ฉบับที่ 33/2564 วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมิถุนายน 2564 ?เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2564 ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สะท้อนจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอลง โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวในอัตราที่สูงได้อย่างต่อเนื่อง? นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมิถุนายน 2564 พบว่า ?เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2564 ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สะท้อนจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอลง โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวในอัตราที่สูงได้อย่างต่อเนื่อง? โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ยังขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 20.6 และ 24.5 ต่อปี ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อน และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 27.0 และ 13.7 ตามลำดับ สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงยังคงขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 13.3 ต่อปี ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 43.1 จากระดับ 44.7 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลายลง เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ยังขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่มีสัญญาณชะลอลง โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 13.9 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 5.0 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -0.8 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.0 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้การก่อสร้างชะลอตัว ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวที่ร้อยละ 8.5 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 6.3 มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 23,699.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 43.8 ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่สูงสุด ในรอบ 11 ปี นอกจากนี้เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 41.6 ต่อปี โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะ ยางพารา ผักและผลไม้ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัวร้อยละ 111.9 110.2 และ 81.5 ต่อปี ตามลำดับ 2) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ภายในบ้าน อาทิ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 3) สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง ที่ยังคงมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง 4) กลุ่มสินค้าเกี่ยวเนื่องกับภาคการผลิตที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว เช่น เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น และ 5) สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ไม่รวมทองคำขยายตัวร้อยละ 78.5 และ 114.3 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณา มูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย อาเซียน-9 และจีน ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 123.9 42.8 และ 42.0 ต่อปี ตามลำดับ เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยภาคเกษตรยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 ต่อปี และขยายตัว เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 4.5 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และหมวดปศุสัตว์ ในขณะที่บริการด้านการท่องเที่ยว พบว่า ในเดือนมิถุนายน 2564 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) และนักธุรกิจ จำนวน 5,694 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รัฐบาลได้เปิดโครงการ ?ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์? เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และ ?สมุยพลัส? เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณสมบัติสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว โดยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งในส่วนของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตั้งแต่วันที่ 1 ? 25 กรกฎาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จำนวน 11,585 คน สำหรับภาคอุตสาหกรรม ที่สะท้อนจาก ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมิถุนายน 2564 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 80.7 จากระดับ 82.3 ในเดือนพฤษภาคม 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เริ่มมีการระบาดในคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 55.4 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ส่วนเสถียรภาพภายนอก ยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 246.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
?เศรษฐกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2564 ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สะท้อนจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอลง โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวในอัตราที่สูงได้อย่างต่อเนื่อง? 1. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ยังขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 20.6 และ 24.5 ต่อปี ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐานต่ำในปีก่อน และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 27.0 และ 13.7 ตามลำดับ สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงยังคงขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 13.3 ต่อปี ขณะที่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 43.1 จากระดับ 44.7 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลายลง เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%YoY) ?6.8% 0.0% ?15.1% ?5.1% ?6.7% ?3.9% 22.4% 11.3% 5.0% 8.2% %qoq_SA / %mom_SA 1.4% ?14.9% 7.4% -0.3% 4.5% 8.2% -11.8% 7.4% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY) ?30.6% ?23.6% ?60.2% ?30.3% ?5.0% ?24.0% 39.4% 32.7% 20.6% ?2.1% %qoq_SA / %mom_SA 2.5% ?48.6% 61.0% 11.3% ?17.0% -6.0% -6.9% 27.0% ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY) ?10.4% ?5.9% ?28.1% ?2.9% ?4.6% 1.2% 40.5% 41.1% 24.5% 17.7% %qoq_SA / %mom_SA 0.2% ?26.1% 38.7% ?7.5% 6.8% 3.2% -18.1% 13.7% ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%YoY) ?10.1% ?2.2% ?16.6% ?11.2% ?10.6% 8.8% n.a. 29.6%. n.a. 17.0% %qoq_SA / %mom_SA -8.0% ?11.5% 11.0% ?1.4% 12.4% n.a. -6.7% n.a. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ระดับ) 52.6 60.8 48.2 50.4 51.1 48.6 44.6 44.7 43.1 46.6 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) 1.0% ?6.6% ?6.5% -0.5% 12.0% 12.6% 12.0% 12.2% 13.3% 12.3% 2. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ยังขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่มีสัญญาณชะลอลง โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เชิงพาณิชย์ ในเดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 13.9 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผล ทางฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 5.0 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ลดลงจากช่วงเดียวกัน ปีก่อนร้อยละ -0.8 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.0 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้การก่อสร้างชะลอตัว ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว ที่ร้อยละ 8.5 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลขยายตัวร้อยละ 6.3 เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน (%YoY) ?10.3% ?3.9% ?17.0% ?15.4% ?4.9% 5.4% n.a. 33.6% n.a. 12.3% %qoq_SA / %mom_SA ?4.6% ?10.1% 2.8% 7.5% 6.1% n.a. -0.6% n.a. ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์(%YoY) ?15.2% ?24.4% ?44.2% ?1.3% 11.7% 5.9% 42.0% 40.6% 13.9% 21.0% %qoq_SA / %mom_SA ?6.9% ?25.6% 56.4% 2.7% ?10.8% -0.6% -5.3% 5.0% เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%YoY) ?12.9% ?17.8% ?12.3% ?10.4% ?11.3% 5.0% 14.3% 2.8% 8.5% 9.6% %qoq_SA / %mom_SA ?11.3% ?3.6% 7.4% ?3.4% 4.8% 5.8% -5.6% 6.3% ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY) ?0.5% ?4.3% 4.0% 1.6% ?3.1% 4.7% 1.3% 6.3% -0.8% 3.0% %qoq_SA / %mom_SA ?4.4% 7.7% ?3.4% ?2.5% 3.6% 3.6% -2.2% -2.0% ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) ?1.8% ?2.1% ?3.6% ?1.7% 0.4% 4.4% 9.7% 10.7% 10.1% 7.1% 3. การใช้จ่ายงบประมาณ สะท้อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณรวม ในเดือนมิถุนายน 2564 เบิกจ่ายได้จำนวน 276.3 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 266.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 217.8 พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 48.7 พันล้านบาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 9.9 พันล้านบาท ทำให้ใน 9 เดือนแรกในปีงบประมาณ 2564 มีการเบิกจ่ายรวม 2,389.2 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณ ปีปัจจุบันจำนวน 2,228.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,945.1 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 283.4 พันล้านบาท และ การเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 160.7 พันล้านบาท เครื่องชี้ ภาคการคลัง FY2563 FY2563 FY2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 พ.ค. มิ.ย. FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน 2,943.9 729.5 813.6 710.4 690.4 938.5 612.9 677.0 187.7 266.4 2,228.4 %YoY 5.6 ?18.3 21.6 20.4 8.6 28.7 ?24.7 ?4.7 6.1 26.6 ?1.1 รายจ่ายประจำ 2,575.9 703.5 750.4 602.8 519.3 865.5 526.2 553.4 148.8 217.8 1,945.1 %YoY 7.3 ?14.0 31.9 21.1 0.5 23.0 ?29.9 ?8.2 2.4 29.8 ?5.4 รายจ่ายลงทุน 367.9 26.0 63.3 107.6 171.1 73.0 86.7 123.6 38.9 48.7 283.4 %YoY ?5.0 ?65.4 ?36.9 16.1 43.7 180.9 37.1 14.9 23.3 13.9 43.9 รายจ่ายปีก่อน 224.9 80.6 62.8 32.8 48.7 79.8 54.2 26.8 8.7 9.9 160.7 %YoY ?11.8 13.9 2.9 ?54.0 ?6.0 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?11.2 ?1.7 ?8.8 รายจ่ายรวม 3,168.7 810.1 876.4 743.2 739.0 1,018.3 667.0 703.8 196.4 276.3 2,389.2 %YoY 4.1 ?15.9 20.0 12.3 7.5 25.7 ?23.9 ?5.3 5.2 25.3 ?1.7 4. มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 23,699.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 43.8 ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 11 ปี นอกจากนี้เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 41.6 ต่อปี โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะ ยางพารา ผักและผลไม้ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัวร้อยละ 111.9 110.2 และ 81.5 ต่อปี ตามลำดับ 2) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ภายในบ้าน อาทิ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ตู้เย็นและตู้แช่แข็ง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 3) สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง ที่ยังคงมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง 4) กลุ่มสินค้าเกี่ยวเนื่องกับภาคการผลิตที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว เช่น เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น และ 5) สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ไม่รวมทองคำขยายตัวร้อยละ 78.5 และ 114.3 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณา มูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย อาเซียน-9 และจีน ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 123.9 42.8 และ 42.0 ต่อปี ตามลำดับ ประเทศคู่ค้าหลัก 16 ประเทศ สัดส่วน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ส่งออกไปทั้งโลก 100.0% -5.9% 1.2% -15.2% -7.7% -2.0% 2.1% 31.9% 41.6% 43.8% 15.5% สหรัฐฯ 14.8% 9.7% -2.5% 8.9% 17.8% 16.2% 12.4% 30.4% 44.9% 41.2% 21.0% จีน 12.9% 2.2% -0.1% 12.1% 0.0% -2.6% 19.7% 29.2% 25.5% 42.0% 24.9% ญี่ปุ่น 9.8% -7.0% -5.7% -13.5% -13.0% 4.2% 6.4% 20.0% 27.4% 32.3% 12.6% สหภาพยุโรป 8.0% -12.6% -3.6% -30.7% -12.5% -3.7% 8.0% 51.9% 63.1% 42.2% 25.8% ทวีปออสเตรเลีย 4.9% -7.6% -4.0% -22.9% -12.8% 13.0% 21.1% 37.7% 35.1% 39.2% 28.5% ฮ่องกง 4.9% -3.6% 12.3% -8.6% -13.9% -2.0% -19.3% 16.3% 48.4% 36.6% -2.5% เวียดนาม 4.8% -7.8% -7.9% -21.0% -5.8% 3.7% 12.8% 44.6% 52.5% 42.1% 27.4% สิงคโปร์ 4.1% 7.2% 38.1% -0.2% 4.5% -10.7% -37.4% -3.0% 43.3% 25.4% -21.3% มาเลเซีย 3.8% -15.7% -22.8% -32.0% -6.6% -0.7% 36.6% 73.2% 101.1% 37.7% 53.3% อินโดนีเซีย 3.3% -16.2% 22.4% -6.2% -47.0% -33.5% -26.1% -0.1% 0.4% 109.2% -15.2% ตะวันออกกลาง 3.1% -12.9% 3.6% -22.2% -23.5% -10.3% -0.1% 41.8% 39.9% 25.9% 16.6% อินเดีย 2.4% -25.0% -11.0% -67.2% -21.3% 9.0% 7.6% 181.5% 243.8% 123.9% 54.8% แอฟริกา 2.4% -19.3% -15.5% -38.2% -16.6% -5.6% 11.1% 40.6% 60.2% 40.8% 23.5% ฟิลิปปินส์ 2.2% -26.9% -10.9% -47.0% -33.4% -16.9% 3.9% 84.2% 102.1% 48.6% 32.8% เกาหลีใต้ 1.8% -10.2% -4.5% -25.4% -7.1% -0.7% 19.0% 55.9% 66.5% 49.6% 36.5% ไต้หวัน 1.6% -5.4% 13.5% -11.9% -14.4% -5.7% 9.8% 35.6% 48.6% 32.1% 22.3% อาเซียน-9 23.9% -11.8% 4.2% -22.4% -15.1% -13.7% -5.5% 33.4% 49.1% 42.8% 11.2% อาเซียน-5 13.4% -12.2% 5.3% -19.7% -19.2% -15.0% -10.2% 27.0% 51.1% 48.7% 6.0% อินโดจีน-4 10.5% -11.1% 2.8% -25.9% -9.2% -12.0% 0.6% 42.3% 46.8% 36.3% 18.1% 5. เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยภาคเกษตรยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนมิถุนายน 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 ต่อปี และขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 4.5 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และหมวดปศุสัตว์ ในขณะที่บริการด้านการท่องเที่ยว พบว่า ในเดือนมิถุนายน 2564 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa: STV) รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) และนักธุรกิจ จำนวน 5,694 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้น ภาคการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รัฐบาลได้เปิดโครงการ ?ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์? เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 และ ?สมุยพลัส? เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณสมบัติสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว โดยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งในส่วนของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตั้งแต่วันที่ 1 ? 25 กรกฎาคม 2564มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว จำนวน 11,585 คน สำหรับภาคอุตสาหกรรม ที่สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมิถุนายน 2564 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 80.7 จากระดับ 82.3 ในเดือนพฤษภาคม 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เริ่มมีการระบาดในคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม (%YoY) ?5.9% ?13.1% ?7.6% ?7.1% 1.2% 3.3% 2.2% 0.7% 3.9% 2.8% %qoq_SA / %mom_SA ?5.5% 2.9% 0.8% 3.66% ?3.8% 1.4% 4.4% 4.5% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) ?9.3% ?6.7% ?20.4% ?8.5% ?1.6% 0.8% n.a. 25.8% n.a. 8.0% %qoq_SA / %mom_SA ?0.0% ?15.3% 12.0% 3.6% 2.0% n.a. 2.1% n.a. อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) 61.0% 66.9% 52.8% 60.4% 63.8% 67.0% n.a. 65.4% n.a. 65.3% ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ) 84.6 90.1 78.1 83.9 86.4 85.3 82.4 82.3 80.7 83.9 นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%YoY) ?83.2% ?38.0% ?100.0% ?100.0% ?99.9% ?99.7% 100.0% 100.0% 100.0% ?99.4% %qoq_SA / %mom_SA 64.2% ?100.0% ?4.8% - 51.3% 51.1% -32.8% -9.3% จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY) ?46.4% ?30.3% ?90.6% ?38.0% ?29.9% ?34.5% n.a. 140.2% n.a. ?15.3% 6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 55.4 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ส่วนเสถียรภาพภายนอก ยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 246.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องชี้ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ภายในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) 1.6% 1.1% 2.0% 1.3% 1.9% 2.0% n.a. n.a. n.a. 2.0% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) ?0.8% 0.4% ?2.7% ?0.7% ?0.4% ?0.5% 2.4% 2.4% 1.2% 0.9% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) 0.3% 0.5% 0.1% 0.3% 0.2% 0.1% 0.4% 0.5% 0.5% 0.3% หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) 51.8% 41.7% 45.8% 49.4% 51.8% 54.3% n.a. 55.4 n.a. 55.4% ภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 17.6 9.9 1.2 7.2 ?0.8 ?3.4 ?3.9 ?2.6 n.a. ?7.3 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 258.1 226.5 241.6 251.1 258.1 253.9 246.5 251.8 246.5 246.5 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 28.3 34.4 24.5 24.2 28.3 32.7 33.3 32.1 33.3 33.3 ตารางที่ 1 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ (Economic Indicators) เดือนมิถุนายน 2564 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ รายเดือน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 พ.ค. มิ.ย. YTD ภาวะเศรษฐกิจภายนอก ราคาน้ำมันดิบ Dubai (ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) /7 42.21 50.73 30.57 42.92 44.62 60.01 67.00 66.31 71.80 63.51 อัตราดอกเบี้ย Federal Fund (%)/7 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 ด้านอุปสงค์ การบริโภคภาคเอกชน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (%YoY) /1 ?6.8 ?0.0 ?15.1 ?5.1 ?6.7 ?3.9 22.4 11.3 5.0 8.2 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY)/13 ?30.7 ?23.6 ?60.2 ?30.3 ?5.0 ?24.0 39.4 32.7 20.6 ?2.1 ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY)/12 ?10.4 ?5.9 ?28.1 ?2.9 ?4.6 1.2 40.5 41.1 24.5 17.7 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.1 ?2.2 ?16.6 ?11.2 ?10.6 8.8 n.a. 29.6 n.a. 17.0 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (ระดับ) /5 52.6 60.8 48.2 50.4 51.1 48.6 44.6 44.7 43.1 46.6 การลงทุนภาคเอกชน ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.3 ?3.9 ?17.0 ?15.4 ?4.9 5.4 n.a. 33.6 n.a. 12.4 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY)/13 ?15.1 ?24.4 ?44.2 ?1.3 11.7 5.9 42.0 40.6 13.9 21.0 ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวม (%YoY) /1 ?12.9 ?17.8 ?12.3 ?10.4 ?11.3 5.0 14.3 2.8 8.5 9.6 ยอดขายปูนซีเมนต์ (%YoY) /14 ?0.5 ?4.3 4.0 1.6 ?3.1 4.7 1.3 6.3 ?0.8 3.0 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) /4 ?1.8 ?2.1 ?3.6 ?1.7 0.4 4.4 9.7 10.7 10.1 7.1 การค้าระหว่างประเทศ มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร/4 231.6 62.8 51.7 58.7 58.4 64.1 68.2 23.1 23.7 132.3 (%YoY) /4 ?5.9 1.2 ?15.2 ?7.7 ?2.0 2.1 31.9 41.6 43.8 15.5 ราคาสินค้าส่งออก (%YoY) /4 ?0.8 ?0.4 ?2.0 ?0.7 0.1 2.1 n.a. 4.4 n.a. 2.9 ปริมาณการส่งออก (%YoY)/14 ?5.3 1.4 ?13.4 ?7.2 ?2.1 0.1 n.a. 35.7 n.a. 7.6 มูลค่าการนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ระบบศุลกากร/4 206.2 58.2 44.8 48.3 54.9 63.6 66.3 22.3 22.8 129.9 (%YoY) /4 ?12.7 ?2.9 ?23.7 ?19.4 ?4.9 9.4 47.9 63.5 53.8 26.2 ราคาสินค้านำเข้า (%YoY) /4 ?2.0 ?0.9 ?5.1 ?1.5 ?0.5 6.1 n.a. 12.3 n.a. 8.7 ปริมาณการนำเข้า (%YoY)/14 ?10.7 ?1.9 ?19.6 ?17.4 ?3.8 2.9 n.a. 45.7 n.a. 11.9 ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร /4 25.5 4.6 6.9 10.4 3.5 0.5 1.9 0.8 0.9 2.4 ด้านอุปทาน ภาคการเกษตร ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร (%YoY) /6 ?5.9 ?13.1 ?7.6 ?7.1 1.2 3.3 2.2 0.7 3.9 2.8 ดัชนีราคาสินค้าเกษตร (%YoY) /6 6.1 8.7 ?1.4 6.3 11.0 9.3 12.8 14.6 10.9 11.0 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) /14 1.0 ?6.6 ?6.5 ?0.5 12.0 12.6 12.0 12.2 13.3 12.3 การจ้างงานภาคเกษตร (%YoY) /3 1.2 ?3.6 n.a. 0.4 3.9 n.a. n.a. n.a. n.a. n.a. ภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) /9 ?9.3 ?6.7 ?20.4 ?8.5 ?1.6 0.8 n.a. 25.8 n.a. 8.0 มูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /4 ?9.9 ?1.5 ?20.1 ?19.2 2.5 26.3 53.1 62.1 72.9 38.6 ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?11.8 ?2.7 ?21.4 ?21.0 ?1.2 20.5 n.a. 52.5 n.a. 26.2 อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) /9 61.0 66.9 52.8 60.4 63.8 67.0 n.a. 65.4 n.a. 65.3 การจ้างงานภาคอุตสาหกรรม (%YoY) /3 4.7 ?1.6 n.a. ?2.6 20.3 n.a. n.a. n.a. n.a. n.a. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)/8 84.6 90.1 78.1 83.9 86.4 85.3 82.4 82.3 80.7 83.9 ภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ (ล้านคน)/10 6.7 6.7 0.0 0.0 0.0 0.0 0.0 0.0 0.0 0.0 (%YoY) /14 ?83.2 ?38.0 ?100.0 ?100.0 ?99.9 -99.7 100 100 1000 ?99.4 จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)/10 ?46.4 ?30.3 ?90.6 ?38.0 ?29.9 -34.5 n.a 140.2 n.a ?15.3 การจ้างงานภาคบริการ (%YoY) /3 ?0.8 1.0 n.a. 3.1 ?4.6 n.a. n.a. n.a. n.a. n.a. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 31.3 31.3 31.9 31.3 30.6 30.3 31.4 31.3 31.4 30.8 ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 17.6 9.9 1.2 7.2 ?0.8 ?3.4 ?3.9 ?2.6 n.a. ?7.3 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 258.1 226.5 241.6 251.1 258.1 253.9 246.5 251.8 246.5 246.5 ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 28.3 34.4 24.5 24.2 28.3 32.7 33.3 32.1 33.3 33.3 เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) /3 1.6 1.1 2.0 1.3 1.9 2.0 n.a. n.a. n.a. 2.0 ดัชนีราคาผู้ผลิต (%YoY) /4 ?1.9 ?0.4 ?4.1 ?1.7 ?1.5 ?1.4 3.2 3.6 3.2 0.9 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) /4 ?0.8 0.4 ?2.7 ?0.7 ?0.4 ?0.5 2.4 2.4 1.2 0.9 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) /4 0.3 0.5 0.1 0.3 0.2 0.1 0.4 0.5 0.5 0.3 หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) /1 51.8 41.7 45.8 49.4 51.8 54.3 n.a. 55.4 n.a. 55.4 ภาคการคลัง (ปีงบประมาณ)/1 FY2563 FY2563 Q1 FY2563 Q2 FY2563 Q3 FY2563 Q4 FY2564 Q1 FY2564 Q2 FY2564 Q3 FY2564 พ.ค. FY2564 มิ.ย. FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)/1 2,943.9 729.5 813.6 710.4 690.4 938.5 612.9 677.0 187.7 266.4 2,228.4 (%YoY) /1 5.6 ?18.3 21.6 20.4 8.6 28.7 ?24.7 ?4.7 6.1 26.6 ?1.1 รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)/1 2,575.9 703.5 750.4 602.8 519.3 865.5 526.2 553.4 148.8 217.8 1,945.1 (%YoY) /1 7.3 ?14.0 31.9 21.1 0.5 23.0 ?29.9 ?8.2 2.4 29.8 ?5.4 รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)/1 367.9 26.0 63.3 107.6 171.1 73.0 86.7 123.6 38.9 48.7 283.4 (%YoY) /1 ?5.0 ?65.4 ?36.9 16.1 43.7 180.9 37.1 14.9 23.3 13.9 43.9 รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)/1 224.9 80.6 62.8 32.8 48.7 79.8 54.2 26.8 8.7 9.9 160.7 (%YoY) /1 ?11.8 13.9 2.9 ?54.0 ?6.0 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?11.2 ?1.7 ?8.8 รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)/1 3,168.7 810.1 876.4 743.2 739.0 1,018.3 667.0 703.8 196.4 276.3 2,389.2 (%YoY) /1 4.1 ?15.9 20.0 12.3 7.5 25.7 ?23.9 ?5.3 5.2 25.3 ?1.7 ที่มา: 1/กระทรวงการคลัง 2/ธนาคารแห่งประเทศไทย 3/สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4/กระทรวงพาณิชย์ 5/มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 6/สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 7/Reuters 8/สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 10/กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11/ กรมจัดเก็บประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร 12/กรมการขนส่งทางบก 13/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 14/คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง