ฉบับที่ 134/2565 วันที่ 12 กันยายน 2565 ความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ณ วันที่ 12 กันยายน 2565
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565 ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 10,416,889 ราย โดยเป็นการลงทะเบียน ผ่านเว็บไซต์ 7,366,170 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 3,050,719 ราย ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ 1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ 2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงาน รับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565 สำหรับการลงทะเบียนในช่วงวันหยุดเสาร์ ? อาทิตย์ ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่สาขาของธนาคารข้างต้นที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ในวันธรรมดา
โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการเปิดรับลงทะเบียนที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในเรื่องการลงทะเบียน โดยขอชี้แจงประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
1. ประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน ซึ่งหากเป็นประชาชนที่มีครอบครัวแล้ว สามารถลงทะเบียนได้ทั้งสามีและภรรยา ซึ่งหากทั้งสามีและภรรยาผ่านการตรวจสอบเกณฑ์คุณสมบัติ ก็ย่อมมีสิทธิ์ในการรับสวัสดิการของรัฐตามโครงการฯ ?ไม่ใช่หนึ่งครอบครัวหนึ่งสิทธิ? 2. ผู้ลงทะเบียนสามารถเลือกช่องทางการลงทะเบียนได้ตามที่ผู้ลงทะเบียนสะดวก ได้แก่ 1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ หรือ 2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน โดยกรณีที่ผู้ลงทะเบียนเป็นคนโสดหรือไม่มีครอบครัวสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์โดยไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม สำหรับกรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัวสามารถไปที่หน่วยงานรับลงทะเบียนพร้อมทั้งครอบครัว โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน คู่สมรสและบุตร แสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียนสำหรับกรณีที่คู่สมรสและบุตรไม่ได้เดินทางมาแสดงตัวที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนสามารถนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรสและบุตรพร้อมลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียนได้เช่นเดียวกัน 3. ผู้ลงทะเบียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนแทนได้ ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดหนังสือมอบอำนาจได้จากเว็บไซต์ ของโครงการฯ หรือติดต่อขอรับได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย การลงทะเบียนในครั้งนี้ได้จัดให้ มีผู้ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับลงทะเบียนตามจุดรับลงทะเบียน โดยเป็นผู้ที่อยู่อาศัย ผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความคุ้นเคยกับผู้ลงทะเบียนและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง มีความร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการขอความอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ในการลงทะเบียน สำหรับเอกสารที่ต้องยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียน ในกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย (1) แบบฟอร์มการลงทะเบียนที่ลงนามโดยผู้ลงทะเบียน (ลงนามในส่วนที่ 7 และ 8) (2) หนังสือมอบอำนาจ (3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน (ผู้มอบอำนาจ) พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง (4) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง และ (5) สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
4. การสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน โดยประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน โดยขอให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนยืนยันการลงทะเบียน และสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ยื่นเอกสาร ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ขอให้เก็บรักษาส่วนที่ 11 ของแบบฟอร์มลงทะเบียนเป็นหลักฐานในการยืนยันการลงทะเบียน อย่าให้สูญหาย เพื่อประโยชน์ต่อผู้ลงทะเบียนต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนทุกคนที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถ ?ตรวจสอบสถานะ การลงทะเบียน? ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือตรวจสอบผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยงานได้ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565
สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร 094-858-9794 (เวลาทำการ 08.30 ? 16.30 น.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ โทร. 08-5842-7102 , 08-5842-7103, 08-5842-7104 ,08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107 (เวลาทำการ 08.30 ? 16.30 น.) ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 (เวลาทำการ 08.30 ? 17.30 น.) ที่มา: กระทรวงการคลัง