ความร่วมมือของกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการรับซื้อมังคุดและลาไยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงผลผลิตล้นตลาด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 26, 2024 13:57 —กระทรวงการคลัง

ฉบับที่ 70/2567 วันที่ 25 กรกฎาคม 2567
ความร่วมมือของกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในการรับซื้อมังคุดและลาไยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงผลผลิตล้นตลาด
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 1 กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนาเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกมังคุดและลาไยในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด ทั้งนี้ ผลจากการหารือได้ข้อสรุปว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจจะร่วมกันช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดและลาไย จากเกษตรกร โดยมีเป้าหมายจะรับซื้อมังคุดประมาณ 29 ตัน และลาไยประมาณ 26 ตัน รวมทั้งสิ้น 55 ตัน และกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จะช่วยเหลือในส่วนของการจัดส่งผลผลิตผลไม้ดังกล่าว
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการพืชเกษตรเศรษฐกิจตัวรอง ปี 2567 เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 และกระทรวงพาณิชย์ได้ประสานงานมายังกระทรวงการคลังเกี่ยวกับฤดูการผลิตผลไม้สาคัญที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดจานวนมากในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม 2567 และมีแนวโน้มที่เกษตรกรอาจประสบปัญหาด้านราคาในช่วงที่ผลผลิตกระจุกตัว ได้แก่ มังคุด (ภาคใต้) และลาไย (ภาคเหนือ) ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จึงขอความร่วมมือกระทรวงการคลังในการช่วยดูดซับผลผลิตผลไม้ในช่วงดังกล่าว ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งในการรักษาระดับเสถียรภาพด้านราคา ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงได้จัดประชุมร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เพื่อขอความร่วมมือสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้ช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดและลาไยจากเกษตรกรในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อลดปริมาณผลผลิตที่ล้นตลาด โดยผลการประชุมคาดว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะสามารถรับซื้อมังคุดและลาไยจากเกษตรกรในช่วงดังกล่าวได้ประมาณ 55 ตัน ประกอบด้วย มังคุด 29 ตัน และลาไย 26 ตัน นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในจะร่วมช่วยเหลือเกษตรกรในส่วนของการจัดส่งผลผลิตให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ?การดาเนินการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดและลาไย และทุกภาคส่วนที่ร่วมกันในวันนี้คาดหวังว่า การช่วยรับซื้อผลผลิตมังคุดและลาไยจากเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจานวนมาก จะช่วยดูดซับปริมาณผลผลิตที่ล้นตลาด พยุงราคาผลไม้ ยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกร และก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป?

          ที่มา: กระทรวงการคลัง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ