นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้แถลงข่าวรายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2551 ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2551 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนมาขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.6 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 5.0-6.0 ต่อปี) และเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีความสมดุลมากขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และการใช้จ่ายภาครัฐที่เร่งตัวขึ้น ตามนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงที่อุปสงค์ภายนอกประเทศมีแนวโน้มลดลงจากความเสี่ยงของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกในปี 2551 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ GDP คาดว่ายังคงเกินดุลอยู่ที่ร้อยละ 0.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 0.3-0.8) แต่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศในปี 2551 มีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 4.3-4.8 ต่อปี) ตามการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก โดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
1. ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยในปี 2551 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.6 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 5.0-6.0 ต่อปี) เพิ่มขึ้นจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2550 ที่ร้อยละ 4.8 ต่อปี โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่ายภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนในปี 2551 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.5 ต่อปี) เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.4 ในปี 2550 เนื่องจากรายได้ที่แท้จริงของภาคประชาชนมีแนวโน้มสูงขึ้นจากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก การเพิ่มขึ้นของเงินเดือนราชการและค่าจ้างขั้นต่ำ ในขณะที่มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน สำหรับการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากฐานที่ต่ำมากของการลงทุนที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 ต่อปีในปีก่อน มาขยายตัวที่ร้อยละ 9.7 ต่อปี ในปี 2551 (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 9.2-10.2 ต่อปี) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงจนใกล้เต็มกำลังการผลิต ประกอบกับโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจำนวนมากในปีก่อนและมาตรการรัฐบาลเพื่อสนับสนุนปีแห่งการลงทุน จะจูงใจให้ภาคเอกชนเร่งการลงทุนในปี 2551นี้ นอกจากนั้น การเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลภายใต้กรอบนโยบายการคลังที่ขาดดุลที่ร้อยละ 1.8 ของ GDP ในปีงบประมาณ 2551 และที่ร้อยละ 2.5 ของ GDP ในปีงบประมาณ 2552 รวมทั้งการเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ จะช่วยเพิ่มอุปสงค์การใช้จ่ายภายในประเทศ และช่วยจูงใจให้การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
ในด้านอุปสงค์ภายนอกประเทศสุทธิในปี 2551 มีแนวโน้มชะลอลง โดยปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2551 มีแนวโน้มขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.9 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 6.5-7.5 ต่อปี) จากที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 7.1 ในปี 2550 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประสบปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี โครงสร้างการส่งออกและนโยบายเร่งส่งออกที่เปลี่ยนไปยังประเทศเกิดใหม่ ซึ่งยังมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูง ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มรายได้จากการบริการท่องเที่ยวของต่างชาติ จะช่วยสนับสนุนให้ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการโดยรวมยังขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี สำหรับปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการในปี 2551 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศมาอยู่ที่ร้อยละ 10.3 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 9.8-10.8 ต่อปี) เร่งตัวขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่อปี ในปี 2550
2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศในปี 2551 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศมีปัจจัยเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2551 คาดว่าจะเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.3-0.8 ของ GDP) จากการเกินดุลการค้าที่ลดลงตามมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 13.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.5-14.5 ต่อปี) แต่มูลค่านำเข้าสินค้าเร่งตัวขึ้นตามการใช้จ่ายในประเทศมาอยู่ที่ร้อยละ 25.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 24.0-26.0 ต่อปี) อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2551 คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสูงขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.3-4.8 ต่อปี) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 7/2551 26 มีนาคม 2551--
1. ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทยในปี 2551 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.6 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 5.0-6.0 ต่อปี) เพิ่มขึ้นจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2550 ที่ร้อยละ 4.8 ต่อปี โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่ายภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน ทั้งนี้ การบริโภคภาคเอกชนในปี 2551 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นมาขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.5 ต่อปี) เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.4 ในปี 2550 เนื่องจากรายได้ที่แท้จริงของภาคประชาชนมีแนวโน้มสูงขึ้นจากรายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลก การเพิ่มขึ้นของเงินเดือนราชการและค่าจ้างขั้นต่ำ ในขณะที่มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน สำหรับการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากฐานที่ต่ำมากของการลงทุนที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 ต่อปีในปีก่อน มาขยายตัวที่ร้อยละ 9.7 ต่อปี ในปี 2551 (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 9.2-10.2 ต่อปี) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงจนใกล้เต็มกำลังการผลิต ประกอบกับโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจำนวนมากในปีก่อนและมาตรการรัฐบาลเพื่อสนับสนุนปีแห่งการลงทุน จะจูงใจให้ภาคเอกชนเร่งการลงทุนในปี 2551นี้ นอกจากนั้น การเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลภายใต้กรอบนโยบายการคลังที่ขาดดุลที่ร้อยละ 1.8 ของ GDP ในปีงบประมาณ 2551 และที่ร้อยละ 2.5 ของ GDP ในปีงบประมาณ 2552 รวมทั้งการเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ จะช่วยเพิ่มอุปสงค์การใช้จ่ายภายในประเทศ และช่วยจูงใจให้การลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
ในด้านอุปสงค์ภายนอกประเทศสุทธิในปี 2551 มีแนวโน้มชะลอลง โดยปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2551 มีแนวโน้มขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.9 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 6.5-7.5 ต่อปี) จากที่ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 7.1 ในปี 2550 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประสบปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพในภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี โครงสร้างการส่งออกและนโยบายเร่งส่งออกที่เปลี่ยนไปยังประเทศเกิดใหม่ ซึ่งยังมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูง ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มรายได้จากการบริการท่องเที่ยวของต่างชาติ จะช่วยสนับสนุนให้ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการโดยรวมยังขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี สำหรับปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการในปี 2551 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศมาอยู่ที่ร้อยละ 10.3 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 9.8-10.8 ต่อปี) เร่งตัวขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่อปี ในปี 2550
2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศในปี 2551 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศมีปัจจัยเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2551 คาดว่าจะเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0.3-0.8 ของ GDP) จากการเกินดุลการค้าที่ลดลงตามมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 13.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.5-14.5 ต่อปี) แต่มูลค่านำเข้าสินค้าเร่งตัวขึ้นตามการใช้จ่ายในประเทศมาอยู่ที่ร้อยละ 25.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 24.0-26.0 ต่อปี) อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2551 คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสูงขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.3-4.8 ต่อปี) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
--ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฉบับที่ 7/2551 26 มีนาคม 2551--