ฉบับที่ 56/2567 วันที่ 12 มิถุนายน 2567
มาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัว รวมถึงสถานการณ์ราคาพลังงานที่ยังคงผันผวน ส่งผลให้ ต้นทุนการผลิตและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อการดา เนินธุรกิจของผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) ทาให้มีกาไรลดลง และ ประสบปัญหาสภาพคล่อง ประกอบกับจากรายงานภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในไตรมาส 1 ปี 2567 สินเชื่อ SMEs หดตัวลงอย่างมากถึงร้อยละ 5.1 จากช่วงเดียวกันของปี ก่อน สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการ SMEs ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอสา หรับการดา เนินธุรกิจ กระทรวงการคลังเล็งเห็นความจาเป็นในการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป และผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มเป้าหมาย ทั้งในภาคการผลิต ภาคเกษตร และภาคบริการ รวมทั้งผู้ประกอบการ SMEs อื่น ๆ เช่น วิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรกร สหกรณ์ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้เสนอมาตรการด้านการเงินจานวน 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการ สินเชื่อ IGNITE THAILAND และ 2) โครงการค้า ประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 11 (โครงการ PGS ระยะที่ 11) ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เห็นชอบ โดยมีสาระสา คัญของโครงการ ดังนี้ 1) โครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ใน กลุ่มอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ศูนย์กลางการท่องเที่ยว 2) ศูนย์กลาง การแพทย์และสุขภาพ และ 3) ศูนย์กลางอาหาร โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุด 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 2.5 ต่อปี ใน 2 ปี แรก ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี ปลอดชา ระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้า ประกัน สินเชื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับสินเชื่อตามโครงการ อัตราค่าธรรมเนียมร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยได้รับการ ยกเว้นยกเว้นค่าธรรมเนียมใน 2 ปี แรก และปี ที่ 3 ? 4 จ่ายค่าธรรมเนียมร้อยละ 0.75 ต่อปี สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 2 2) โครงการ PGS ระยะที่ 11 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ในระบบสถาบันการเงินผ่านกลไกการค้า ประกันของ บสย. และช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่สถาบันการเงินในการให้ สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs โดยมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มเปราะบาง และผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมตาม วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND กลุ่มธุรกิจทางด้านสนับสนุนสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดย บสย. ค้า ประกัน สินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs วงเงินค้า ประกัน 50,000 ล้านบาท วงเงินค้า ประกันต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาท ระยะเวลาค้า ประกันไม่เกิน 10 ปี อัตราค่าธรรมเนียมการค้า ประกันสินเชื่อเฉลี่ยทั้งโครงการไม่เกินร้อยละ 1.75 ต่อปี บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยตลอดโครงการเฉลี่ยทั้งโครงการไม่เกินร้อยละ 30 รับคา ขอค้า ประกันสินเชื่อถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังให้ความสาคัญมาก ในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs อย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินอย่างเพียงพอสาหรับการพัฒนาศักยภาพในการดาเนิน ธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ตลอดจนการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อน ระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ในระยะยาวต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม o ธนาคารออมสิน โทร. 02 299 8000 หรือสายด่วน 1115 o บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โทร. 02 890 9999 โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 11 สแกนท่นี สอบถามเพิ่มเติมที่ ระยะเวลารับคำขอค้า ฯ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 อายกุ รค้ำประกนั สินเชื่อ สูงสุด 10 ปี วงเงินค้า ประกันต่อราย สูงสุด 40 ลบ. วงเงินค้า ประกันโครงการ 50,000 ลบ. กลุ่มเป้าหมาย IGNITE ธุรกิจเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม (BCG) กลุ่มเปราะบาง ผู้ประกอบการ รายใหม่ ค่าธรรมเนียมการค้ำฯ เฉล่ยี ไม่เกิน 1.75% ต่อปี ตลอดท้งั โครงการ เงื่อนไขเป็นไปตาม บสย. กำหนด ที่มา: กระทรวงการคลัง