“ดัชนี RSI เดือนตุลาคม 2561 ชี้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวดีทั่วทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม”
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังนายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนตุลาคม 2561 ว่า “การประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เป็นสำคัญ”
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก มีทิศทางการขยายตัวดีอยู่ที่ระดับ 81.6 โดยเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า จะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคการลงทุนและภาคอุตสาหกรรมภายในภูมิภาค เนื่องจากคาดว่าการปรับปรุงกฎหมายผังเมืองในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกจะมีความชัดเจนมากขึ้น เพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ประกอบกับมีการลงทุนธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว สำหรับภาคอุตสาหกรรม เริ่มมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยเสริมสร้างการขยายตัวของเศรษฐกิจ อาทิ ในจังหวัดปราจีนบุรี เริ่มมีการก่อสร้างและขยายถนนในเส้นทางหลักมายังแหล่งอุตสาหกรรมของจังหวัด และเชื่อมโยงเส้นทางจากพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก มีแนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 75.0 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและการลงทุนเป็นหลัก ในส่วนของภาคบริการ เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยว จึงคาดว่าจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการลงทุน มีการเร่งดำเนินการก่อสร้างในโครงการลงทุนขั้นพื้นฐานจากภาครัฐ เช่น รถไฟทางคู่ และการผลักดันโครงการมอเตอร์เวย์ ตลอดจนความชัดเจนของการเลือกตั้งที่จะเกิดในปี 2562 จะช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนือยังอยู่ที่เกณฑ์ดีที่ระดับ 73.6 โดยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและการบริการเป็นหลัก ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัวตามแนวโน้มของเศรษฐกิจภูมิภาค และความต้องการสินค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของการบริการ คาดว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐและภาคเอกชนจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าภาคบริการจะขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 73.5 เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ โดยสำหรับภาคอุตสาหกรรม มีจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการที่มีความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว ขณะที่ภาคบริการได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจภาคบริการตามฤดูการท่องเที่ยว สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 68.6 เนื่องจากแนวโน้มที่ดีขึ้นในภาคบริการและภาคเกษตร ในส่วนของภาคบริการ มีแนวโน้มขยายตัวจากการส่งเสริมของภาครัฐและภาคเอกชนในการท่องเที่ยว รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีเพิ่มมากขึ้น ส่วนในภาคเกษตร คาดว่า สภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกและเริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ ยังอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่ที่ 68.6 จากแนวโน้มการลงทุนและภาคบริการที่ดี เนื่องจากเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว และมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากบริษัทเอกชน ภาคบริการเริ่มมีการตื่นตัวในพัฒนา และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ปี 2562 มากขึ้น คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมห้องพัก และบริษัทนำเที่ยว สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 61.5 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตามดัชนีแนวโน้มในอีก 6 เดือนข้างหน้าของภาคเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 75.5
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3254 หรือ 3223
ที่มา: กระทรวงการคลัง