S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ และมุมมองความน่าเชื่อถือที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 5, 2021 10:36 —กระทรวงการคลัง

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่                     4 ตุลาคม 2564  บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+  และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
          1. ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) มีความแข็งแกร่ง แม้ว่าการดำเนินนโยบายการคลัง           ผ่านมาตรการต่างๆของภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ            โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะทำให้การขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564?2565 และ         หนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี S&P คาดว่า ปี 2566 เมื่อสถานการณ์คลี่คลายรัฐบาล เศรษฐกิจฟื้นตัว รัฐบาล         จะสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นและจัดทำงบประมาณขาดดุลลดลง
สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของ                  ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่ S&P คาดว่า ปี 2564 เศรษฐกิจไทยจะเติบโต (GDP Growth) ประมาณร้อยละ 1.1 และจะเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3.6 ต่อปี ในช่วงปี 2565-2567 จากภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากสามารถควบคุมการระบาดของ COVID-19 และประชาชนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงได้ อีกทั้งคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไปอยู่ที่ระดับเดิมก่อนเกิด COVID-19 ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง และยังส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Public Private Partnership) เพื่อลดความเสี่ยงทางการคลังของรัฐบาลให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของภาครัฐ
2. ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล อีกทั้ง สภาพคล่องและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง โดย S&P คาดว่าสภาพคล่องต่างประเทศ (External liquidity) ของประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพด้านราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
3. ปัจจัยสำคัญที่ S&P จะติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ                อย่างเป็นรูปธรรม และเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบาย                   ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะปานกลาง





สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน
โทร. 02 265 8050 ต่อ 5505











ที่มา: กระทรวงการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ