“ดัชนี RSI เดือนกันยายน 2562 ชี้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจที่ขยายตัว โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้จากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเป็นปัจจัยสนับสนุน แต่ควรติดตามสถานการณ์ด้านการเกษตรของภาคกลาง”
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน 2562 ว่า “การประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) ชี้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจขยายตัว โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้จากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเป็นปัจจัยสนับสนุน แต่ควรติดตามสถานการณ์ด้านการเกษตรของภาคกลาง”
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 72.1 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยใน 6 เดือนข้างหน้า จะได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและบริการ เนื่องจากภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น แต่ในบางจังหวัด ผู้ประกอบการคาดการณ์ว่าการส่งออกอาจจะยังไม่ฟื้นตัวจากสงครามการค้า สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 67.4 สื่อถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจที่จะขยายตัวโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เนื่องจากคาดว่านโยบายรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนการผลิตและการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ในบางจังหวัดยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่อาจจะทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 65.3 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมและบริการ โดยคาดว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะดีขึ้นจากนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการเร่งดำเนินโครงการ EEC ประกอบกับมีการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยคาดว่าโครงการชิม ช้อป ใช้ จะส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนือ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 65.2 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคการจ้างงานเป็นหลัก ในส่วนของภาคบริการ เป็นผลมาจากการสนับสนุนของรัฐบาลในการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการจ้างงาน ภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มทรงตัว ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการมีการขยายตัวทั้งจากภาคการบริการด้านสุขภาพ ภาคธุรกิจขายปลีกและขายส่ง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการสนับสนุนการท่องเที่ยวจากภาครัฐ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ 60.8 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคต ที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคบริการเป็นหลัก โดยคาดว่าภาคบริการจะขยายตัวจากการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว ส่วนภาคเกษตรคาดว่าจะเป็นผลมาจากการขยายตัวของผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวนาปี มันสำปะหลัง สุกร น้ำนมดิบ และกุ้งขาวแวนนาไม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาตามความต้องการของตลาดและการบริโภคอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนภาคเกษตร สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล อยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 60.5 สื่อถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจที่จะขยายตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ จากความเชื่อมั่นในเรื่องของเศรษฐกิจที่ขยายตัวมากขึ้น แต่ยังมีบางจังหวัดที่ยังคาดว่าภาคการบริการจะหดตัวลง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 58.9 โดยควรติดตามสถานการณ์ในภาคเกษตร เนื่องจากคาดว่าปริมาณน้ำสำหรับการเกษตรจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3254 หรือ 3223
ที่มา: กระทรวงการคลัง