?ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนกันยายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกภูมิภาค สะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง
เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(Coronavirus Disease 2019: COVID-19) มีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา?
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน 2564 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า ?ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนกันยายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในทุกภูมิภาค สะท้อนถึงความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) มีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา?
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 58.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ
ในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีเพียงพอ
ต่อการเพาะปลูก ประกอบกับพืชเศรษฐกิจที่สำคัญกำลังจะออกสู่ตลาด เช่น ข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น สำหรับภาคอุตสาหกรรม คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลาย ทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการผลิตเพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 57.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ยางพารา และส้มโอ เป็นต้น ในส่วนภาคอุตสาหกรรมคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวต่อเนื่อง ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลางอยู่ที่ระดับ 57.6 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลายลงและทำให้มียอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น สำหรับภาคบริการ คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าวจะคลี่คลายลงเช่นกัน ซึ่งจะทำให้สถานบริการต่างๆ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ 55.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรกรรมและภาคการจ้างงาน เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ข้าว และยางพารา เป็นต้น ในส่วนภาคการจ้างงานนั้น คาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลายลงและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ 52.4 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากในบางจังหวัดมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้สถานบริการที่ปิดตัวชั่วคราวสามารถกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง สำหรับภาคอุตสาหกรรมคาดว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลาย และทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 51.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรกรรมและภาคการจ้างงาน เนื่องจากปริมาณน้ำมีเพียงพอต่อการทำการเกษตร ประกอบกับความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ในส่วนภาคการจ้างงานคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่คลี่คลายลง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของกทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 45.6 สะท้อนภาวะอนาคตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการลงทุนและภาคการจ้างงาน อย่างไรก็ดี ภาคอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
กทม. และปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ดัชนีความเชื่อมั่น อนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค 45.6 57.6 55.8 52.4 57.6 58.6 51.0 ดัชนีแนวโน้มรายภาค 1) ภาคเกษตร 45.8 68.7 69.9 48.6 57.4 66.0 63.2 2) ภาคอุตสาหกรรม 53.7 62.5 52.8 55.4 61.9 73.5 48.4 3) ภาคบริการ 45.8 49.9 48.1 57.8 59.2 57.2 41.5 4) ภาคการจ้างงาน 42.8 53.8 55.9 51.2 52.7 51.3 51.5 5) ภาคการลงทุน 40.1 53.1 52.2 49.2 56.9 44.9 50.2
สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3254 ที่มา: กระทรวงการคลัง