ฉบับที่ 14/2565 วันที่ 27 เมษายน 2565 ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม 2565 ?เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว ที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและระดับราคาสินค้าภายในประเทศ? นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษา ด้านเศรษฐกิจการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม 2565 ว่า ?เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและระดับราคาสินค้าภายในประเทศ? โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.1 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 1.3 ขณะที่การบริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง ลดลงจากช่วงเดียวกัน ปีก่อนที่ร้อยละ -1.4 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 10.2 และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 7.6 อย่างไรก็ดี ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -8.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -9.6 และดัชนีความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคในเดือน มี.ค. 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 42.0 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และต้นทุนการผลิตสินค้าและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลง เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 1.5 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.0 และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 15.4 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ที่ร้อยละ -4.8 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมีนาคม 2565 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -2.7 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -0.5 และภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -14.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ที่ร้อยละ -14.8 มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ 28,859.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันที่ร้อยละ 19.5 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 8.9 โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากราคาพลังงานและ โภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยางยานพาหนะ เป็นต้น 2) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะน้ำตาลทราย ข้าว อาหารสัตว์เลี้ยง และสิ่งปรุงรสอาหาร ที่ขยายตัวร้อยละ 204.3 53.9 15.5 และ 9.7 ตามลำดับ 3) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์และอุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ภายในบ้าน อาทิ เตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ และ 4) สินค้า ที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ ที่ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออก ไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย อาเซียน 5 สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 43.3 34.8 21.5 และ 14.5 ตามลำดับ เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 4.9 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ยางพารา และสินค้าในหมวดไม้ผล เป็นต้น สำหรับด้านบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมีนาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 210,836 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจาก สหราชอาณาจักร เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอินเดีย ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนมีนาคม 2565 จำนวน 15.4 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 42.4 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 26.6 ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนี ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 89.2 จากระดับ 86.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้กิจกรรม ทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการต่างเร่งผลิตสินค้า เพื่อให้ส่งมอบก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตยังมีความกังวลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานในตลาดโลกสูงขึ้น และส่งผลให้ราคาต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากระดับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น สะท้อนจาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 5.73 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.00 ส่วนสัดส่วน หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ร้อยละ 60.2 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ในระดับสูงที่ 242.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
?เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและระดับราคาสินค้าภายในประเทศ? 1. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.1 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 1.3 ขณะที่การบริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -1.4 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 10.2 และรายได้เกษตรกร ที่แท้จริง ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 7.6 อย่างไรก็ดี ปริมาณรถจักรยานยนต์ จดทะเบียนใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -8.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -9.6 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน มี.ค. 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 42.0 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาน้ำมัน ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และต้นทุนการผลิตสินค้าและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคปรับตัวลดลง เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 ก.พ. มี.ค. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%YoY) ?6.6% 11.9% ?3.9% 22.0% 14.2% 17.4% 14.0% 27.7% 1.1% 14.0% %qoq_SA / %mom_SA 4.5% 7.8% 2.3% 1.8% 1.7% 1.3% 1.3% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY) ?30.6% ?10.1% ?16.7% 33.2% ?19.2% ?17.7% 16.0% 19.1% ?1.4% 16.0% %qoq_SA / %mom_SA ?12.3% ?12.6% ?4.8% 12.5% 23.8% 0.7% 10.2% ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY) ?10.4% 4.8% 1.2% 40.5% ?21.4% 9.1% 3.2% 14.4% ?8.6% 3.2% %qoq_SA / %mom_SA 4.6% 3.1% ?21.2% 28.4% ?1.2% 5.7% ?9.6% ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%YoY) ?10.1% 16.2% 8.8% 26.0% 15.6% 15.9% 5.9% 3.1% 3.5% 5.9% %qoq_SA / %mom_SA 11.4% 3.0% 1.8% ?0.8% 1.7% ?0.4% 0.8% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ระดับ) 52.6 44.7 48.6 44.6 40.6 45.0 43.4 43.3 42.0 43.4 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) 5.5% 0.6% 9.0% 11.8% ?1.9% ?8.7% 3.8% 3.4% 7.6% 3.8% 2. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 1.5 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.0 และปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 15.4 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ที่ร้อยละ -4.8 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมีนาคม 2565 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -2.7 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -0.5 และภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -14.6 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ที่ร้อยละ -14.8 เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 ก.พ. มี.ค. YTD เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน (%YoY) ?10.3% 15.1% 5.1% 25.0% 22.2% 10.0% 8.1% 6.3% 1.5% 8.1% %qoq_SA / %mom_SA 4.7% 7.0% 1.0% ?2.9% 3.0% ?0.6% ?2.0% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY) ?15.1% ?1.9% 5.9% 42.1% ?24.9% ?11.6% 20.6% 29.8% 15.4% 20.6% %qoq_SA / %mom_SA ?10.4% ?1.4% ?13.4% 15.0% 23.2 8.0% -4.8 เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%YoY) ?12.5% 3.4% 5.8% 14.3% ?8.5% 3.9% -1.8% 10.4% -14.6% -1.8% %qoq_SA / %mom_SA 5.1% 1.5% ?9.5% 7.3% -0.2% 7.8% -14.8% ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY) ?0.5% ?1.0% 4.7% 1.3% ?9.4% ?1.0% 0.0% 0.6% -2.7% 0.0% %qoq_SA / %mom_SA 3.9% 1.4% ?11.5% 6.3% 5.0% ?0.9% -0.5% ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) ?1.8% 8.0% 4.4% 9.7% 8.4% 9.8% 7.2% 6.7% 8.6% 7.2% 3. การใช้จ่ายงบประมาณ การเบิกจ่ายงบประมาณ ในเดือนมีนาคม 2565 เบิกจ่ายได้รวม จำนวน 293.8 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 272.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 231.3พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 40.9 พันล้านบาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 21.5 พันล้านบาท ทำให้ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 มีการเบิกจ่ายรวม 1,723.0 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 1,589.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,401.8 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 188.0 พันล้านบาท และการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 133.1 พันล้านบาท เครื่องชี้ภาคการคลัง FY2564 FY2564 FY2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 ก.พ.65 มี.ค.65 FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน 3,012.2 938.5 612.9 677.0 783.7 983.6 606.3 151.2 272.3 1,589.9 %YoY 2.3 28.7 ?24.7 ?4.7 13.5 4.8 -1.1 ?8.5 5.3 2.5 รายจ่ายประจำ 2,583.8 865.5 526.2 553.4 638.7 886.6 515.2 121.5 231.3 1,401.8 %YoY 0.3 23.0 ?29.9 ?8.2 23.0 2.4 -2.1 ?14.3 9.2 0.7 รายจ่ายลงทุน 428.4 73.0 86.7 123.6 145.0 97.0 91.0 29.8 40.9 188.0 %YoY 16.4 180.9 37.1 14.9 ?15.2 32.8 5.0 26.6 -12.0 17.7 รายจ่ายปีก่อน 196.5 79.8 54.2 26.8 35.8 75.5 57.6 17.6 21.5 133.1 %YoY ?12.6 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?26.5 ?5.3 6.4 8.8 7.7 ?0.6 รายจ่ายรวม 3,208.7 1,018.3 667.0 703.8 819.5 1,059.1 663.9 168.8 293.8 1,723.0 %YoY 1.3 25.7 ?23.9 ?5.3 10.9 4.0 -0.5 ?7.0 5.5 2.2 4. มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ 28,859.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันที่ร้อยละ 19.5 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 8.9 โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากราคาพลังงานและ โภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยางยานพาหนะ เป็นต้น 2) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะน้ำตาลทราย ข้าว อาหารสัตว์เลี้ยง และสิ่งปรุงรสอาหาร ที่ขยายตัวร้อยละ 204.3 53.9 15.5 และ 9.7 ตามลำดับ 3) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องโทรสาร โทรศัพท์และอุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้ภายในบ้าน อาทิ เตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ และ 4) สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ ที่ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออก ไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย อาเซียน 5 สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 43.3 34.8 21.5 และ 14.5 ตามลำดับ ประเทศคู่ค้าหลัก 16 ประเทศ สัดส่วน 2564 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 ก.พ. มี.ค. YTD ส่งออกไปทั้งโลก 100.0% 17.1% 1.9% 31.8% 15.3% 22.1% 14.9% 16.2% 19.5% 14.9% สหรัฐฯ 15.4% 21.5% 12.3% 30.4% 19.6% 24.3% 24.1% 27.2% 21.5% 24.1% จีน 13.7% 24.8% 19.7% 29.3% 32.2% 17.3% 4.2% 3.0% 3.2% 4.2% ญี่ปุ่น 9.2% 9.6% 5.9% 20.0% 15.4% -0.4% 1.2% 2.6% 1.0% 1.2% สหภาพยุโรป 8.3% 21.5% 8.5% 51.8% 14.1% 20.1% 3.6% 2.3% 8.0% 3.6% ทวีปออสเตรเลีย 4.8% 15.5% 21.1% 37.7% -6.9% 16.7% -2.5% -2.5% -1.3% -2.5% เวียดนาม 4.6% 12.3% 12.9% 44.6% -7.9% 5.0% -1.1% 5.3% -1.5% -1.1% มาเลเซีย 4.4% 38.1% 36.6% 72.5% 11.3% 40.2% 12.3% 19.9% 6.5% 12.3% ฮ่องกง 4.3% 2.6% -19.4% 15.7% 7.8% 9.2% 5.0% 29.8% -1.0% 5.0% สิงคโปร์ 3.3% -5.3% -37.4% -3.0% -2.5% 35.9% 56.3% 66.6% 100.5% 56.3% อินโดนีเซีย 3.3% 16.2% -28.2% 0.1% 91.4% 58.8% 38.1% 45.3% 31.1% 38.1% ตะวันออกกลาง 3.3% 21.6% -1.2% 41.8% 20.0% 34.5% 15.3% 13.8% 29.5% 15.3% อินเดีย 3.1% 55.1% 7.5% 181.3% 64.9% 47.5% 33.0% 23.0% 43.3% 33.0% ฟิลิปปินส์ 2.6% 39.8% 3.9% 84.7% 52.3% 40.5% 8.1% 1.2% 21.6% 8.1% แอฟริกา 2.5% 25.8% 11.4% 40.6% 25.3% 30.1% -1.5% -0.8% 4.9% -1.5% เกาหลีใต้ 2.2% 38.5% 17.5% 56.1% 51.3% 32.1% 22.7% 28.9% 14.5% 22.7% ไต้หวัน 1.7% 22.7% 9.8% 35.4% 27.2% 19.6% 9.7% 17.7% 9.4% 9.7% อาเซียน-9 24.0% 17.2% -5.9% 33.3% 18.3% 29.3% 17.0% 23.7% 19.0% 17.0% อาเซียน-5 13.7% 19.4% -10.8% 27.0% 26.5% 42.9% 26.9% 31.5% 34.8% 26.9% อินโดจีน-4 10.3% 14.4% 0.6% 42.1% 8.1% 13.4% 5.5% 14.4% 1.0% 5.5% 5. เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนมีนาคม 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 4.9 จากการเพิ่มขึ้น ของผลผลิตสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ยางพารา และสินค้าในหมวดไม้ผล เป็นต้น สำหรับด้านบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมีนาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 210,836 คน โดยส่วนใหญ่ เป็นนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอินเดีย ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนมีนาคม 2565 จำนวน 15.4 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 42.4 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 26.6 ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 89.2 จากระดับ 86.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการต่างเร่งผลิตสินค้าเพื่อให้ส่งมอบก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตยังมีความกังวลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานในตลาดโลกสูงขึ้น และส่งผลให้ราคาต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 ก.พ. มี.ค. YTD ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม (%YoY) ?1.7% 0.7% 0.1% 2.2% 4.1% ?1.5% 4.7% 8.8% 4.9% 4.7% %qoq_SA / %mom_SA ?8.5% 4.7% 1.9% 0.8% ?2.1% 4.4% ?7.1% ?2.1% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) ?9.5% 5.8% 0.7% 21.0% ?0.3% 4.7% n.a. 2.8 n.a. 2.4% %qoq_SA / %mom_SA 3.1% 1.4% ?7.6% 8.1% n.a. 0.9 n.a. อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) 60.1% 63.0% 66.3% 62.7% 58.5% 64.5% n.a. 64.8% n.a. 65.2% ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ) 84.6 82.7 85.3 82.4 78.2 84.8 88.0 86.7 89.2 88.0 นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%YoY) ?83.2% -93.6 ?99.7% 100.0% 100.0% 3,060.5% 2,367.2% 2,564.2% 3,029.5% 2,367.2% %qoq_SA / %mom_SA -78.7% 683.4% 187.1% 567.3% 36.9% 59.5% 56.3% 36.9% จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY) ?47.9% -41.7 ?34.4% 88.3% ?87.8% -29.7% 74.1% 72.2% 42.4% 74.1% %qoq_SA / %mom_SA -28.3% -41.5% -62.5% 336.4% 79.4% 11.7% 26.6% 6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากระดับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น สะท้อนจาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 5.73 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.00 ส่วนสัดส่วน หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อยู่ที่ร้อยละ 60.2 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ในระดับสูงที่ 242.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องชี้ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 ก.พ. มี.ค. YTD ภายในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) 6.6% 1.9% 2.0% 1.9% 2.3% 1.6% n.a. n.a. n.a. n.a. ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม.33) 0.89% 0.70% 0.77% 0.71% 0.70% 0.60% 0.82% 0.60% 1.31% 0.82% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) ?0.8% 1.23% -0.53% 2.36.% 0.70% 2.24% 4.75% 5.28% 5.73% 4.75% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) 0.3% 0.23% 0.11% 0.44% 0.13% 0.12% 1.43% 1.80% 2.00% 1.43% หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) 51.8% 59.6% 54.3% 55.2% 58.2% 59.6 n.a. 60.2% n.a. 60.2% ภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 21.2 ?10.9 ?1.2 ?2.5 ?5.2 ?1.7 n.a ?0.7 n.a ?2.9 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 258.1 246.0 245.5 246.5 244.7 246.0 242.4 245.1 242.4 242.4 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 28.3 33.2 32.7 33.3 32.7 33.2 30.5 31.7 30.5 30.5 ตารางที่ 1 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ (Economic Indicators) เดือนมีนาคม 2565 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ รายเดือน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 ก.พ. มี.ค. YTD ภาวะเศรษฐกิจภายนอก ราคาน้ำมันดิบ Dubai (ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) /7 42.21 69.27 60.01 67.00 71.42 78.65 95.40 91.91 110.83 95.40 อัตราดอกเบี้ย Federal Fund (%)/7 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 2.50?5.00 0.25?0.50 2.50?5.00 2.50?5.00 ด้านอุปสงค์ การบริโภคภาคเอกชน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (%YoY) /1 ?6.6 11.9 ?3.9 22.0 14.2 17.4 14.0 27.7 1.1 14.0 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY)/13 ?30.6 ?10.1 ?16.7 33.2 ?19.2 ?17.7 16.0 19.1 ?1.4 16.0 ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY)/12 ?10.4 4.8 1.2 40.5 ?21.4 9.1 3.2 14.4 ?8.6 3.2 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.1 16.2 8.8 26.0 15.6 15.9 5.9 3.1 3.5 5.9 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (ระดับ) /5 52.6 44.7 48.6 44.6 40.6 45.0 43.4 43.3 42.0 43.4 การลงทุนภาคเอกชน ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.3 15.1 5.1 25.0 22.2 10.0 8.1 6.3 1.5 8.1 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY)/13 ?15.1 ?1.9 5.9 42.1 ?24.9 ?11.6 20.6 29.8 15.4 20.6 ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวม (%YoY) /1 ?12.5 3.2 5.8 14.3 ?8.5 3.9 ?1.8 10.4 ?14.6 ?1.8 ยอดขายปูนซีเมนต์ (%YoY) /14 ?0.5 ?1.0 4.7 1.3 ?9.4 ?1.0 0.0 0.6 ?2.7 0.0 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) /4 ?1.8 8.0 4.4 9.7 8.4 9.8 7.2 6.7 8.6 7.2 การค้าระหว่างประเทศ มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร/4 231.6 271.2 64.0 68.2 67.7 71.3 73.6 23.5 28.9 73.6 (%YoY) /4 ?5.9 17.1 1.9 31.8 15.3 22.1 14.9 16.2 19.5 14.9 ราคาสินค้าส่งออก (%YoY) /4 ?0.8 3.3 2.1 4.0 3.1 3.8 3.9 3.8 4.5 3.9 ปริมาณการส่งออก (%YoY)/14 ?5.2 13.4 ?0.3 26.7 11.8 17.7 10.5 12.0 14.4 10.5 มูลค่าการนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ระบบศุลกากร/4 206.2 267.6 63.0 65.5 68.1 71.0 74.5 23.4 27.4 74.5 (%YoY) /4 ?12.7 29.8 8.2 46.3 41.0 29.4 18.4 16.8 18.0 18.4 ราคาสินค้านำเข้า (%YoY) /4 ?2.0 10.4 6.1 12.3 10.5 12.6 12.6 12.1 14.5 12.6 ปริมาณการนำเข้า (%YoY)/14 ?11.0 17.6 1.8 30.1 27.6 14.9 5.1 4.2 3.0 5.1 ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร/4 25.5 3.6 1.1 2.6 ?0.4 0.3 ?0.9 0.1 1.5 ?0.9 ด้านอุปทาน ภาคการเกษตร ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร (%YoY) /6 ?1.7 0.7 0.1 2.2 4.1 ?1.5 4.7 8.8 4.9 4.7 ดัชนีราคาสินค้าเกษตร (%YoY) /6 6.0 3.0 8.9 12.5 ?4.5 ?4.3 4.7 0.4 8.8 4.7 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) /14 5.5 0.6 9.0 11.8 ?1.9 ?8.7 3.8 3.4 7.6 3.8 การจ้างงานภาคเกษตร (%YoY) /3 -0.1 1.8 2.8 2.4 1.0 1.3 n.a. n.a. n.a. n.a. ภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) /9 ?9.5 5.8 0.7 21.0 ?0.3 4.7 n.a. 2.8 n.a. 2.4 มูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY)/4 ?9.8 39.1 26.3 53.0 53.6 27.8 7.3 6.3 ?2.8 7.3 ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?11.8 31.4 20.4 44.0 45.3 19.9 0.2 ?0.5 ?9.6 0.3 อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) /9 60.1 63.0 66.3 62.7 58.5 64.5 n.a. 64.8 n.a. 65.2 การจ้างงานภาคอุตสาหกรรม (%YoY) /3 -1.0 ?1.3 -0.4 -0.2 -0.4 -4.0 n.a. n.a. n.a. n.a. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)/8 84.6 82.7 85.3 82.4 78.2 84.8 88.0 86.7 89.2 88.0 ภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ (ล้านคน)/10 6.70 0.43 0.02 0.02 0.05 0.34 0.50 0.15 0.21 0.50 (%YoY) /14 ?83.2 ?93.6 -99.7 100.0 100.0 3,060.5 2,367.2 2,564.2 3,029.5 2,367.2 จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)/10 ?47.9 ?41.7 ?34.4 88.3 ?87.8 ?29.7 74.1 72.2 42.4 74.1 การจ้างงานภาคบริการ (%YoY) /3 1.1 ?0.2 -0.6 3.2 -1.5 -0.8 n.a. n.a. n.a. n.a. เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ รายเดือน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 ก.พ. มี.ค. YTD เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 31.4 32.0 30.3 31.4 33.0 33.4 33.1 32.7 33.3 33.1 ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 21.2 ?10.9 ?1.2 ?2.5 ?5.2 -1.7 n.a. ?0.7 n.a. ?2.9 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 258.1 246.0 245.5 246.5 244.7 246.0 242.4 245.1 242.4 242.4 ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 28.3 33.2 32.7 33.3 32.7 33.2 30.5 31.7 30.5 30.5 เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) /3 1.6 1.9 2.0 1.9 2.3 1.6 n.a. n.a. n.a. n.a. ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม. 33) 0.89 0.70 0.77 0.71 0.70 0.60 0.82 0.60 1.31 0.82 ดัชนีราคาผู้ผลิต (%YoY) /4 ?1.6 1.23 0.7 5.4 5.1 7.7 9.8 9.4 11.4 9.8 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) /4 ?0.8 1.23 ?0.53 2.36 0.70 2.24 4.75 5.28 5.73 4.75 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) /4 0.3 0.23 0.11 0.44 0.13 0.12 1.43 1.80 2.00 1.43 หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) /1 51.8 59.6 54.3 55.2 58.2 59.6 n.a. 60.17 n.a. 60.17 ภาคการคลัง (ปีงบประมาณ)/1 FY2564 FY2564 Q1 FY2564 Q2 FY2564 Q3 FY2564 Q4 FY2565 Q1 FY2565 Q2 FY2565 ก.พ.65 FY2565 มี.ค.65 FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)/1 3,012.2 938.5 612.9 677.0 783.7 983.6 606.3 151.2 272.3 1,589.9 (%YoY) /1 2.3 28.7 ?24.7 ?4.7 13.5 4.8 -1.1 ?8.5 5.3 2.5 รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)/1 2,583.8 865.5 526.2 553.4 638.7 886.6 515.2 121.5 231.3 1,401.8 (%YoY) /1 0.3 23.0 ?29.9 ?8.2 23.0 2.4 -2.1 ?14.3 9.2 0.7 รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)/1 428.4 73.0 86.7 123.6 145.0 97.0 91.0 29.8 40.9 188.0 (%YoY) /1 16.4 180.9 37.1 14.9 ?15.2 32.8 5.0 26.6 -12.0 17.7 รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)/1 196.5 79.8 54.2 26.8 35.8 75.5 57.6 17.6 21.5 133.1 (%YoY) /1 ?12.6 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?26.5 ?5.3 6.4 8.8 7.7 ?0.6 รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)/1 3,208.7 1,018.3 667.0 703.8 819.5 1,059.1 663.9 168.8 293.8 1,723.0 (%YoY) /1 1.3 25.7 ?23.9 ?5.3 10.9 4.0 -0.5 ?7.0 5.5 2.2 ที่มา: 1/กระทรวงการคลัง 2/ธนาคารแห่งประเทศไทย 3/สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4/กระทรวงพาณิชย์ 5/มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 6/สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 7/Reuters 8/สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 10/กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11/ กรมจัดเก็บประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร 12/กรมการขนส่งทางบก 13/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 14/คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่มา: กระทรวงการคลัง