..
ฉบับที่ 40/2564 วันที่ 29 กันยายน 2564 รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนสิงหาคม 2564 ?เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2564 ส่งสัญญาณชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ตามการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ที่มีสัญญาณชะลอตัวลง เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6" นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนสิงหาคม 2564 พบว่า ?เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2564 ส่งสัญญาณชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ตามการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอตัวลง เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6" โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนสิงหาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -35.0 และ -29.2 ต่อปี ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงร้อยละ -19.0 และ -21.9 ตามลำดับ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 39.6 จากระดับ 40.9 ในเดือนกรกฎาคม 2564 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ยังคงขยายตัวที่ร้อยละ 12.4 ต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น ตามมูลค่าการนำเข้าสินค้า นอกจากนี้รายได้เกษตรกรที่แท้จริงยังคงขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.9 ต่อปี เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชน ในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนสิงหาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -40.5 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงร้อยละ -26.2 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์หดตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -6.8 ต่อปี และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 5.0 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงที่ร้อยละ -8.3 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -4.2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้การก่อสร้างชะลอตัว อย่างไรก็ดี ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ร้อยละ 21.6 ต่อปี มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ 21,976.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ที่ร้อยละ 8.9 ต่อปี และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 19.4 ต่อปี โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะ ยางพารา ผักและผลไม้ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่ขยายตัวร้อยละ 98.8 84.8 และ 48.4 ต่อปี ตามลำดับ 2) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ โทรศัพท์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน อาทิ เตาอบไมโครเวฟ โทรทัศน์และส่วนประกอบ 3) สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง ที่ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 4) กลุ่มสินค้าเกี่ยวเนื่องกับภาคการผลิตที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว เช่น เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น และ 5) สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 17.8 และ 35.7 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะ การส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย จีน อาเซียน-5 และสหรัฐฯ ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 44.2 32.3 26.9 และ 16.2 ต่อปี ตามลำดับ เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ส่งสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนสิงหาคม 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.8 ต่อปี จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ข้าวโพดและหมวดไม้ผล อย่างไรก็ดี หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงที่ร้อยละ -0.7 สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ในเดือนสิงหาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -4.1 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -0.9 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 76.8 จากระดับ 78.9 ในเดือนกรกฎาคม 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลายลง อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออก ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนสิงหาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) และอื่น ๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist Visa) รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวสมาชิกสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) นักธุรกิจ กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยรวม จำนวน 15,105 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาตามโครงการ ?ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์? จำนวน 12,345 คน สำหรับการท่องเที่ยวของชาวไทย จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ 893,565 คน ลดลงร้อยละ -92.0 ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในหลายพื้นที่ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ -0.02 ต่อปี ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 0.45 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหารสด อาทิ ข้าว เนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้สดปรับตัวลดลง รวมถึงมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.07 ต่อปี ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 55.6 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 252.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
?เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2564 ส่งสัญญาณชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ตามการบริโภคและ การลงทุนภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอตัวลง เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6? 1. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภค สินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนสิงหาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -35.0 และ -29.2 ต่อปี ตามลำดับ และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงร้อยละ -19.0 และ -21.9 ตามลำดับ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 39.6 จากระดับ 40.9 ในเดือนกรกฎาคม 2564 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ยังคงขยายตัวที่ร้อยละ 12.4 ต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า ที่เพิ่มสูงขึ้น ตามมูลค่าการนำเข้าสินค้า นอกจากนี้รายได้เกษตรกรที่แท้จริงยังคงขยายตัวได้ที่ร้อยละ 5.9 ต่อปี เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%YoY) ?6.8% 0.0% ?15.1% ?5.1% ?6.7% ?3.9% 22.4% 22.9% 12.4% 10.4% %qoq_SA / %mom_SA 1.4% ?14.9% 8.4% -0.3% 4.5% 8.2% 2.1% -2.8% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY) ?30.6% ?23.6% ?60.2% ?30.4% ?5.0% ?16.7% 33.2% -9.8% -35.0% ?5.4% %qoq_SA / %mom_SA 2.5% ?48.6% 61.0% 11.3% ?11.6% -15.0% -14.1% -19.0% ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY) ?10.4% ?5.9% ?28.1% ?2.9% ?4.6% 1.2% 40.5% -17.7% -29.2% 6.2%% %qoq_SA / %mom_SA 0.2% ?26.1% 38.7% ?7.5% 6.8% 3.2% -13.8% -21.9% ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%YoY) ?10.1% ?2.2% ?16.6% ?11.3% ?10.6% 8.8% 25.9% 13.4% 15.3% 16.0% %qoq_SA / %mom_SA ?8.0% ?11.5% 11.0% ?1.4% 12.4% 2.6% 1.4% 0.2% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ระดับ) 52.6 60.8 48.2 50.4 51.1 48.6 44.6 40.9 39.6 45.0 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) 1.0% ?6.6% ?6.5% ?0.5% 12.0% 11.2% 10.3% 8.1% 5.9% 9.9% 2. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชน ในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนสิงหาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -40.5 ต่อปี และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงร้อยละ -26.2 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์หดตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -6.8 ต่อปี และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 5.0 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงที่ร้อยละ -8.3 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -4.2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้การก่อสร้างชะลอตัว อย่างไรก็ดี ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ร้อยละ 21.6 ต่อปี เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน (%YoY) ?10.3% ?3.9% ?17.0% ?15.3% ?4.9% 5.4% 25.0% 32.6% 21.6% 17.5% %qoq_SA / %mom_SA ?4.7% ?10.0% 2.8% 7.5% 6.0% 6.8% 1.7% ?4.3% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์(%YoY) ?15.1% ?24.4% ?44.2% ?1.3% 11.7% 5.9% 42.0% -12.4% -40.5% 6.6% %qoq_SA / %mom_SA ?6.9% ?25.3% 55.3% 2.2% ?10.1% -0.6% -12.8% -26.2% เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%YoY) ?12.9% ?17.8% ?12.3% ?10.4% ?11.3% 5.0% 14.3% -11.6% -8.3% 4.3% %qoq_SA / %mom_SA ?11.3% ?3.6% 7.4% ?3.4% 4.8% 5.8% -11.5% -4.2% ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY) ?0.5% ?4.3% 4.0% 1.6% ?3.1% 4.7% 1.3% -12.0% -6.8% 0.0% %qoq_SA / %mom_SA ?4.4% 7.7% ?3.4% ?2.5% 3.6% 3.6% -11.9% 5.0% ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) ?1.8% ?2.1% ?3.6% ?1.7% 0.4% 4.4% 9.7% 7.8% 8.8% 7.5% 3. การใช้จ่ายงบประมาณ สะท้อนจากการเบิกจ่ายงบประมาณรวม ในเดือนสิงหาคม 2564 เบิกจ่ายได้จำนวน 251.0 พันล้านบาท ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 36.7 ต่อปี โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 243.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 39.8 ต่อปี แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 203.6 พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 39.9 พันล้านบาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 7.5 พันล้านบาท ทำให้ในช่วง 11 เดือนแรก ในปีงบประมาณ 2564 มีการเบิกจ่ายรวม 2,905.9 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 2,732.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 2,372.1 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 360.3 พันล้านบาท และการเบิกจ่ายจากงบประมาณ ปีก่อน 173.5 พันล้านบาท เครื่องชี้ ภาคการคลัง FY2563 FY2563 FY2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 ก.ค. ส.ค. FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน 2,943.9 729.5 813.6 710.4 690.4 938.5 612.9 677.0 260.4 243.5 2,732.4 %YoY 5.6 ?18.3 21.6 20.4 8.6 28.7 ?24.7 ?4.7 16.4 39.8 3.1 รายจ่ายประจำ 2,575.9 703.5 750.4 602.8 519.3 865.5 526.2 553.4 223.5 203.6 2,372.1 %YoY 7.3 ?14.0 31.9 21.1 0.5 23.0 ?29.9 ?8.2 23.9 60.1 0.3 รายจ่ายลงทุน 367.9 26.0 63.3 107.6 171.1 73.0 86.7 123.6 37.0 39.9 360.3 %YoY ?5.0 ?65.4 ?36.9 16.1 43.7 180.9 37.1 14.9 ?14.9 ?15.0 25.4 รายจ่ายปีก่อน 224.9 80.6 62.8 32.8 48.7 79.8 54.2 26.8 5.3 7.5 173.5 %YoY ?11.8 13.9 2.9 ?54.0 ?6.0 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?42.5 ?20.7 ?11.0 รายจ่ายรวม 3,168.7 810.1 876.4 743.2 739.0 1,018.3 667.0 703.8 265.8 251.0 2,905.9 %YoY 4.1 ?15.9 20.0 12.3 7.5 25.7 ?23.9 ?5.3 14.0 36.7 2.1 4. มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ 21,976.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ที่ร้อยละ 8.9 ต่อปี และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 19.4 ต่อปี โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะ ยางพารา ผักและผลไม้ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่ขยายตัวร้อยละ 98.8 84.8 และ 48.4 ต่อปี ตามลำดับ 2) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ โทรศัพท์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้าน อาทิ เตาอบไมโครเวฟ โทรทัศน์และส่วนประกอบ 3) สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และถุงมือยาง ที่ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 4) กลุ่มสินค้าเกี่ยวเนื่องกับภาคการผลิตที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว เช่น เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น และ 5) สินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 17.8 และ 35.7 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะ การส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย จีน อาเซียน-5 และสหรัฐฯ ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 44.2 32.3 26.9 และ 16.2 ต่อปี ตามลำดับ ประเทศคู่ค้าหลัก 16 ประเทศ สัดส่วน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ส่งออกไปทั้งโลก 100.0% -5.9% 1.2% -15.2% -7.7% -2.0% 2.1% 31.9% 20.3% 8.9% 15.3% สหรัฐฯ 14.8% 9.6% -2.6% 8.9% 17.6% 16.0% 12.5% 30.4% 22.3% 16.2% 20.6% จีน 12.9% 2.0% -0.9% 12.1% -0.2% -2.6% 20.6% 29.2% 41.0% 32.3% 27.9% ญี่ปุ่น 9.8% -6.7% -5.5% -13.5% -12.2% 4.2% 6.2% 20.0% 23.3% 10.0% 13.5% สหภาพยุโรป 8.0% -12.7% -4.0% -30.7% -12.6% -3.7% 8.5% 51.9% 20.4% 12.8% 23.5% ทวีปออสเตรเลีย 4.9% -7.6% -4.0% -22.9% -12.9% 13.0% 21.2% 37.7% -6.8% -15.9% 16.7% ฮ่องกง 4.9% -3.6% 12.3% -8.6% -13.9% -2.0% -19.3% 16.3% 20.9% -9.5% -0.8% เวียดนาม 4.8% -7.9% -7.9% -21.0% -5.8% 3.6% 12.9% 44.6% 19.8% -17.2% 20.6% สิงคโปร์ 4.1% 7.2% 38.1% -0.2% 4.3% -10.6% -37.4% -3.0% 3.7% -23.8% -18.5% มาเลเซีย 3.8% -15.7% -22.9% -32.0% -6.7% -0.6% 36.7% 73.2% 17.2% 23.7% 44.7% อินโดนีเซีย 3.3% -16.0% 22.4% -6.2% -45.9% -33.4% -26.1% -0.1% 65.9% 150.0% 1.2% ตะวันออกกลาง 3.1% -13.2% 3.5% -22.2% -24.4% -10.3% 0.0% 41.8% 12.2% 32.1% 17.7% อินเดีย 2.4% -25.2% -11.4% -67.2% -21.7% 9.0% 8.0% 181.5% 75.3% 44.2% 55.6% แอฟริกา 2.4% -19.4% -15.5% -38.2% -17.0% -5.6% 11.2% 40.6% 17.9% 27.5% 23.3% ฟิลิปปินส์ 2.2% -27.0% -10.9% -47.0% -33.5% -17.0% 4.0% 84.2% 63.6% 55.2% 39.2% เกาหลีใต้ 1.8% -10.3% -4.9% -25.4% -7.1% -0.7% 19.5% 55.9% 44.3% 72.6% 41.6% ไต้หวัน 1.6% -5.6% 13.5% -11.9% -14.7% -5.8% 9.8% 35.6% 30.4% 30.1% 24.1% อาเซียน-9 23.9% -11.7% 4.2% -22.4% -14.9% -13.6% -5.5% 33.4% 22.1% 15.2% 12.9% อาเซียน-5 13.4% -12.2% 5.3% -19.7% -19.0% -15.0% -10.2% 27.0% 26.9% 26.9% 10.8% อินโดจีน-4 10.5% -11.1% 2.8% -25.9% -9.2% -12.0% 0.6% 42.3% 16.1% -0.03% 15.7% 5. เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ส่งสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนสิงหาคม 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.8 ต่อปี จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ข้าวโพดและหมวดไม้ผล อย่างไรก็ดี หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลลดลงที่ร้อยละ -0.7 สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ในเดือนสิงหาคม 2564 ลดลงที่ร้อยละ -4.1 ต่อปี และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -0.9 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 76.8 จากระดับ 78.9 ในเดือนกรกฎาคม 2564 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังไม่คลี่คลายลง อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออก ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนสิงหาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) และอื่น ๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist Visa) รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวสมาชิกสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) นักธุรกิจ กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยรวม จำนวน 15,105 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาตามโครงการ ?ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์? จำนวน 12,345 คน สำหรับการท่องเที่ยวของชาวไทย จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ 893,565 คน ลดลงร้อยละ -92.0 ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในหลายพื้นที่ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม (%YoY) ?5.9% ?13.1% ?7.6% ?7.1% 1.2% 1.9% 0.6% 8.4% 13.8% 3.8% %qoq_SA / %mom_SA ?5.5% 2.9% 0.8% 3.6% ?3.9% 1.1% 4.2% ?0.7% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) ?9.3% ?6.7% ?20.4% ?8.5% ?1.6% 0.8% 20.7% 3.9% -4.1% 7.1% %qoq_SA / %mom_SA -6.8% 5.7% 0.8% -3.4% 1.7% 3.0% -4.6% -0.9% อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) 61.0% 66.9% 52.8% 60.4% 63.8% 67.4% 62.7% 58.9% 57.4% 63.3% ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ) 84.6 90.1 78.1 83.9 86.4 85.3 82.4 78.9 76.8 82.4 นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%YoY) ?83.2% ?38.0% ?100.0% ?100.0% ?99.9% ?99.7% 100.0% 100.0% 100.0% ?98.9% %qoq_SA / %mom_SA 64.2% ?100.0% ?4.8% - 51.3% 51.1% 105.0% -47.2% จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY) ?46.4% ?30.3% ?90.6% ?38.0% ?29.9% ?34.5% 88.3% -91.3% -92.0% ?43.1% 6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ -0.02 ต่อปี ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 0.45 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหารสด อาทิ ข้าว เนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้สดปรับตัวลดลง รวมถึงมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.07 ต่อปี ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ร้อยละ 55.6 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 อยู่ในระดับสูงที่ 252.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องชี้ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ภายในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) 1.6% 1.1% 2.0% 1.3% 1.9% 2.0% 1.9% n/a n/a 1.9% ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม. 33) 0.9% 0.5% 1.2% 1.1% 0.7% 0.8% 0.7% 0.7% 0.7% 0.7% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) ?0.8% 0.4% ?2.7% ?0.7% ?0.4% ?0.53% 2.36% 0.45% ?0.02% 0.73% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) 0.3% 0.5% 0.1% 0.3% 0.2% 0.11% 0.44% 0.14% 0.07% 0.23% หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) 51.8% 41.7% 45.8% 49.4% 51.8% 54.3% 55.2% 55.6% n/a 55.6% ภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 17.6 9.9 1.2 7.2 ?0.8 -3.4 ?5.2 -0.7 n/a -9.3 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 258.1 226.5 241.6 251.1 258.1 245.5 246.5 248.0 252.0 252.0 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 28.3 34.4 24.5 24.2 28.3 32.7 33.3 31.7 30.2 30.2 ตารางที่ 1 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ (Economic Indicators) เดือนสิงหาคม 2564 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ รายเดือน 2563 2563 2564 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 ก.ค. ส.ค. YTD ภาวะเศรษฐกิจภายนอก ราคาน้ำมันดิบ Dubai (ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) /7 42.21 50.73 30.57 42.92 44.62 60.01 67.00 72.66 68.78 65.31 อัตราดอกเบี้ย Federal Fund (%)/7 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 ด้านอุปสงค์ การบริโภคภาคเอกชน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (%YoY) /1 ?6.8 ?0.0 ?15.1 ?5.1 ?6.7 ?3.9 22.4 22.9 12.4 10.4 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY)/13 ?30.6 ?23.6 ?60.2 ?30.4 ?5.0 ?16.7 33.2 ?9.8 ?35.0 ?5.4 ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY)/12 ?10.4 ?5.9 ?28.1 ?2.9 ?4.6 1.2 40.5 ?17.7 ?29.2 6.2 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.1 ?2.2 ?16.6 ?11.3 ?10.6 8.8 25.9 13.4 15.3 16.0 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (ระดับ) /5 52.6 60.8 48.2 50.4 51.1 48.6 44.6 40.9 39.6 45.0 การลงทุนภาคเอกชน ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.3 ?3.9 ?17.0 ?15.3 ?4.9 5.4 25.0 32.6 21.6 17.5 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY)/13 ?15.1 ?24.4 ?44.2 ?1.3 11.7 5.9 42.0 ?12.4 ?40.5 6.6 ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวม (%YoY) /1 ?12.9 ?17.8 ?12.3 ?10.4 ?11.3 5.0 14.3 ?11.6 ?8.3 4.3 ยอดขายปูนซีเมนต์ (%YoY) /14 ?0.5 ?4.3 4.0 1.6 ?3.1 4.7 1.3 ?12.0 ?6.8 0.0 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) /4 ?1.8 ?2.2 ?3.6 ?1.7 0.4 4.4 9.7 7.8 8.8 7.4 การค้าระหว่างประเทศ มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร/4 231.6 62.8 51.7 58.7 58.4 64.1 68.2 22.7 22.0 177.0 (%YoY) /4 ?5.9 1.2 ?15.2 ?7.7 ?2.0 2.1 31.8 20.3 8.9 15.2 ราคาสินค้าส่งออก (%YoY) /4 ?0.8 ?0.4 ?2.0 ?0.7 0.1 2.1 4.0 3.3 2.9 3.1 ปริมาณการส่งออก (%YoY)/14 ?5.2 1.6 ?13.4 ?7.1 ?2.1 ?0.1 26.7 16.4 5.9 11.8 มูลค่าการนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ระบบศุลกากร/4 206.2 58.2 44.8 48.3 54.9 63.6 66.3 22.5 23.2 175.6 (%YoY) /4 ?12.7 ?2.9 ?23.7 ?19.4 ?4.9 9.4 47.9 45.9 47.9 31.0 ราคาสินค้านำเข้า (%YoY) /4 ?2.0 ?0.9 ?5.1 ?1.5 ?0.5 6.1 12.3 11.1 9.3 9.4 ปริมาณการนำเข้า (%YoY)/14 ?11.0 ?1.9 ?19.6 ?18.1 ?4.5 2.9 31.6 31.4 35.3 19.7 ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร /4 25.5 4.6 6.9 10.4 3.5 0.5 1.9 0.2 ?1.2 1.4 ด้านอุปทาน ภาคการเกษตร ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร (%YoY) /6 ?5.9 ?13.1 ?7.6 ?7.1 1.2 1.9 0.6 8.4 13.8 3.8 ดัชนีราคาสินค้าเกษตร (%YoY) /6 6.1 8.7 ?1.4 6.3 11.0 9.3 12.8 0.8 ?6.4 7.5 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) /14 1.0 ?6.6 ?6.5 ?0.5 12.0 11.2 10.3 8.1 5.9 9.9 การจ้างงานภาคเกษตร (%YoY) /3 -0.1 -3.7 -0.3 -0.1 3.4 -0.1 2.8 n.a. n.a. 2.4 ภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) /9 ?9.3 ?6.7 ?20.4 ?8.5 ?1.6 0.8 20.7 3.9 -4.1 7.1 มูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /4 ?9.8 ?1.5 ?19.9 ?19.2 2.5 26.3 53.1 51.5 65.7 43.2 ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?11.8 ?2.7 ?21.2 ?21.0 ?1.2 20.4 44.2 42.9 57.3 35.6 อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) /9 61.0 66.9 52.8 60.4 63.8 67.4 62.7 58.9 57.4 63.3 การจ้างงานภาคอุตสาหกรรม (%YoY) /3 -1.0 -1.0 -4.8 0.4 1.6 -0.4 -0.2 n.a. n.a. -0.3 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)/8 84.6 90.1 78.1 83.9 86.4 85.3 82.4 78.9 76.8 83.2 ภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ (ล้านคน)/10 6.7 6.7 0.0 0.0 0.0 0.0 0.0 0.02 0.02 0.07 (%YoY) /14 ?83.2 ?38.0 ?100.0 ?100.0 ?99.9 -99.7 100 100 100.0 ?98.9 จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)/10 ?46.4 ?30.3 ?90.6 ?38.0 ?29.9 -34.5 88.3 -91.3 -92.0 -43.1 การจ้างงานภาคบริการ (%YoY) /3 1.1 1.3 -1.2 2.8 1.5 -0.6 3.2 n.a. n.a. 1.2 เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 31.3 31.8 31.7 31.3 30.6 30.3 31.4 32.6 33.2 31.3 ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 17.6 9.9 1.2 7.2 ?0.8 ?3.4 ?5.2 ?0.7 n.a. ?9.3 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 258.1 226.5 241.6 251.1 258.1 245.5 246.5 248.0 252.0 252.0 ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 28.3 34.4 24.5 24.2 28.3 32.7 33.3 31.7 30.2 30.2 เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) /3 1.6 1.1 2.0 1.3 1.9 2.0 1.9 n.a. n.a. 1.9 ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม. 33) 0.9 0.5 1.2 1.1 0.7 0.8 0.7 0.7 0.7 0.7 ดัชนีราคาผู้ผลิต (%YoY) /4 ?1.6 ?0.1 ?4.1 ?1.6 ?0.5 0.7 5.4 5.0 4.9 3.5 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) /4 ?0.8 0.4 ?2.7 ?0.7 ?0.4 ?0.53 2.36 0.45 ?0.02 0.73 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) /4 0.3 0.5 0.1 0.3 0.2 0.11 0.44 0.14 0.07 0.23 หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) /1 51.8 41.7 45.8 49.4 51.8 54.3 55.2 55.6 n.a. 55.6 ภาคการคลัง (ปีงบประมาณ)/1 FY2563 FY2563 Q1 FY2563 Q2 FY2563 Q3 FY2563 Q4 FY2564 Q1 FY2564 Q2 FY2564 Q3 FY2564 ก.ค. FY2564 ส.ค. FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)/1 2,943.9 729.5 813.6 710.4 690.4 938.5 612.9 677.0 260.4 243.5 2,732.4 (%YoY) /1 5.6 ?18.3 21.6 20.4 8.6 28.7 ?24.7 ?4.7 16.4 39.8 3.1 รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)/1 2,575.9 703.5 750.4 602.8 519.3 865.5 526.2 553.4 223.5 203.6 2,372.1 (%YoY) /1 7.3 ?14.0 31.9 21.1 0.5 23.0 ?29.9 ?8.2 23.9 60.1 0.3 รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)/1 367.9 26.0 63.3 107.6 171.1 73.0 86.7 123.6 37.0 39.9 360.3 (%YoY) /1 ?5.0 ?65.4 ?36.9 16.1 43.7 180.9 37.1 14.9 ?14.9 ?15.0 25.4 รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)/1 224.9 80.6 62.8 32.8 48.7 79.8 54.2 26.8 5.3 7.5 173.5 (%YoY) /1 ?11.8 13.9 2.9 ?54.0 ?6.0 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?42.5 ?20.7 ?11.0 รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)/1 3,168.7 810.1 876.4 743.2 739.0 1,018.3 667.0 703.8 265.8 251.0 2,905.9 (%YoY) /1 4.1 ?15.9 20.0 12.3 7.5 25.7 ?23.9 ?5.3 14.0 36.7 2.1 ที่มา: 1/กระทรวงการคลัง 2/ธนาคารแห่งประเทศไทย 3/สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4/กระทรวงพาณิชย์ 5/มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 6/สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 7/Reuters 8/สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 10/กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11/ กรมจัดเก็บประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร 12/กรมการขนส่งทางบก 13/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 14/คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่มา: กระทรวงการคลัง