ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำเดือนธันวาคม 2550 และในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม — ธันวาคม 2550)
นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งขาดดุลเงินสดต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามจำนวน 5,031 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 115,646 ล้านบาท สูงกว่าการขาดดุลช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 83.9 โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 64,008 ล้านบาท และการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 51,638 ล้านบาท การขาดดุลเงินสดที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาสแรกดังกล่าวเป็นผลมาจากการเร่งการใช้จ่ายด้านการลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 176.7 ทั้งนี้ การขาดดุลดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายของการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลของรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระดับร้อยละ 5.0 ในปี 2551 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ฐานะการคลังเดือนธันวาคม 2550
1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 95,921 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.8 เนื่องจากการลดลงของภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และรายได้นำส่งคลังของรัฐวิสาหกิจ ส่วนภาษีที่สำคัญที่สามารถจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษียาสูบ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 110,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.8 การเบิกจ่ายที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากคือรายจ่ายลงทุน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 4,188 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.5 โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 มีผลบังคับใช้ล่าช้า ขณะที่รายจ่ายประจำขยายตัวร้อยละ 13.6 ส่วนรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อนลดลงร้อยละ 18.9 (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในเดือนธันวาคม 2550
เดือนธันวาคม เปรียบเทียบ
2550 2549 จำนวน ร้อยละ
1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 97,846 83,127 14,719 17.7
1.1 รายจ่ายประจำ 88,182 77,651 10,531 13.6
1.2 รายจ่ายลงทุน 9,664 5,476 4,188 76.5
2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 13,021 16,055 -3,035 -18.9
3. รายจ่ายรวม (1+2) 110,867 99,182 11,685 11.8
ที่มา: กรมบัญชีกลาง
1.3 จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้นส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนธันวาคม 2550 ขาดดุล 14,946 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณซึ่งเกินดุล 9,915 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดขาดดุล 5,031 ล้านบาท โดยรัฐบาลกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลด้วยการออกพันธบัตรจำนวน 17,500 ล้านบาท (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดเดือนธันวาคม 2550
ธันวาคม เปรียบเทียบ
2550 2549 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 95,921 96,686 -765 -0.8
2. รายจ่าย 110,867 99,182 11,685 11.8
3. ดุลเงินงบประมาณ -14,946 -2,496 -12,450 498.9
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ 9,915 8,755 1,161 13.3
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -5,031 6,259 -11,290 -180.4
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 17,500 - - -
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) 12,469 6,259 6,210 99.2
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
2. ฐานะการคลังในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม — ธันวาคม 2550)
2.1 รายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 329,266 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.0 โดยรายได้จัดเก็บที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 393,274 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 31.0 โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบัน 357,895 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 21.6 ของวงเงินงบประมาณ (1,660,000 ล้านบาท) ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วมีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 16.5 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 35,379 ล้านบาท (ตารางที่ 3)
ตารางที่ 3 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551
ไตรมาสแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2551 ปีงบประมาณ 2550 จำนวน ร้อยละ
1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 357,895 257,858 100,037 38.8
1.1 รายจ่ายประจำ 303,166 238,080 65,086 27.3
1.2 รายจ่ายลงทุน 54,729 19,778 34,951 176.7
2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 35,379 42,321 -6,942 -16.4
3. รายจ่ายรวม (1+2) 393,274 300,179 93,095 31
ที่มา: กรมบัญชีกลาง
2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามกระแสเงินสด การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลที่ขยายตัวในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 31.0 ขณะที่รายได้นำส่งคลังขยายตัวร้อยละ 8.0 ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 64,008 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน 51,638 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 33,000 ล้านบาท และการจ่ายเงินจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 10,060 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลัง (ดุลเงินสด) ของรัฐบาลขาดดุล 115,646 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลชดเชยการขาดดุลดังกล่าวโดยการออกพันธบัตร 42,500 ล้านบาท และใช้เงินคงคลัง 73,146 ล้านบาท (ตารางที่ 4)
ตารางที่ 4 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2551
ไตรมาสแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2551 ปีงบประมาณ 2550 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 329,266 304,810 24,456 8
2. รายจ่าย 393,274 300,179 93,095 31
3. ดุลเงินงบประมาณ -64,008 4,630 -68,639 -1,482.30
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ -51,638 -67,529 15,892 -23.5
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -115,646 -62,899 -52,747 83.9
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 42,500 - - -
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) -73,146 -62,899 -10,247 16.3
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9021 ต่อ 3555, 3558
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 4/2551 15 มกราคม 51--
นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้แถลงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งขาดดุลเงินสดต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามจำนวน 5,031 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 115,646 ล้านบาท สูงกว่าการขาดดุลช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 83.9 โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 64,008 ล้านบาท และการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 51,638 ล้านบาท การขาดดุลเงินสดที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาสแรกดังกล่าวเป็นผลมาจากการเร่งการใช้จ่ายด้านการลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 176.7 ทั้งนี้ การขาดดุลดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายของการดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลของรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระดับร้อยละ 5.0 ในปี 2551 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ฐานะการคลังเดือนธันวาคม 2550
1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 95,921 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.8 เนื่องจากการลดลงของภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และรายได้นำส่งคลังของรัฐวิสาหกิจ ส่วนภาษีที่สำคัญที่สามารถจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษียาสูบ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 110,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 11.8 การเบิกจ่ายที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากคือรายจ่ายลงทุน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 4,188 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.5 โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2550 มีผลบังคับใช้ล่าช้า ขณะที่รายจ่ายประจำขยายตัวร้อยละ 13.6 ส่วนรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อนลดลงร้อยละ 18.9 (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในเดือนธันวาคม 2550
เดือนธันวาคม เปรียบเทียบ
2550 2549 จำนวน ร้อยละ
1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 97,846 83,127 14,719 17.7
1.1 รายจ่ายประจำ 88,182 77,651 10,531 13.6
1.2 รายจ่ายลงทุน 9,664 5,476 4,188 76.5
2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 13,021 16,055 -3,035 -18.9
3. รายจ่ายรวม (1+2) 110,867 99,182 11,685 11.8
ที่มา: กรมบัญชีกลาง
1.3 จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้นส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนธันวาคม 2550 ขาดดุล 14,946 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณซึ่งเกินดุล 9,915 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดขาดดุล 5,031 ล้านบาท โดยรัฐบาลกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลด้วยการออกพันธบัตรจำนวน 17,500 ล้านบาท (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดเดือนธันวาคม 2550
ธันวาคม เปรียบเทียบ
2550 2549 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 95,921 96,686 -765 -0.8
2. รายจ่าย 110,867 99,182 11,685 11.8
3. ดุลเงินงบประมาณ -14,946 -2,496 -12,450 498.9
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ 9,915 8,755 1,161 13.3
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -5,031 6,259 -11,290 -180.4
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 17,500 - - -
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) 12,469 6,259 6,210 99.2
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
2. ฐานะการคลังในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม — ธันวาคม 2550)
2.1 รายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 329,266 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.0 โดยรายได้จัดเก็บที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 393,274 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 31.0 โดยแบ่งออกเป็นรายจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบัน 357,895 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 21.6 ของวงเงินงบประมาณ (1,660,000 ล้านบาท) ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วมีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 16.5 ของวงเงินงบประมาณ (1,566,200 ล้านบาท) และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 35,379 ล้านบาท (ตารางที่ 3)
ตารางที่ 3 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2551
ไตรมาสแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2551 ปีงบประมาณ 2550 จำนวน ร้อยละ
1. รายจ่ายปีปัจจุบัน 357,895 257,858 100,037 38.8
1.1 รายจ่ายประจำ 303,166 238,080 65,086 27.3
1.2 รายจ่ายลงทุน 54,729 19,778 34,951 176.7
2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 35,379 42,321 -6,942 -16.4
3. รายจ่ายรวม (1+2) 393,274 300,179 93,095 31
ที่มา: กรมบัญชีกลาง
2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามกระแสเงินสด การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลที่ขยายตัวในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 31.0 ขณะที่รายได้นำส่งคลังขยายตัวร้อยละ 8.0 ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 64,008 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน 51,638 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิจำนวน 33,000 ล้านบาท และการจ่ายเงินจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 10,060 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลัง (ดุลเงินสด) ของรัฐบาลขาดดุล 115,646 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลชดเชยการขาดดุลดังกล่าวโดยการออกพันธบัตร 42,500 ล้านบาท และใช้เงินคงคลัง 73,146 ล้านบาท (ตารางที่ 4)
ตารางที่ 4 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2551
ไตรมาสแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ 2551 ปีงบประมาณ 2550 จำนวน ร้อยละ
1. รายได้ 329,266 304,810 24,456 8
2. รายจ่าย 393,274 300,179 93,095 31
3. ดุลเงินงบประมาณ -64,008 4,630 -68,639 -1,482.30
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ -51,638 -67,529 15,892 -23.5
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -115,646 -62,899 -52,747 83.9
6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 42,500 - - -
7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6) -73,146 -62,899 -10,247 16.3
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9021 ต่อ 3555, 3558
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 4/2551 15 มกราคม 51--