ฉบับที่ 73/2567 วันที่ 30 กรกฎาคม 2567
มาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทางานในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทางานในประเทศ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทางาน ในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทางานในประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะสนับสนุนให้คนไทยที่มีความสามารถที่ทางาน ในต่างประเทศกลับเข้ามาทางานในประเทศ โดยเฉพาะบุคลากรที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสาคัญในการพัฒนาประเทศและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยมีรายละเอียดมาตรการ ดังนี้
1. ระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมมาตรการ
ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572
2. สิทธิประโยชน์ทางภาษี
2.1 ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ลูกจ้าง)
ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการหักภาษี ณ ที่จ่ายเหลืออัตราร้อยละ 17 ของเงินได้ สาหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายตามกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสาหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเมื่อผู้มีเงินได้คานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กฎหมายกาหนดแล้วต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าร้อยละ 17 ของเงินได้ โดยต้องเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกาหนด
2.2 ภาษีเงินได้นิติบุคคล (นายจ้าง)
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายตามกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสาหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกสามารถหักรายจ่ายที่จ่ายเงินเดือนตามสัญญาจ้างแรงงาน ของลูกจ้างซึ่งมีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกาหนดโดยเป็นการจ่ายเงินเดือนระหว่างวันที่กฎหมาย มีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 ได้จานวน 1.5 เท่า ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกาหนด
3. หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการเข้าร่วมมาตรการ
3.1 กรณีผู้มีเงินได้ (ลูกจ้าง)
3.1.1 ผู้เข้าร่วมมาตรการจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1) วุฒิการศึกษาไม่ต่ากว่าปริญญาตรี
2) ประสบการณ์ทางานในต่างประเทศไม่ต่ากว่า 2 ปี โดยมีเอกสารรับรองการทางาน จากนายจ้างในต่างประเทศหรือเอกสารอื่นใดที่ยืนยันประสบการณ์ทางานในต่างประเทศ เช่น สัญญาจ้างงาน หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากรายได้จากการทางานในต่างประเทศ หรือเอกสารอื่นใดในลักษณะทานองเดียวกัน เป็นต้น
2
3) ต้องเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
4) เป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายตามกฎหมายที่กาหนด และได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องเริ่มทางานตามสัญญาจ้างแรงงานในช่วงเวลาวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
5) ต้องไม่เคยทางานในประเทศไทยในปีภาษีที่มีการเริ่มใช้สิทธิลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้
6) กรณีที่ใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ในปีภาษีใดเป็นครั้งแรก ต้องไม่ได้เข้ามาอยู่ ในประเทศไทยก่อนปีภาษีที่ใช้สิทธินั้นอย่างน้อย 2 ปี หรือถ้าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยในช่วง 2 ปีก่อนหน้านั้น ต้องอยู่เพียง ชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือหลายระยะเวลารวมทั้งหมดไม่ถึง 180 วันในปีภาษีนั้น ๆ
7) ในปีภาษีที่ใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ จะต้องอยู่ในประเทศไทยชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือหลายระยะเวลารวมเวลาทั้งหมดไม่น้อยกว่า 180 วันในปีภาษีที่ใช้สิทธินั้น เว้นแต่ปีภาษีแรกและปีภาษีสุดท้าย ที่ใช้สิทธิจะอยู่ในประเทศไทยน้อยกว่า 180 วันก็ได้
3.1.2 ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่กรมสรรพากรกาหนด
3.1.3 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามมาตรการนี้กรมสรรพากรสามารถกาหนดเพิ่มเติมได้ตามสมควร
3.2 กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (นายจ้าง)
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประสงค์จะใช้สิทธิต้องแจ้งรายละเอียดของผู้มีเงินได้ ที่เป็นลูกจ้างซึ่งจะใช้สิทธิลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามข้อ 2.1 โดยต้องมีข้อความและเอกสารประกอบ อย่างน้อยตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกาหนดผ่านสรรพากรพื้นที่ที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่ภายในวันสุดท้าย ของปีภาษีแรกที่ผู้มีเงินได้ใช้สิทธิในการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ต้องเป็นผู้รับรองว่าข้อมูลและเอกสารที่แจ้งต่อกรมสรรพากรมีความถูกต้องและเป็นความจริง
ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า การดาเนินมาตรการดังกล่าวเป็นการดึงดูดคนไทย ที่มีศักยภาพให้กลับเข้ามาทางานในประเทศไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งจะเป็นการเพิ่มจานวนบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาอุตสาหกรรมที่มีความจาเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สานักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3529 และ 3509 กรมสรรพากร โทร. 1161 ที่มา: กระทรวงการคลัง