ฉบับที่ 148/2566 วันที่ 26 ธันวาคม 2566
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อ้านวยการส้านักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ท้าให้ยังมีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) ประกอบกับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ยังมีแนวโน้มผันผวน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวเพิ่มสูงขึ น ท้าให้ผู้ประกอบการ SMEs มีก้าไรลดลงและประสบกับปัญหาด้านสภาพคล่อง และยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากสถาบันการเงินยังไม่มั่นใจในการปล่อยสินเชื่อ โดยเห็นว่าผู้ประกอบการมีความเสี่ยงในการช้าระหนี คืน และมีหลักประกันไม่เพียงพอกับความเสี่ยงดังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้เป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นคณะรัฐมนตรี จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อขยายวงเงินค้าประกันสินเชื่อ โครงการค้าประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 10 โดยมีสาระส้าคัญ ดังนี้
ขยายวงเงินค้าประกันสินเชื่อเพิ่มอีก 3,250 ล้านบาท จากเดิมวงเงินค้าประกันสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท เป็นวงเงินค้าประกันสินเชื่อ 53,250 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากระบบสถาบันการเงินได้มากขึ้น
กระทรวงการคลังคาดว่า การด้าเนินการดังกล่าวจะท้าให้เกิดความต่อเนื่องในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และท้าให้มีจ้านวนผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากระบบสถาบันการเงิน ได้มากขึ น รวมทั งยังให้ผู้ประกอบการ SMEs มีสภาพคล่องที่เพียงพอและสามารถด้าเนินธุรกิจต่อไปได้ เพื่อบรรเทา และป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ นในระยะต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม o บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โทร. 02 890 9999 ที่มา: กระทรวงการคลัง