ฉบับที่ 18/2565 วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนเมษายน 2565 ?เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว และภาคเกษตร อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลต่อระดับราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิต และค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด? นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนเมษายน 2565 ว่า ?เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว และภาคเกษตร อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลต่อระดับราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิต และค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด? โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 0.9 การบริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 20.6 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -9.2 ปริมาณรถจักรยานยนต์ จดทะเบียนใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -7.6 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 6.4 และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 8.0 อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเมษายน 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40.7 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้ราคาน้ำมัน ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 6.3 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 2.7 และปริมาณ การจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 4.4 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -6.0 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนเมษายน 2565 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -7.4 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ที่ร้อยละ -1.4 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.5 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 7.3 มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ 23,521.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันที่ร้อยละ 9.9 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 6.9 โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นตาม ราคาพลังงานโลก เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยางยานพาหนะ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น 2) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะน้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว และอาหารสัตว์เลี้ยง ที่ขยายตัวร้อยละ 87.9 49.5 44.0 และ 24.7 ตามลำดับ 3) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าคงทน อาทิ เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เครื่องโทรสาร โทรศัพท์และอุปกรณ์และส่วนประกอบ และ 4) สินค้าทางการแพทย์ เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย อาเซียน 5 ตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ ที่ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 43.4 26.9 25.4 และ 13.6 ตามลำดับ เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 2.7 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 4.6 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ยางพารา ไข่ไก่ และสินค้าในหมวดประมง เป็นต้น สำหรับด้านบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนเมษายน 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 293,350 คน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 3,339.4 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 66.3 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร อินเดีย เยอรมนี สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนเมษายน 2565 จำนวน 16.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 138.9 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 6.3 ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนเมษายน 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 86.2 จากระดับ 89.2 ในเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากผู้ประกอบการ มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิตทั้งจากราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวจากปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย มากขึ้น เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้า สะท้อนจาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 4.65 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.00 ส่วนสัดส่วน หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 60.6 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 รวมทั้งผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ ในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 0.3 ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2565 อยู่ในระดับสูงที่ 228.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
?เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของ ภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว และภาคเกษตร อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลต่อระดับราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิต และค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด? 1. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 0.9 การบริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 20.6 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -9.2 ปริมาณรถจักรยานยนต์ จดทะเบียนใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -7.6 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 6.4 และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 8.0 อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเมษายน 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40.7 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้ราคาน้ำมัน ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 มี.ค. เม.ย. YTD ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%YoY) ?6.6% 11.9% ?3.9% 22.0% 14.2% 17.4% 14.0% 1.1% 1.6% 10.5% %qoq_SA / %mom_SA 4.5% 7.8% 2.3% 1.8% 1.7% 1.2% 0.9% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY) ?30.6% ?10.1% ?16.7% 33.2% ?19.2% ?17.7% 16.0% ?1.4% 20.6% 17.0% %qoq_SA / %mom_SA ?12.3% ?12.6% ?4.8% 12.5% 23.8% 9.4% ?9.2% ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY) ?10.4% 4.8% 1.2% 40.5% ?21.4% 9.1% 3.2% ?8.6% ?7.6% 0.7% %qoq_SA / %mom_SA 4.6% 3.1% ?21.2% 28.4% ?1.2% ?9.9% 6.4% ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%YoY) ?10.1% 16.2% 8.8% 26.0% 15.6% 15.9% 5.9% 3.5% -4.9% 3.2% %qoq_SA / %mom_SA 11.4% 3.0% 1.8% ?0.8% 1.7% 0.5% -3.7% ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ระดับ) 52.6 44.7 48.6 44.6 40.6 45.0 43.4 42.0 40.7 42.7 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) 5.5% 0.7% 9.0% 11.8% ?1.9% ?8.7% 4.0% 8.0% 8.0% 4.8% 2. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดย การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 6.3 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 2.7 และปริมาณ การจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 4.4 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -6.0 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนเมษายน 2565 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -7.4 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ที่ร้อยละ -1.4 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.5 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 7.3 เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 มี.ค. เม.ย. YTD เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน (%YoY) ?10.3% 15.1% 5.1% 25.0% 22.2% 10.0% 8.1% 1.5% 6.3% 7.6% %qoq_SA / %mom_SA 4.7% 7.0% 1.0% ?2.9% 3.0% ?2.1% 2.7% ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY) ?15.1% ?1.9% 5.9% 42.1% ?24.9% ?11.6% 20.6% 15.4% 4.4% 16.7% %qoq_SA / %mom_SA ?10.4% ?1.4% ?13.4% 15.0% 23.2% ?5.1% ?6.0% เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%YoY) ?12.5% 3.4% 5.8% 14.6% ?8.5% 3.9% ?1.8% ?14.6% ?6.5% ?2.9% %qoq_SA / %mom_SA 5.1% 1.5% ?9.5% 7.3% ?0.2% ?14.5% 7.3% ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY) ?0.5% ?1.0% 4.7% 1.3% ?9.4% ?1.0% 0.0% ?2.7% ?7.4% ?1.7% %qoq_SA / %mom_SA 3.9% 1.4% ?11.5% 6.3% 5.0% ?0.9% ?1.4% ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) ?1.8% 8.0% 4.4% 9.7% 8.4% 9.8% 7.2% 8.6% 8.8% 7.6% 3. การใช้จ่ายงบประมาณ การเบิกจ่ายงบประมาณ ในเดือนเมษายน 2565 เบิกจ่ายได้รวม จำนวน 203.5 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 193.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 162.3 พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 31.6 พันล้านบาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 9.5 พันล้านบาท ทำให้ 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 มีการเบิกจ่ายรวม 1,926.5 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 1,783.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,564.2 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 219.7 พันล้านบาท และการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 142.6 พันล้านบาท เครื่องชี้ภาคการคลัง FY2564 FY2564 FY2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 มี.ค.65 เม.ย.65 FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน 3,012.1 938.5 612.9 677.0 783.7 983.6 606.3 272.3 193.9 1,783.9 %YoY 2.3 28.7 ?24.7 ?4.7 13.5 4.8 -1.1 5.3 ?12.9 0.5 รายจ่ายประจำ 2,583.7 865.5 526.2 553.4 638.7 886.6 515.2 231.3 162.3 1,564.2 %YoY 0.3 23.0 ?29.9 ?8.2 23.0 2.4 -2.1 9.2 ?13.1 ?0.9 รายจ่ายลงทุน 428.3 73.0 86.7 123.6 144.7 97.0 91.0 40.9 31.6 219.7 %YoY 16.4 180.9 37.1 14.9 ?15.2 32.8 5.0 -12.0 ?12.2 12.2 รายจ่ายปีก่อน 196.4 79.8 54.2 26.8 35.8 75.5 57.6 21.5 9.5 142.6 %YoY ?12.6 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?26.5 ?5.3 6.4 7.7 14.8 0.3 รายจ่ายรวม 3,208.6 1,018.3 667.0 703.8 819.4 1,059.1 663.9 293.8 203.5 1,926.5 %YoY 1.3 25.7 ?23.9 ?5.3 10.9 4.0 -0.5 5.5 ?12.0 0.5 4. มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ 23,521.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันที่ร้อยละ 9.9 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวร้อยละ 6.9 โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นตาม ราคาพลังงานโลก เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยางยานพาหนะ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น 2) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะน้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว และอาหารสัตว์เลี้ยง ที่ขยายตัวร้อยละ 87.9 49.5 44.0 และ 24.7 ตามลำดับ 3) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าคงทน อาทิ เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เครื่องโทรสาร โทรศัพท์และอุปกรณ์และส่วนประกอบ และ 4) สินค้าทางการแพทย์ เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า การส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าหลักของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลัก ได้แก่ อินเดีย อาเซียน 5 ตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ ที่ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 43.4 26.9 25.4 และ 13.6 ตามลำดับ ประเทศคู่ค้าหลัก 16 ประเทศ สัดส่วน 2564 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 มี.ค. เม.ย YTD ส่งออกไปทั้งโลก 100.0% 17.1% 1.9% 31.8% 15.3% 22.1% 14.9% 19.5% 9.9% 13.7% สหรัฐฯ 15.4% 21.5% 12.3% 30.4% 19.6% 24.3% 24.1% 21.5% 13.6% 21.5% จีน 13.7% 24.8% 19.7% 29.3% 32.2% 17.3% 4.2% 3.2% -7.3% 0.9% ญี่ปุ่น 9.2% 9.6% 5.9% 20.0% 15.4% -0.4% 1.2% 1.0% -0.3% 0.9% สหภาพยุโรป 8.3% 21.5% 8.5% 51.8% 14.1% 20.1% 3.6% 8.0% -0.6% 2.6% ทวีปออสเตรเลีย 4.8% 15.5% 21.1% 37.7% -6.9% 16.7% -2.5% -1.3% -4.5% -2.9% เวียดนาม 4.6% 12.3% 12.9% 44.6% -7.9% 5.0% -1.1% -1.5% 4.5% 0.4% มาเลเซีย 4.4% 38.1% 36.6% 72.5% 11.3% 40.2% 12.3% 6.5% 5.1% 10.4% ฮ่องกง 4.3% 2.6% -19.4% 15.7% 7.8% 9.2% 5.0% -1.0% 10.6% 6.5% สิงคโปร์ 3.3% -5.3% -37.4% -3.0% -2.5% 35.9% 56.3% 100.5% 68.4% 59.8% อินโดนีเซีย 3.3% 16.2% -28.2% 0.1% 91.4% 58.8% 38.1% 31.1% 22.0% 34.4% ตะวันออกกลาง 3.3% 21.6% -1.2% 41.8% 20.0% 34.5% 15.3% 29.5% 25.4% 17.7% อินเดีย 3.1% 55.1% 7.5% 181.3% 64.9% 47.5% 33.0% 43.3% 43.4% 35.8% ฟิลิปปินส์ 2.6% 39.8% 3.9% 84.7% 52.3% 40.5% 8.1% 21.6% 19.7% 10.9% แอฟริกา 2.5% 25.8% 11.4% 40.6% 25.3% 30.1% -1.5% 4.9% 14.9% 2.3% เกาหลีใต้ 2.2% 38.5% 17.5% 56.1% 51.3% 32.1% 22.7% 14.5% 11.5% 19.6% ไต้หวัน 1.7% 22.7% 9.8% 35.4% 27.2% 19.6% 9.7% 9.4% 19.3% 12.4% อาเซียน-9 24.0% 17.2% -5.9% 33.3% 18.3% 29.3% 17.0% 19.0% 19.0% 17.5% อาเซียน-5 13.7% 19.4% -10.8% 27.0% 26.5% 42.9% 26.9% 34.8% 26.9% 26.9% อินโดจีน-4 10.3% 14.4% 0.6% 42.1% 8.1% 13.4% 5.5% 1.0% 9.3% 6.4% 5. เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคเกษตร สะท้อนจาก ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 2.7 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 4.6 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ เช่น ข้าวเปลือก ยางพารา ไข่ไก่ และสินค้าในหมวดประมง เป็นต้น สำหรับด้านบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนเมษายน 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 293,350 คน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 3,339.4 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 66.3 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักร อินเดีย เยอรมนี สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนเมษายน 2565 จำนวน 16.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 138.9 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 6.3 ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนเมษายน 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 86.2 จากระดับ 89.2 ในเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากผู้ประกอบการ มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิตทั้งจากราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวจากปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย มากขึ้น เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 มี.ค. เม.ย. YTD ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม (%YoY) ?1.7% 0.9% 0.0% 2.3% 4.1% ?1.1% 4.8% 5.3% 2.7% 4.3% %qoq_SA / %mom_SA ?8.5% 4.7% 1.9% 0.8% ?2.1% ?7.2% 4.6% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) ?9.5% 5.8% 0.7% 21.0% ?0.3% 4.7% 1.4% -0.1% n.a. 1.4% %qoq_SA / %mom_SA 3.0% 1.4% ?7.5% 8.2% 0.0% 1.7% n.a. อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) 60.1% 63.0% 66.3% 62.7% 58.5% 64.5% 66.3% 68.8% n.a. 66.3% ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ) 84.6 82.7 85.3 82.4 78.2 84.8 88.0 89.2 86.2 87.5 นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%YoY) ?83.2% -93.6 ?99.7% 100.0% 100.0% 3,060.5% 2,367.2% 3,029.5% 3,339.4% 2,656.2% %qoq_SA / %mom_SA -78.7% 683.4% 187.1% 567.3% 36.9% 69.3% 66.3% จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY) ?47.9% -41.7 ?34.4% 88.3% ?87.8% -29.7% 74.1% 42.4% 138.9% 87.6% %qoq_SA / %mom_SA -28.3% -41.5% -62.5% 336.4% 79.4% 26.8% 6.3% 6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้า สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 4.65 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.00 ส่วนสัดส่วน หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 60.6 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 รวมทั้งผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ ในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 0.3 ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2565 อยู่ในระดับสูงที่ 228.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เครื่องชี้ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 มี.ค. เม.ย. YTD ภายในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) 1.6% 1.9% 2.0% 1.9% 2.3% 1.6% 1.5% n.a. n.a. 1.5% ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม.33) 0.89% 0.70% 0.77% 0.71% 0.70% 0.60% 0.82% 0.68% 0.30% 0.53% อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) ?0.8% 1.23% ?0.53% 2.36% 0.70% 2.24% 4.75% 5.73% 4.65% 4.71% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) 0.3% 0.23% 0.11% 0.44% 0.13% 0.12% 1.43% 2.00% 2.00% 1.58% หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) 52.0% 59.6% 54.5% 55.4% 58.4% 59.6% 60.6% 60.6% n.a. 60.6% ภายนอกประเทศ ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 21.2 ?10.6 ?1.2 ?2.5 ?5.2 ?1.7 ?1.6 1.2 n.a. -1.6 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 258.1 246.0 245.5 246.5 244.7 246.0 242.4 242.4 228.6 228.6 ฐานะสุทธิ Forward (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 28.3 33.2 32.7 33.3 32.7 33.2 30.5 30.5 32.1 32.1 ตารางที่ 1 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ (Economic Indicators) เดือนเมษายน 2565 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ รายเดือน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 มี.ค. เม.ย. YTD ภาวะเศรษฐกิจภายนอก ราคาน้ำมันดิบ Dubai (ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) /7 42.21 69.27 60.01 67.00 71.42 78.65 95.40 110.83 102.39 97.15 อัตราดอกเบี้ย Federal Fund (%)/7 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.00?0.25 0.25?0.50 0.25?0.50 0.25?0.50 0.25?0.50 ด้านอุปสงค์ การบริโภคภาคเอกชน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (%YoY) /1 ?6.6 11.9 ?3.9 22.0 14.2 17.4 14.0 1.1 1.6 10.5 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY)/13 ?30.6 ?10.1 ?16.7 33.2 ?19.2 ?17.7 16.0 ?1.4 20.6 17.0 ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY)/12 ?10.4 4.8 1.2 40.5 ?21.4 9.1 3.2 ?8.6 ?7.6 0.7 ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.1 16.2 8.8 26.0 15.6 15.9 5.9 3.5 -4.9 3.2 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (ระดับ) /5 52.6 44.7 48.6 44.6 40.6 45.0 43.4 42.0 40.7 42.7 การลงทุนภาคเอกชน ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?10.3 15.1 5.1 25.0 22.2 10.0 8.1 1.5 6.3 7.6 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY)/13 ?15.1 ?1.9 5.9 42.1 ?24.9 ?11.6 20.6 15.4 4.4 16.7 ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวม (%YoY) /1 ?12.5 3.4 5.8 14.3 ?8.5 3.9 ?1.8 ?14.6 ?6.5 ?2.9 ยอดขายปูนซีเมนต์ (%YoY) /14 ?0.5 ?1.0 4.7 1.3 ?9.4 ?1.0 0.0 ?2.7 ?7.4 ?1.7 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) /4 ?1.8 8.0 4.4 9.7 8.4 9.8 7.2 8.6 8.8 7.6 การค้าระหว่างประเทศ มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร/4 231.6 271.2 64.0 68.2 67.7 71.3 73.6 28.9 23.5 97.1 (%YoY) /4 ?5.9 17.1 1.9 31.8 15.3 22.1 14.9 19.5 9.9 13.7 ราคาสินค้าส่งออก (%YoY) /4 ?0.8 3.3 2.1 4.0 3.1 3.8 3.9 4.5 5.1 4.2 ปริมาณการส่งออก (%YoY)/14 ?5.2 13.4 ?0.3 26.7 11.8 17.7 10.5 14.4 4.6 9.0 มูลค่าการนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ระบบศุลกากร/4 206.2 267.6 63.0 65.5 68.1 71.0 74.5 27.4 25.4 100.0 (%YoY) /4 ?12.7 29.8 8.2 46.3 41.0 29.4 18.4 18.0 21.5 19.2 ราคาสินค้านำเข้า (%YoY) /4 ?2.0 10.4 6.1 12.3 10.5 12.6 12.6 14.5 14.3 13.1 ปริมาณการนำเข้า (%YoY)/14 ?11.0 17.6 1.8 30.1 27.6 14.9 5.1 3.0 6.3 5.4 ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ);ระบบศุลกากร/4 25.5 3.6 1.1 2.6 ?0.4 0.3 ?0.9 1.5 -1.9 ?2.9 ด้านอุปทาน ภาคการเกษตร ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร (%YoY) /6 ?1.7 0.9 0.0 2.3 4.1 ?1.1 4.8 5.3 2.7 4.3 ดัชนีราคาสินค้าเกษตร (%YoY) /6 6.0 3.0 8.9 12.5 ?4.5 ?4.3 4.7 8.8 10.1 6.0 รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) /14 5.5 0.7 9.0 11.8 ?1.9 ?8.7 4.0 8.0 8.0 4.8 การจ้างงานภาคเกษตร (%YoY) /3 -0.1 1.8 2.8 2.4 1.0 1.3 2.5 n.a. n.a. 2.5 ภาคอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) /9 ?9.5 5.8 0.7 21.0 ?0.3 4.7 1.4% -0.1% n.a. 1.4 มูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY)/4 ?9.8 39.1 26.3 53.0 53.6 27.8 7.3 ?2.8 11.8 8.4 ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (%YoY) /14 ?11.8 31.4 20.4 44.0 45.3 19.9 0.2 ?9.6 3.8 1.1 อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) /9 60.1 63.0 66.3 62.7 58.5 64.5 66.3 68.8 n.a. 66.3 การจ้างงานภาคอุตสาหกรรม (%YoY) /3 -1.0 ?1.3 -0.4 -0.2 -0.4 -4.0 2.8 n.a. n.a. 2.8 ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)/8 84.6 82.7 85.3 82.4 78.2 84.8 88.0 89.2 86.2 87.5 ภาคบริการ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ (ล้านคน)/10 6.70 0.43 0.02 0.02 0.05 0.34 0.50 0.21 0.29 0.79 (%YoY) /14 ?83.2 ?93.6 -99.7 100.0 100.0 3,060.5 2,367.2 3,029.5 3,339.4 2,656.2 จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)/10 ?47.9 ?41.7 ?34.4 88.3 ?87.8 ?29.7 74.1 42.4 138.9 87.6 การจ้างงานภาคบริการ (%YoY) /3 1.1 ?0.2 -0.6 3.2 -1.5 -0.8 0.2 n.a. n.a. 0.2 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ รายเดือน 2563 2564 2564 2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 มี.ค. เม.ย. YTD เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 31.4 32.0 30.3 31.4 33.0 33.4 33.1 33.3 33.8 33.2 ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 21.2 ?10.9 ?1.2 ?2.5 ?5.2 -1.7 ?1.6 1.2 n.a. ?1.6 ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 258.1 246.0 245.5 246.5 244.7 246.0 242.4 242.4 228.6 228.6 ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)/2 28.3 33.2 32.7 33.3 32.7 33.2 30.5 30.5 32.1 32.1 เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ อัตราการว่างงาน (%) /3 1.6 1.9 2.0 1.9 2.3 1.6 1.5 n.a. n.a. 1.5 ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม. 33) 0.89 0.70 0.77 0.71 0.70 0.60 0.82 0.68 0.30 0.53 ดัชนีราคาผู้ผลิต (%YoY) /4 ?1.6 4.7 0.7 5.4 5.1 7.7 9.8 11.4 12.8 10.6 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) /4 ?0.8 1.23 ?0.53 2.36 0.70 2.42 4.74 5.73 4.65 4.71 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) /4 0.3 0.23 0.11 0.44 0.13 0.12 1.43 2.00 2.00 1.58 หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) /1 52.0 59.6 54.5 55.4 58.4 59.6 60.6 60.6 n.a. 60.6 ภาคการคลัง (ปีงบประมาณ)/1 FY2564 FY2564 Q1 FY2564 Q2 FY2564 Q3 FY2564 Q4 FY2565 Q1 FY2565 Q2 FY2565 มี.ค.65 FY2565 เม.ย.65 FYTD รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)/1 3,012.1 938.5 612.9 677.0 783.7 983.6 606.3 272.3 193.9 1,783.9 (%YoY) /1 2.3 28.7 ?24.7 ?4.7 13.5 4.8 -1.1 5.3 ?12.9 0.5 รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)/1 2,583.7 865.5 526.2 553.4 638.7 886.6 515.2 231.3 162.3 1,564.2 (%YoY) /1 0.3 23.0 ?29.9 ?8.2 23.0 2.4 -2.1 9.2 ?13.1 ?0.9 รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)/1 428.3 73.0 86.7 123.6 144.7 97.0 91.0 41.0 31.6 219.7 (%YoY) /1 16.4 180.9 37.1 14.9 ?15.2 32.8 5.0 ?12.0 ?12.2 12.2 รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)/1 196.4 79.8 54.2 26.8 35.8 75.5 57.6 21.6 9.5 142.6 (%YoY) /1 ?12.6 ?1.0 ?13.7 ?18.3 ?26.5 ?5.3 6.4 7.7 14.8 0.3 รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)/1 3,208.6 1,018.3 667.0 703.8 819.4 1,059.1 663.9 293.9 203.5 1,926.5 (%YoY) /1 1.3 25.7 ?23.9 ?5.3 10.9 4.0 -0.5 5.5% -12.0% 57.8% ที่มา: 1/กระทรวงการคลัง 2/ธนาคารแห่งประเทศไทย 3/สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4/กระทรวงพาณิชย์ 5/มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 6/สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 7/Reuters 8/สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 10/กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11/ กรมจัดเก็บประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร 12/กรมการขนส่งทางบก 13/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 14/คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่มา: กระทรวงการคลัง