ฉบับที่ 19/2566 วันที่ 29 มิถุนายน 2566
ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนพฤษภาคม 2566
?เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย การบริโภคภาคเอกชน และตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่า
การส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงหดตัว แต่ในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า?
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ว่า ?เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย การบริโภคภาคเอกชน และตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้า
ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงหดตัว แต่ในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า? โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนพฤษภาคม 2566 เพิ่มขึ้นจาก
ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 29.4 และ 13.5 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 24.7 และ 10.2 ตามลำดับ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนพฤษภาคม 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 55.7 จากระดับ 55.0 ในเดือนก่อน
ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และสูงสุดในรอบ 39 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ
ที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น รวมถึงความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -6.5 และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -9.8
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชน
ในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนพฤษภาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน
ที่ร้อยละ 17.0 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 25.3 ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์
เชิงพาณิชย์ ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -12.4 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง
สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 8.1 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 3.8 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน
ปีก่อนที่ร้อยละ 4.1 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 33.6
มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวแต่ในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวม
ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ 24,340.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกัน
ปีก่อนที่ร้อยละ -4.6 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ลดลงที่ร้อยละ -1.4 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากส่งออกสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าเคมีภัณฑ์ สินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรลดลง เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี สินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี อาทิ ข้าว ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และน้ำตาลทราย โดยขยายตัวร้อยละ 84.6 55.5 และ 44.3 ตามลำดับ รวมทั้งสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ โดยขยายตัวร้อยละ 22.9 53.7 10.2 และ 8.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า
ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ดี ยังมีหลายตลาดที่ยังคงขยายตัวได้ดี อาทิ ตลาดทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป (15) และสหรัฐฯ ที่ขยายตัวร้อยละ 11.4 11.2 9.3 และ 4.2 ตามลำดับ นอกจากนี้
ยังมีตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States: CIS) ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 97.7
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนพฤษภาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.01 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจาก
ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 286.3 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 4.2 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนพฤษาคม 2566 จำนวน 19.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 24.5 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 13.3 สำหรับภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -10.7 จากการลดลงของผลผลิตสำคัญ อาทิ ยางพารา และมันสำปะหลัง อย่างไรก็ดี ผลผลิตในหมวดปศุสัตว์และประมงยังคงขยายตัวได้ ส่วนภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 92.5 จากระดับ 95.0 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยสำคัญด้านอุปสงค์จากต่างประเทศที่ลดลง ส่งผลให้การส่งออกชะลอตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคและการท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัว
เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี และแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.53 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.55 ส่วนสัดส่วน
หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ร้อยละ 61.6 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ ในเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.70 ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2566
อยู่ในระดับสูงที่ 220.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
?เศรษฐกิจไทยในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง
ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย การบริโภคภาคเอกชน และตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงหดตัว แต่ในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า?
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนพฤษภาคม 2566 เพิ่มขึ้นจาก
ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 29.4 และ 13.5 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 24.7 และ 10.2 ตามลำดับ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนพฤษภาคม 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 55.7 จากระดับ 55.0 ในเดือนก่อน
ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และสูงสุดในรอบ 39 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจ
ที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น รวมถึงความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -6.5 และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -9.8
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน 2565 2565 2566
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 เม.ย. พ.ค. YTD
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่
(%yoy) 6.4% 14.0% 7.1% 7.3% ?2.0% ?0.5% ?7.0% ?6.5% -3.0%
%qoq_SA / %mom_SA 0.9% 1.0% 1.1% ?4.7% 2.3% ?3.9% ?0.8%
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง 5.3% 16.0% 9.2% 16.2% ?14.8% 2.4% ?1.4% 29.4% 6.4%
%qoq_SA / %mom_SA 8.5% ?7.1% ?2.5% ?13.6% 30.1% ?4.0% 24.7%
ปริมาณรถจักรยานยนต์
จดทะเบียนใหม่ (%YoY) 12.0% 3.2% 6.0% 38.5% 6.3% 13.5% 2.4% 13.5% 11.6%
%qoq_SA / %mom_SA ?1.8% 6.2% 3.4% ?1.4% 4.8% ?3.2% 10.2%
ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%YoY) ?1.4% 5.6% 0.9% ?0.6% ?10.6% ?2.7% ?4.3% ?4.8% ?3.4%
%qoq_SA / %mom_SA ?1.4% 0.1% ?2.0% ?7.2% 6.5% ?3.0% 3.1%
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ระดับ) 43.9 43.4 40.8 43.6 47.9 52.7 55.0 55.7 53.8
รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) 6.8% 1.7% 9.9% 9.2% 7.5% 3.6% 0.6% ?9.8% 0.6%
2. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชน
ในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนพฤษภาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน
ที่ร้อยละ 17.0 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 25.3 ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์
เชิงพาณิชย์ ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -12.4 สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง
สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 8.1 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 3.8 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน
ปีก่อนที่ร้อยละ 4.1 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 33.6
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน 2565 2565 2566
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 เม.ย. พ.ค. YTD
เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร
ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน
(%YoY) ?1.2% 8.1% 3.6% ?4.7% ?10.7% -5.6% ?10.7% 17.0% ?2.3%
%qoq_SA / %mom_SA 1.8% 1.4% ?6.4% ?7.4% 7.2% ?4.1% 25.3%
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์
เชิงพาณิชย์ (%YoY) 15.2% 20.6% 9.7% 37.5% ?0.2% ?10.2% ?8.4% ?12.4% ?10.3%
%qoq_SA / %mom_SA 15.9% ?3.6% 1.3% ?11.9% 4.0% 0.1% ?2.7%
เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง
ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%YoY) 13.4% ?1.8% 18.4% 21.9% 14.6% 19.3% ?30.0% 4.1% 4.8%
%qoq_SA / %mom_SA 0.3% 19.9% ?6.9% 1.2% 4.5% ?19.7% 33.6%
ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์
(%YoY) ?2.5% 0.0% ?7.8% 2.8% ?4.7% -3.3% 0.2% 8.1% ?0.5%
%qoq_SA / %mom_SA 2.0% ?4.5% ?1.0% ?0.8% 2.7% ?1.4% 3.8%
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) 5.7% 7.2% 6.9% 5.6% 3.4% 2.2% ?1.4% ?1.5% 0.7%
3. การใช้จ่ายงบประมาณ การเบิกจ่ายงบประมาณ ในเดือนพฤษภาคม 2566 เบิกจ่ายได้รวมจำนวน 199.6 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 190.6 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 150.8 พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 39.7 พันล้านบาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 8.9 พันล้านบาท ทำให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 มีการเบิกจ่ายรวม 2,221.3 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 2,098.7 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,795.7 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 303.0 พันล้านบาท และการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน122.5 พันล้านบาท
เครื่องชี้
ภาคการคลัง FY2565 FY2565 FY2566
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 เม.ย. พ.ค. FY/YTD
รายจ่ายปีปัจจุบัน 2,932.6 983.6 606.3 679.2 663.4 982.2 709.7 216.1 190.6 2,098.7
%YoY ?2.6% 4.8% ?1.1% 0.3% ?15.3% -0.1% 17.1% 11.4% 7.1% 7.0%
รายจ่ายประจำ 2,516.7 886.6 515.2 570.8 543.9 858.7 600.5 185.5 150.8 1,795.7
%YoY ?2.6% 2.4% ?2.1% 3.2% ?14.8% -3.1% 16.5% 14.3% 6.1% 5.2%
รายจ่ายลงทุน 415.9 97.0 91.0 108.4 119.5 123.4 109.2 30.5 39.7 303.0
%YoY ?2.9% 32.8% 5.0% ?12.3% ?17.6% 27.3% 20.0% ?3.5% 10.9% 18.6%
รายจ่ายปีก่อน 213.6 75.5 57.6 31.8 48.7 58.9 44.5 10.1 8.9 122.5
%YoY 8.7% -5.3% 6.4% 18.7% 36.1% -22.0% -22.7% 6.6% -19.7% -20.3%
รายจ่ายรวม 3,146.3 1,059.1 663.9 711.0 712.0 1,041.1 754.2 226.2 199.6 2,221.3
%YoY ?1.9% 4.0% ?0.5% 1.0% ?13.1% -1.7% 13.6% 11.2% 5.5% 5.0%
4. มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวแต่ในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวม
ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ 24,340.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกัน
ปีก่อนที่ร้อยละ -4.6 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ลดลงที่ร้อยละ -1.4 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากส่งออกสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าเคมีภัณฑ์ สินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรลดลง เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี สินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี อาทิ ข้าว ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และน้ำตาลทราย โดยขยายตัวร้อยละ 84.6 55.5 และ 44.3 ตามลำดับ รวมทั้งสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ โดยขยายตัวร้อยละ 22.9 53.7 10.2 และ 8.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า
ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ดี ยังมีหลายตลาดที่ยังคงขยายตัวได้ดี อาทิ ตลาดทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป (15) และสหรัฐฯ ที่ขยายตัวร้อยละ 11.4 11.2 9.3 และ 4.2 ตามลำดับ นอกจากนี้
ยังมีตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States: CIS) ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 97.7
ประเทศคู่ค้าหลัก
16 ประเทศ สัดส่วน 2565 2565 2566
2565 Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 เม.ย. พ.ค. YTD
ส่งออกไปทั้งโลก 100.0% 5.5% 14.7% 10.7% 6.6% -8.5% -4.5% -7.6% -4.6% -5.1%
สหรัฐฯ 16.6% 13.4% 23.1% 17.8% 15.9% -1.3% -3.9% -9.6% 4.2% -3.3%
จีน 12.2% -7.7% 4.1% -1.9% -18.1% -13.4% -7.4% 23.0% -24.0% -5.5%
ญี่ปุ่น 8.6% -1.3% 1.2% 0.9% -0.2% -7.1% -0.2% -8.1% -1.8% -2.0%
สหภาพยุโรป (15) 8.4% 6.5% 6.9% 4.9% 17.0% -2.0% -2.6% 1.1% 9.3% 0.4%
ทวีปออสเตรเลีย 4.7% 1.7% -2.4% -3.9% 18.1% -3.1% -14.2% 4.4% 11.4% -6.2%
เวียดนาม 4.6% 5.5% -1.4% 1.2% 28.7% -1.2% -11.5% -23.9% -22.6% -16.5%
มาเลเซีย 4.4% 5.1% 12.3% 7.4% 31.2% -21.5% -9.3% -20.1% 5.2% -8.6%
ฮ่องกง 3.5% -13.0% 5.0% -7.2% -22.6% -24.7% -3.4% -29.8% -19.0% -12.4%
สิงคโปร์ 3.6% 13.4% 56.3% 29.5% -2.2% -15.4% -2.3% -15.7% -5.7% -6.2%
อินโดนีเซีย 3.6% 15.8% 38.0% 38.5% 10.8% -16.1% 1.9% -22.7% 4.1% -1.8%
ตะวันออกกลาง 3.8% 22.8% 14.7% 28.8% 37.7% 13.0% 15.2% -16.7% 11.2% 7.9%
อินเดีย 3.7% 22.6% 33.1% 60.3% 13.6% -6.1% 3.7% -23.1% -21.0% -7.7%
ฟิลิปปินส์ 2.6% 4.4% 8.9% 23.8% 5.1% -15.5% 3.7% -10.7% -6.8% -1.6%
แอฟริกา 2.3% -5.9% -1.6% 12.4% -6.3% -23.3% 8.8% -26.9% 7.9% 1.2%
เกาหลีใต้ 2.2% 8.4% 23.2% 14.0% 7.8% -10.3% -0.4% -12.2% -11.1% -5.2%
ไต้หวัน 1.6% 0.8% 9.7% 8.1% -2.6% -11.3% -2.6% -24.1% 7.6% -5.6%
อาเซียน-9 25.0% 10.4% 16.8% 19.0% 19.2% -10.9% -3.9% -17.4% -7.8% -7.4%
อาเซียน-5 14.2% 9.5% 27.0% 23.1% 11.9% -17.6% -2.2% -17.7% 0.1% -5.0%
อินโดจีน-4 10.9% 11.5% 4.9% 14.1% 30.1% -0.9% -6.3% -17.0% -17.3% -10.9%
5. เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนพฤษภาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.01 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจาก
ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 286.3 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 4.2 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนพฤษาคม 2566 จำนวน 19.7 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 24.5 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 13.3 สำหรับภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -10.7 จากการลดลงของผลผลิตสำคัญ อาทิ ยางพารา และมันสำปะหลัง อย่างไรก็ดี ผลผลิตในหมวดปศุสัตว์และประมงยังคงขยายตัวได้ ส่วนภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนพฤษภาคม 2566 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 92.5 จากระดับ 95.0 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยสำคัญด้านอุปสงค์จากต่างประเทศที่ลดลง ส่งผลให้การส่งออกชะลอตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคและการท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัว
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน 2565 2565 2566
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 เม.ย. พ.ค. YTD
ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม (%YoY) 1.7% 1.5% 2.4% 6.6% ?2.3% 0.7% 11.7% ?6.6% 6.4%
%qoq_SA / %mom_SA 0.2% 1.9% ?3.2% 4.1% 2.1% ?10.7%
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
(%YoY) 0.4% 1.4% ?1.1% 7.7% ?6.0% -3.9% ?8.1% n.a. -4.7%
%qoq_SA / %mom_SA ?0.9% ?0.2% ?0.2% ?4.8% 1.3% ?2.1% n.a.
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) 62.8% 66.8% 61.2% 62.8% 60.3% 63.7% 53.8% n.a. 61.3%
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ) 89.3 88.0 85.6 90.4 93.1 96.0 95.0 92.5 95.1
นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%YoY) 2,506.6% 2,365.5% 7,704.0% 7,847.7% 1,497.8% 1,202.4% 644.0% 286.3% 713.6%
%qoq_SA / %mom_SA 9.3% 957.1% 33.1% 2.3% ?12.1% 19.8% 4.2%
จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย
(%YoY) 181.7% 74.1% 400.4% 1,169.3% 83.4% 36.0% 28.0% 24.5% 32.0%
%qoq_SA / %mom_SA 67.3% 67.5% -4.6% -30.4% 18.6% 15.3% 13.3%
6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี และแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.53 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.55 ส่วนสัดส่วน
หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ร้อยละ 61.6 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ ในเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.70 ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ในระดับสูงที่ 220.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เครื่องชี้ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ 2565 2565 2566
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 เม.ย. พ.ค. YTD
ภายในประเทศ
อัตราการว่างงาน (%) 1.3% 1.5% 1.4% 1.2% 1.2% 1.0% 1.0% 1.3% 1.1%
ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน
รายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม.33) 0.57% 0.61% 0.52% 0.62% 0.52% 0.60% 0.58% 0.70% 0.62%
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) 6.08% 4.74% 6.46% 7.29% 5.81% 3.88% 2.67% 0.53% 2.95%
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) 2.50% 1.44% 2.26% 3.08% 3.21% 2.23% 1.66% 1.55% 1.98%
หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) 61.0% 60.6% 61.0% 60.5% 61.0% 61.2% 61.6% n.a. 61.6%
ภายนอกประเทศ
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) -17.2 ?2.4 ?8.0 -7.7 0.9 4.0 -0.5 n.a. 3.5
ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) 216.6 242.4 222.3 199.4 216.6 224.5 223.4 220.8 220.8
ฐานะสุทธิ Forward (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) 29.2 30.5 28.7 28.7 29.2 27.1 28.6 28.1 28.1
ตารางที่ 1 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ (Economic Indicators) ในเดือนพฤษภาคม 2566
เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ
รายเดือน 2565 2565 2566
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 เม.ย. พ.ค. YTD
ภาวะเศรษฐกิจภายนอก
ราคาน้ำมันดิบ Dubai (ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล) /7 96.04 95.40 107.84 96.10 84.83 80.29 83.49 74.88 79.85
อัตราดอกเบี้ย Federal Fund (%)/7 4.25-4.50 0.25?0.50 1.50?1.75 3.00?3.25 4.25-4.50 4.75-5.00 4.75?5.00 5.00?5.25 5.00?5.25
ด้านอุปสงค์
การบริโภคภาคเอกชน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (%YoY)/1 6.4 14.0 7.1 7.3 -2.0 -0.5 ?7.0 ?6.5 ?3.0
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY)/13 5.3 16.0 9.2 16.2 ?14.8 2.4 ?1.4 29.4 6.4
ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY)/12 12.0 3.2 6.0 38.5 6.3 13.5 2.4 13.5 11.6
ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY) /14 ?1.4 5.6 0.9 ?0.6 ?10.6 -2.7 -4.3 -4.8 -3.4
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (ระดับ) /5 43.9 43.4 40.8 43.6 47.9 52.7 55.0 55.7 53.8
การลงทุนภาคเอกชน
ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY)/14 -1.2 8.1 3.6 ?4.7 -10.7 -5.6 -10.7 17.0 -2.3
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY)/13 15.2 20.6 9.7 37.5 -0.2 -10.2 ?8.4 ?12.4 ?10.3
ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวม (%YoY) /1 13.4 ?1.8 18.4 21.9 14.6 19.3 ?30.0 4.1 4.8
ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY) /14 -2.5 0.0 ?7.8 2.8 -4.7 -3.3 0.2 8.1 ?0.5
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) /4 5.7 7.2 6.9 5.6 3.4 2.2 ?1.4 ?1.5 0.7
การค้าระหว่างประเทศ
มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ); ระบบศุลกากร/4 287.1 73.6 75.5 72.2 65.8 70.3 21.7 24.3 116.3
(%YoY) /4 5.5 14.7 10.7 6.6 ?8.5 -4.5 ?7.6 ?4.6 ?5.1
ราคาสินค้าส่งออก (%YoY) /4 4.2 3.9 5.1 4.4 3.1 2.0 0.9 0.3 1.4
ปริมาณการส่งออก (%YoY)/14 1.3 10.3 5.3 2 -11.3 -6.2 ?8.5 ?4.8 ?6.4
มูลค่าการนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ระบบศุลกากร/4 303.2 73.7 79.8 80.9 68.8 73.3 23.2 26.2 122.7
(%YoY) /4 13.6 17.0 21.8 20.2 ?3.3 -0.5 ?7.3 ?3.4 ?2.5
ราคาสินค้านำเข้า (%YoY) /4 11.1 12.6 14.1 11.2 6.7 2.0 ?0.3 ?3.6 0.4
ปริมาณการนำเข้า (%YoY)/14 2.2 3.9 6.7 8.1 ?9.3 -2.7 ?7.1 0.2 ?2.8
ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ);ระบบศุลกากร/4 -16.1 ?0.1 ?4.3 -8.7 -3.0 -3.0 ?1.5 ?1.8 ?6.4
ด้านอุปทาน
ภาคการเกษตร
ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร (%YoY) /6 1.5 2.4 6.6 ?2.3 0.7 8.8 11.7 ?6.6 6.4
ดัชนีราคาสินค้าเกษตร (%YoY) /6 11.6 4.5 10.0 20.1 12.9 ?1.3 ?7.4 ?2.6 ?2.8
รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) /14 6.8 1.7 9.9 9.2 7.5 3.6 0.6 ?9.8 0.6
การจ้างงานภาคเกษตร (%YoY) /3 ?0.6 3.4 ?0.4 ?1.9 ?2.9 1.2 1.4 ?0.5 0.9
ภาคอุตสาหกรรม
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) /9 0.4 1.4 ?1.1 7.7 ?6.0 ?3.9 ?8.1 n.a. ?4.7
มูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY)/4 8.3 7.3 16.2 16.6 ?6.8 ?5.3 ?10.8 ?11.9 ?7.9
ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY) /14 3.2 0.2 9.3 12.1 ?9.0 ?7.9 ?12.8 ?13.7 ?10.1
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) /9 62.8 66.8 61.2 62.8 60.3 63.7 53.8 n.a. 61.3
การจ้างงานภาคอุตสาหกรรม (%YoY) /3 4.9 1.8 3.9 6.4 7.9 0.8 1.5 0.7 0.9
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)/8 89.3 88.0 85.6 90.4 93.1 96.0 95.0 92.5 95.1
ภาคบริการ
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ(ล้านคน)/10 11.15 0.50 1.58 3.61 5.46 6.48 2.18 2.01 10.67
(%YoY) /14 2,506.6 2,366.0 7,704.0 7,847.7 1,497.8 1,202.4 644.0 286.3 713.6
จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)/10 182.4 74.1 400.4 1,169.3 83.4 33.2 28.0 24.5 32.0
การจ้างงานภาคบริการ (%YoY) /3 6.8 4.0 5.6 9.5 8.4 3.4 3.2 3.4 3.6
เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ 2565 2565 2566
รายเดือน Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 เม.ย. พ.ค. YTD
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่างประเทศ
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)/2 35.0 33.1 34.4 36.4 36.2 33.9 34.3 34.3 34.1
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2 -17.2 ?2.4 ?8.0 -7.7 0.9 4.0 -0.5 n.a. -0.8
ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2 216.6 242.4 222.3 199.4 216.6 224.5 223.4 220.8 220.8
ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2 29.2 30.5 28.7 28.7 29.2 27.1 28.6 28.1 28.1
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ
อัตราการว่างงาน (%) /3 1.3 1.5 1.4 1.2 1.2 1.0 1.0 1.3 1.1
ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจำนวนผู้ประกันตน ม. 33) 0.57 0.61 0.52 0.62 0.52 0.60 0.58 0.70 0.62
ดัชนีราคาผู้ผลิต (%YoY) /4 10.4 9.8 13.3 11.1 7.3 0.7 -3.4 -5.0 -1.3
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY) /4 6.08 4.74 6.46 7.29 5.81 3.88 2.67 0.53 2.95
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY) /4 2.50 1.44 2.26 3.08 3.21 2.23 1.66 1.55 1.98
หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) /1 61.0 60.6 61.0 60.5 61.0 61.3 61.6 n.a. 61.6
ภาคการคลัง (ปีงบประมาณ)/1 FY2565 FY2565 FY2565 FY2565 FY2565 FY2566 FY2566 FY2566 FY2566 YTD/FY 2566
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1/66 Q2/66 เม.ย.66 พ.ค.66
รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)/1 2,932.6 983.6 606.3 679.2 663.4 982.2 709.7 216.1 190.6 2,098.7
(%YoY) /1 ?2.6 4.8 ?1.1 0.3 ?15.3 -0.1 17.1 11.4 7.1 7.0
รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)/1 2,516.7 886.6 515.2 570.8 543.9 858.7 600.5 185.5 150.8 1,795.7
(%YoY) /1 ?2.6 2.4 ?2.1 3.2 ?14.8 -3.1 16.5 14.3 6.1 5.2
รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)/1 415.9 97.0 91.0 108.4 119.5 123.4 109.2 30.5 39.7 303.0
(%YoY) /1 ?2.9 32.8 5.0 ?12.3 ?17.6 27.3 20.0 ?3.5 10.9 18.6
รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)/1 213.6 75.5 57.6 31.8 48.7 58.9 44.5 10.1 8.9 122.5
(%YoY) /1 8.7 -5.3 6.4 18.7 36.1 -22.0 -22.7 6.6 -19.7 -20.3
รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)/1 3,146.3 1,059.1 663.9 711.0 712.0 1,041.1 754.2 226.2 199.6 2,221.3
(%YoY) /1 ?1.9 4.0 ?0.5 1.0 ?13.1 -1.7 13.6 11.2 5.5 5.0
ที่มา: 1/กระทรวงการคลัง 2/ธนาคารแห่งประเทศไทย 3/สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4/กระทรวงพาณิชย์ 5/มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 6/สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 7/Reuters
8/สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 10/กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11/ กรมจัดเก็บประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต
และกรมศุลกากร 12/กรมการขนส่งทางบก 13/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 14/คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ที่มา: กระทรวงการคลัง