เศรษฐกิจไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) เดือน ก.ค. 66 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 92.3
? ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน ก.ค. 66 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 55.6
? ปริมาณการจ หน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศเดือน ก.ค. 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 ต่อปี
เศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจต่างประเทศ
? GDP ยูโรโซน ไตรมาสที่ 2 ปี 66 (ตัวเลขปรับปรุงครั้งที่ 2) ขยายตัวร้อยละ 0.6 จากช่วง
เดียวกันปีก่อน
? GDP มาเลเซีย ไตรมาสที่ 2 ปี 66 ขยายตัวร้อยละ 2.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
? GDP ญี่ปุ่น ไตรมาสที่ 2 ปี 66 (เบื้องต้น) ขยายตัวร้อยละ 2.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
? GDP ฮ่องกง ไตรมาสที่ 2 ปี 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
TISI)เดือน ก ค . 66 ล ดลง มาอยู่ที่ระดับ 92 3จากระดับ 94.1 ในเดือนก่อนหน้า
ดัชนี
TISIเดือน ก ค . 66 ลดลงอีกครั้งในเดือนนี้ และปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 10 เดือน โดยลดลง ในทุกองค์ประกอบของดัชนี
ทั้ง ยอดคำสั่งซื้อ โดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ จากความเชื่อมั่นที่ลดลง
ทั้งด้านอุปสงค์โดยรวมที่ชะลอตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง
รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาด ประกอบกับความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อ
ภาคเอกชนที่ยังคงรอความชัดเจนในด้านนโยบายต่าง ๆ เพื่อการลงทุนใหม่ สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า
เดือน ก ค . 66 อยู่ที่ระดับ 10100 2 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จากความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจจะกระทบ
กับการจัดสรรงบประมาณในระยะถัดไป
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน ก
ค . 66 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 55 6 จากระดับ 56 7
ในเดือนก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้รับปัจจัยลบ
จากความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล และเสถียรภาพทางการเมืองหลังจัดตั้งรัฐบาลยัง
สร้างความกังวลต่อผู้บริโภค รวมถึงความกังวลทางด้านรายได้ที่ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดี
จำนวน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนและกิจกรรมเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ มากขึ้น
ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือทรงตัวในระดับดีในสินค้าหลายรายการสำคัญ ส่งผลให้
เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศที่ยังคง
ทรงตัวในเดือนที่ผ่านมา
ปริมาณการจาหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศเดือน ก.ค. 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
Cement Sales
5.6
1.9
-15.0
-10.0
-5.0
0.0
5.0
10.0
15.0
20.0 %YoY %MoM_Sa
ในเดือน ก.ค. 66 ยอดจาหน่ายปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4
เนื่องจากมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการเพิ่มของการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งผลทาให้
มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น แต่ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างในหนวดซีเมนต์ยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากต้นทุน
ของวัตถุดิบ
เครื่องชี้
เศรษฐกิจต่างประเทศ
ยอดค้าปลีก เดือน ก
ค . 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 3 2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจาก
เดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 1.6 ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.5 และเป็นระดับที่สูงที่สุด
ในรอบ 5 เดือน
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก
ค . 66 หดตัวที่ร้อยละ 0 2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ 0.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยอดสร้างบ้านใหม่ เดือน ก
ค . 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 3 9 จากเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทาง
ฤดูกาลแล้ว ) หลังจากหดตัวตัวในเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 11.7 โดยเป็นผลจากยอดสร้างบ้าน
เดี่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ
ยอดใบอนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่ ดือน ก
ค . 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 0 1 จากเดือนก่อนหน้า
หลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว ) หลังจากหดตัวตัวในเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 3.7 โดยเป็นผล
จากยอดใบอนุญาตก่อสร้างบ้านเดี่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
6 12 ส ค . 66 ) อยู่ที่ 2 39 แสนราย
ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 2.50 แสนราย และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.40
แสนราย ขณะที่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเฉลี่ย 4 สัปดาห์ fourweekmoving average)ซึ่งขจัดความผันผวนรายสัปดาห์แล้ว เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.34
แสนราย
สหรัฐอเมริกา
GDPไตรมาสที่ 2 ปี 66 ตัวเลขปรับปรุงครั้งที่ 2 ) ขยายตัวร้อยละ 0 6 จากช่วงเดียวกันปี
ก่อน ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 1.1 หรือคิดเป็นการขยายตัวที่ร้อยละ 0.3
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว )
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน มิ
ย . 66 หดตัวร้อยละ 1.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ 2.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และหดตัวน้อยกว่าที่ตลาด
คาดการณ์เอาไว้ที่ร้อยละ 4.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
มูลค่าส่งออก เดือน มิ
ย . 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 0 3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน กลับมาขยายตัว
อีกครั้งหลังจากที่หดตัวร้อยละ 2.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ในเดือนก่อนหน้า
มูลค่าการนำเข้า เดือน มิ
ย . 66 หดตัวที่ร้อยละ 17 7 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อน
หน้าที่หดตัวร้อยละ 13.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ดุลการค้า เดือน มิ
ย . 66 เกินดุลอยู่ที่ 23 0 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุล
อยู่ที่ 0.3 พันล้านยูโร
ค . 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 3 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 4 4 และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4 4
ส่งผลให้ในช่วง 7 เดือนแรกของปีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวที่ร้อยละ 3 8
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยอดค้าปลีก เดือน ก
ค . 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 2 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจาก
เดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 3 1 ต่ำกว่าคาดการณ์ตลาดที่ร้อยละ 4 5 และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ
7 เดือน ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปียอดค้าปลีกของจีนขยายตัวที่ร้อยละ 7 3
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อัตราการว่างงานในเขตเมือง เดือน ก
ค . 66 อยู่ที่ร้อยละ 5 3 ของกำลังแรงงานรวม เพิ่มขึ้นจาก
3 เดือนก่อนหน้าที่ทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.2 ของกำลังแรงงานรวม
GDPไตรมาสที่ 2 ปี 66 ขยายตัวร้อยละ 2 9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอลงจากไตรมาส
ก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 5.6 หรือคิดเป็นการขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส
ก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว )
มูลค่าส่งออก เดือน ก
ค . 66 หดตัวที่ร้อยละ 13 1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อน
หน้าที่หดตัวร้อยละ 14.1 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
มูลค่าการนำเข้า เดือน ก
ค . 66 หดตัวที่ร้อยละ 15 9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อน
หน้าที่หดตัวร้อยละ 18.9 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ดุลการค้า เดือน ก
ค . 66 เกินดุลอยู่ที่ 17 1 พันล้านริงกิ ต มาเลเซีย ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่
เกินดุลอยู่ที่ 17 1 พันล้านริงกิ ต มาเลเซีย
มาเลเซีย
มูลค่าส่งออก เดือน ก
ค . 66 หดตัวที่ร้อยละ 18 3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อน
หน้าที่หดตัวร้อยละ 21.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
มูลค่าการนำเข้า เดือน ก
ค . 66 หดตัวที่ร้อยละ 8 3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อน
หน้าที่หดตัวร้อยละ 18.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ดุลการค้า เดือน ก
ค . 66 เกินดุลอยู่ที่ 19 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่
เกินดุลอยู่ที่ 17.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
GDPไตรมาส 2 ปี 66 เบื้องต้น ) ขยายตัวร้อยละ 2 0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และหดตัว
ร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน มิ
ย . 66 ขยายตัวร้อยละ 0.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน
ของปีก่อน
ดุลการค้า เดือน ก
ค . 66 ขาดดุล 78.73 พันล้านเยน โดยการนำเข้าหดตัวร้อยละ 13.5
ต่อปี ขณะที่การส่งออกหดร้อยละ 0 3 ต่อปี ท่ามกลางความอ่อนแอของอุปสงค์จาก
ต่างประเทศ และการแข็งค่าขึ้นของเงินเยน
คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลัก
ไม่รวมเครื่องจักรสำหรับเรือและบริษัทพลังงานไฟฟ้า ) เดือน มิ ย . 66
หดตัวร้อยละ 5 8 จากปีก่อนหน้า หรือขยายตัวร้อยละ 2.7 จากเดือนก่อนหน้า
อัตราเงินเฟ้อ เดือน ก
ค . 66 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี เท่ากับเดือนก่อนหน้า
ยอดขายรถยนต์โดยสาร เดือน ก
ค . ขยายตัวร้อยละ 2 9 จากปีก่อนหน้า หรือขยายตัวร้อยละ
1.6 จากเดือนก่อนหน้า โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เป็นบวก
เป็นสำคัญ
ดุลการค้า เดือน ก
ค 66 ขาดดุล 20 67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกหดตัวร้อยละ
16.0 จากปีก่อนหน้า ขณะที่การนำเข้าหดตัวร้อยละ 17.0 จากปีก่อนหน้า
อัตราเงินเฟ้อ เดือน ก
ค . 66 ขยายตัวร้อยละ 7 44 จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดนับ
จาก ม ค . 65 ขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.96 จากปัจจัย
การเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร เชื้อเพลิง และค่าที่อยู่อาศัย เป็นสำคัญ
การส่งออกสินค้า
ไม่รวมน้ำมัน ) เดือน ก ค . 66 หดตัวร้อยละ 20 2 จากปีก่อน ซึ่งเป็น
การหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเทียบกับเดือนก่อนหน้าจะหดตัวที่ร้อยละ
3.4 โดยมีปัจจัยจากการหดตัวของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทรอนิกส์
เป็นสำคัญ
อัตราการว่างงาน เดือน มิ
ย . 66 อยู่ที่ร้อยละ 4 2 ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับจากช่วงปลายปี 64
อัตราเงินเฟ้อ เดือน ก
ค . 66 อยู่ที่ร้อยละ 6 8 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำสุดนับจาก
ก พ . 65 จากปัจจัยการลดลงขอราคาเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ
สหราชอาณาจักร
อัตราการว่างงาน เดือน ก
ค . 66อยู่ที่ร้อยละ 3.7ของกำลังแรงงานรวม เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน
หน้าที่ร้อยละ 3.5 ของกำลังแรงงานรวม ออสเตรเลีย
GDPไตรมาสที่ 2 ปี 66 ขยายตัวที่ร้อยละ 1 5 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2 9
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นการหดตัวที่ร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
อัตราการว่างงาน เดือน ก
ค . 66 อยู่ที่ร้อยละ 2 8 ของกำลังแรงงานรวม ลดลงจากเดือนก่อน
หน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 2.9 ของกำลังแรงงานรวม
เครื่องชี้
ตลาดเงิน ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ดัชนี
SETปรับตัว ลดลง จากสัปดาห์ก่อน สอดคล้องกับ
ตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ ในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน เช่น
Nikkei225 ญี่ปุ่น ) Shanghai จีน ) TWSE(ไต้หวัน )และ
HangSeng(ฮ่องกง ) เป็นต้น เมื่อวันที่ 17ส ค . 666ดัชนีปิดที่ระดับ
1,528.81จุด ด้วย มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยระหว่างวันที่ 15?17ส ค . 66อยู่ที่ 53,684.69ล้าน บาทต่อวัน โดย นักลงทุนทั่วไปในประเทศ
และนักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์เป็นผู้ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุน
สถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่
15 17ส ค . 66 นักลงทุน ต่างชาติ ขาย หลักทรัพย์สุทธิ -3,917.27ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
อายุ 1เดือน ถึง 20ปี ส่วนใหญ่
ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 1 10bpsโดยในสัปดาห์นี้นักลงทุนมีการประมูล
พันธบัตรรัฐบาลอายุ 4ปี และ 21ปี ซึ่งมีนักลงทุนสนใจ 1.2และ 1.1เท่าของวงเงินประมูล ตามลำดับ ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 15?17ส ค . 66กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ไหล ออก จาก ตลาดพันธบัตรสุทธิ
-10,510.16ล้านบาท และหากนับจากต้นปีจนถึงวันที่ 17ส ค 66กระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ไหล ออก จาก ตลาดพันธบัตรสุทธิ
-112,325.89ล้านบาท
เงินบาทอ่อน
ค่าลง จากสัปดาห์ก่อน โดย ณ วันที่ 17ส ค . 666เงินบาทปิดที่ 35.52บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงร้อยละ -2.44จากสัปดาห์ก่อนหน้า สอดคล้องกับ เงินสกุล อื่น ๆ ในภูมิภาค อาทิ
เงินสกุลเยน ยูโร ริงกิ ต เป โซ วอน ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ดอลลาร์สิงคโปร์
และหยวน ที่ปรับตัวอ่อนค่าลง จากสัปดาห์ก่อนหน้า เมื่อเทียบกับ
ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่า น้อย กว่าเงินสกุลอื่น ๆ ในภูมิภาค
ส่งผลให้ ดัชนีค่าเงินบาท NEER) อยู่ที่ร้อยละ -0.21
ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง