รมช.คลัง เตรียมช่วยเหลือลูกจ้างประจำ สั่งพิจารณาแก้ระเบียบลูกจ้างประจำให้เข้าแท่งเช่นเดียวกับข้าราชการ และช่วยผู้ที่มีค่าจ้างตัน จะขยายเพดานเพิ่มให้อีก 20%
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ร.ต. หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการที่ข้าราชการพลเรือนเปลี่ยนระบบการกำหนดตำแหน่งจากระบบ “ซี” เป็นระบบแท่ง ดังนั้น การบริหารทรัพยากรบุคคลของลูกจ้างประจำต้องสอดคล้องกับแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลของข้าราชการพลเรือนด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องแก้ไขระเบียบลูกจ้างประจำ ซึ่งใช้มานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 และมอบนโยบายช่วยลูกจ้างประจำที่ค่าจ้างตันเพื่อให้มีรายได้เพียงพอแก่การครองชีพ โดยจะให้ขยายเพดานค่าจ้างเพิ่มขึ้น ประมาณการคร่าว ๆ ว่าควรขยายเพดานสูงขึ้นประมาณ 20% ซึ่งเทียบเคียงได้กับการขยายเพดานของพนักงานราชการ
โดยการแก้ไขดังกล่าวจะกำหนดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งใหม่ตามลักษณะงาน ซึ่งสอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนของข้าราชการ เช่น หมวดแรงงาน เปลี่ยนเป็นตำแหน่งอยู่ในประเภททั่วไป หมวดกึ่งฝีมือ หมวดฝีมือเปลี่ยนเป็นตำแหน่งอยู่ในประเภทชำนาญการ หมวดฝีมือพิเศษ เปลี่ยนเป็นตำแหน่งอยู่ในประเภทเชี่ยวชาญ สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับเพิ่ม คือจะกำหนดเพดานค่าจ้างเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งจะมีผลทำให้ลูกจ้างจำนวน 92,178 ราย ซึ่งปัจจุบันค่าจ้างตันจะได้รับการขยายขั้นเพิ่มขึ้น โดยประมาณการว่า หากระเบียบมีผลใช้บังคับและ มีการปรับค่าจ้างให้กับลูกจ้าง ที่ค่าจ้างตันคนละ 1 ขั้น จะใช้เงินเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 57.5 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 690.6 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังอาจได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษเพิ่ม เช่น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ ฝนหลวง ซึ่งแต่เดิมต้องเสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรีก่อน
ร.ต. หญิง ระนองรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า น่าเห็นใจลูกจ้างประจำมากที่ได้ค่าจ้างขั้นสูงน้อยทำให้ไม่เพียงพอแก่การครองชีพ เช่น นักการภารโรง คนงาน ยาม คนสวนซึ่งถือเป็นหมวดแรงงานค่าจ้างตันที่ 12,440 บาท เมื่อจัดอยู่ในประเภททั่วไปค่าจ้างใหม่จะตันที่ 14,930 บาท พนักงานขับรถยนต์ซึ่งถือเป็นหมวดฝีมือค่าจ้างตันที่ 15,260 บาท เมื่อจัดอยู่ในประเภทชำนาญการค่าจ้างใหม่จะตันที่ 18,320 บาท หัวหน้านักบินซึ่งถือเป็นหมวดฝีมือพิเศษเฉพาะเดิมค่าจ้างตันที่ 60,060 บาท เมื่อจัดอยู่ในประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะค่าจ้างใหม่จะตันที่ 72,080 บาท
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2551 มีลูกจ้างประจำ 215,523 ราย ปัจจุบันหลักการของร่างระเบียบดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย กรมบัญชีกลางจะจัดสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในจังหวัดอุดรธานี วันที่ 25 เมษายน 2551 และในจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 30 เมษายน 2551 การขยายขั้นค่าจ้างเพิ่มขึ้นดังกล่าวจะส่งผลให้ทางราชการต้องจ่ายบำเหน็จให้แก่ลูกจ้างที่พ้นจากราชการเพิ่มขึ้นประมาณ 135 ล้านบาท ด้วย ส่วนราชการที่มีลูกจ้างมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการมี 58,536 ราย กระทรวงสาธารณสุขมี 39,877 ราย กระทรวงกลาโหมมี 26,096 ราย
สำนักกฎหมาย กรมบัญชีกลาง
โทร 0-2271-0686-90 ต่อ 4443 , 4361
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 27/2551 11 เมษายน 51--
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ร.ต. หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการที่ข้าราชการพลเรือนเปลี่ยนระบบการกำหนดตำแหน่งจากระบบ “ซี” เป็นระบบแท่ง ดังนั้น การบริหารทรัพยากรบุคคลของลูกจ้างประจำต้องสอดคล้องกับแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลของข้าราชการพลเรือนด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องแก้ไขระเบียบลูกจ้างประจำ ซึ่งใช้มานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 และมอบนโยบายช่วยลูกจ้างประจำที่ค่าจ้างตันเพื่อให้มีรายได้เพียงพอแก่การครองชีพ โดยจะให้ขยายเพดานค่าจ้างเพิ่มขึ้น ประมาณการคร่าว ๆ ว่าควรขยายเพดานสูงขึ้นประมาณ 20% ซึ่งเทียบเคียงได้กับการขยายเพดานของพนักงานราชการ
โดยการแก้ไขดังกล่าวจะกำหนดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่งใหม่ตามลักษณะงาน ซึ่งสอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนของข้าราชการ เช่น หมวดแรงงาน เปลี่ยนเป็นตำแหน่งอยู่ในประเภททั่วไป หมวดกึ่งฝีมือ หมวดฝีมือเปลี่ยนเป็นตำแหน่งอยู่ในประเภทชำนาญการ หมวดฝีมือพิเศษ เปลี่ยนเป็นตำแหน่งอยู่ในประเภทเชี่ยวชาญ สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ได้รับเพิ่ม คือจะกำหนดเพดานค่าจ้างเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งจะมีผลทำให้ลูกจ้างจำนวน 92,178 ราย ซึ่งปัจจุบันค่าจ้างตันจะได้รับการขยายขั้นเพิ่มขึ้น โดยประมาณการว่า หากระเบียบมีผลใช้บังคับและ มีการปรับค่าจ้างให้กับลูกจ้าง ที่ค่าจ้างตันคนละ 1 ขั้น จะใช้เงินเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 57.5 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 690.6 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังอาจได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษเพิ่ม เช่น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ ฝนหลวง ซึ่งแต่เดิมต้องเสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรีก่อน
ร.ต. หญิง ระนองรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า น่าเห็นใจลูกจ้างประจำมากที่ได้ค่าจ้างขั้นสูงน้อยทำให้ไม่เพียงพอแก่การครองชีพ เช่น นักการภารโรง คนงาน ยาม คนสวนซึ่งถือเป็นหมวดแรงงานค่าจ้างตันที่ 12,440 บาท เมื่อจัดอยู่ในประเภททั่วไปค่าจ้างใหม่จะตันที่ 14,930 บาท พนักงานขับรถยนต์ซึ่งถือเป็นหมวดฝีมือค่าจ้างตันที่ 15,260 บาท เมื่อจัดอยู่ในประเภทชำนาญการค่าจ้างใหม่จะตันที่ 18,320 บาท หัวหน้านักบินซึ่งถือเป็นหมวดฝีมือพิเศษเฉพาะเดิมค่าจ้างตันที่ 60,060 บาท เมื่อจัดอยู่ในประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะค่าจ้างใหม่จะตันที่ 72,080 บาท
นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2551 มีลูกจ้างประจำ 215,523 ราย ปัจจุบันหลักการของร่างระเบียบดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย กรมบัญชีกลางจะจัดสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในจังหวัดอุดรธานี วันที่ 25 เมษายน 2551 และในจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 30 เมษายน 2551 การขยายขั้นค่าจ้างเพิ่มขึ้นดังกล่าวจะส่งผลให้ทางราชการต้องจ่ายบำเหน็จให้แก่ลูกจ้างที่พ้นจากราชการเพิ่มขึ้นประมาณ 135 ล้านบาท ด้วย ส่วนราชการที่มีลูกจ้างมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการมี 58,536 ราย กระทรวงสาธารณสุขมี 39,877 ราย กระทรวงกลาโหมมี 26,096 ราย
สำนักกฎหมาย กรมบัญชีกลาง
โทร 0-2271-0686-90 ต่อ 4443 , 4361
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 27/2551 11 เมษายน 51--