“ดัชนี RSI เดือนเมษายน 2562 ชี้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวดีทั่วทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร”
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2562 ว่า “การประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีทุกภูมิภาค นำโดยภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและการเกษตร เป็นสำคัญ”
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ทิศทางการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ระดับ 70.4 โดยใน 6 เดือนข้างหน้า จะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เนื่องจากคาดว่าจะมีการดำเนินการตามนโยบายอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ประกอบกับมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและมีการขยายกิจการเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวจากรัฐบาลและมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดีมาอยู่ที่ 70.4 จากแนวโน้มภาคการลงทุนและภาคการบริการที่ดี เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ประกอบกับรัฐบาลให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs สำหรับภาคการบริการ คาดว่าจะดีขึ้น ตามการสนับสนุนการท่องเที่ยวจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขยายตัวจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 69.9 เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุน โดยภาคอุตสาหกรรม คาดว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวสินค้าเกษตรที่สำคัญ ส่งผลให้มีผลผลิตป้อนโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการลงทุน มีผลจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนที่ฟื้นตัว หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีความชัดเจน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนือมีทิศทางอยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 69.4 โดยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและบริการเป็นหลัก ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะขยายตัวตามแนวโน้มการลงทุนภาคอุตสาหกรรมที่ยังส่งสัญญาณดีสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ในส่วนของภาคบริการ คาดว่าปรับตัวดีขึ้นจากการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นจิ่ว เริ่มคลี่คลาย รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจภาคบริการมีแนวโน้มที่ดี สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ มีแนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 66.7 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยคาดว่าภาคเกษตรจะขยายตัวจากผลผลิตยางพาราแลผลผลิตปาล์มน้ำมัน ส่วนภาคบริการคาดว่าจะเป็นผลมาจากการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ และความต้องการผลผลิตอาหารทะเลแปรรูปจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก มีแนวโน้มการเติบโตอยู่ที่ 60.0 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการเกษตรและภาคบริการเป็นหลัก ในส่วนของธุรกิจภาคบริการ มีสัญญาณขยายตัวดี เนื่องจากการลงทุนและการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการเกษตร คาดว่ามีการขยายตัวของผลผลิตภาคเกษตร ได้แก่ ข้าว สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม ตามความต้องการของตลาดและการบริโภคอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายช่วยขับเคลื่อนให้ภาคเกษตรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 58.6 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3254 หรือ 3223
ที่มา: กระทรวงการคลัง