 4,070 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.3) ประกอบด้วยรายจ่ายปีปัจจุบัน จำนวน 1,271,697 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43.9 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย (2,900,000 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 1.8 และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน จำนวน 106,313 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 20.3 (ตารางที่ 3)
รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 1,271,697 ล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ จำนวน 1,130,010 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 49.6 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลง จำนวน 2,279,398 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 1.9 และรายจ่ายลงทุน จำนวน 141,687 ล้านบาท(คิดเป็นร้อยละ 22.8 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลง จำนวน 620,602 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 1.3
2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดขาดดุล จำนวน 549,331 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ จำนวน 483,998 ล้านบาท และขาดดุลเงินนอกงบประมาณ จำนวน 65,333 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุมาจากการถอนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งวดที่ 10 – 12 จำนวน 30,220 ล้านบาท การส่งคืนเงินกันชดเชยให้แก่ผู้ส่งออกเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวน 10,448 ล้านบาท และการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ จำนวน 5,586 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินโดยการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 214,900 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับ จำนวน 334,431 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 189,327 ล้านบาท (ตารางที่ 4)
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9020 ต่อ 3563
ที่มา: กระทรวงการคลัง