ฉบับที่ 90/2567 วันที่ 17 กันยายน 2567
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ (โครงการฯ) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายสาคัญ ที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสาคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลาดับแรก
คณะรัฐมนตรีเล็งเห็นว่า เนื่องจากในปี 2567 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวที่ต่ากว่า ค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ากว่าอัตราการขยายตัวตามศักยภาพ (Potential Growth) และประเทศในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เช่น การหดตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม ในช่วงครึ่งปีแรก การหดตัวของการบริโภคสินค้าคงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ผู้ผลิตอุตสาหกรรมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมลดลงอย่างต่อเนื่อง หนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทาให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนพิการที่มีกาลังซื้อที่อ่อนแอได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ๆ คณะรัฐมนตรีจึงมีความจาเป็นที่ต้องดาเนินโครงการฯ เพื่อเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ เพิ่มกาลังซื้อ และเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยมีสาระสาคัญของโครงการฯ ดังนี้
1. โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระ ค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) ปี 2565 ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จาเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจานวน 10,000 บาทต่อคน ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับ เลขประจาตัวประชาชนหรือผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ ณ สานักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง (เฉพาะกรณีผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจานวน ประมาณ 12.40 ล้านราย ประกอบด้วย
1.1 ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) สาเร็จแล้วตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง และไม่เป็นคนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการตามฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
1.2 ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ e-KYC สาเร็จแล้ว เป็นคนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการที่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม.
1.3 ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ e-KYC สาเร็จแล้ว เป็นคนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ ตามฐานข้อมูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา แต่ไม่อยู่ ในฐานข้อมูลของ พก. พม.
ทั้งนี้ จะใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 ซึ่งไม่รวมถึงผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) สาเร็จ และเป็นบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัด พม. ตามที่ พม. ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง
2
2. โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและ เพิ่มศักยภาพของคนพิการซึ่งเป็นผู้เปราะบางที่ขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่าย ที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการและความจาเป็นของคนพิการแต่ละประเภทในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจานวน 10,000 บาทต่อคน ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ (1) ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการที่ได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา (2) บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชนของคนพิการ (กรณีไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ย ความพิการตามข้อ (1)) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจานวนประมาณ 2.15 ล้านราย ประกอบด้วย
2.1 คนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการที่ยังไม่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม.
2.2 คนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการที่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม. และไม่มีบัตรสวัสดิการ แห่งรัฐ ซึ่งจะต้องต่ออายุบัตรประจาตัวคนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ
2.3 คนพิการที่ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ ตามฐานข้อมูลของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา และไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะต้องทาบัตรประจาตัวคนพิการ ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ
2.4 คนพิการที่ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ ตามฐานข้อมูลของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ตามฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะต้องทาบัตรประจาตัว คนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ
ทั้งนี้ จะใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 และไม่รวมถึงคนพิการที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัด พม. ตามที่ยืนยันข้อมูลคนพิการดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง
สาหรับการดาเนินการทั้ง 2 โครงการ กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยขณะนี้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้เตรียม ความพร้อมที่จะจ่ายเงิน ดังนี้ วัน เดือน ปี กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน
25 กันยายน 2567
คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0
26 กันยายน 2567
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3
27 กันยายน 2567
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7
30 กันยายน 2567
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9
หมายเหตุ: คนพิการ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ทั้งนี้ ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สาเร็จในครั้งแรก จะมีการดาเนินการจ่ายเงินซ้า (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจานวน 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 และครั้งที่ 3 ภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 โดยเมื่อพ้นกาหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว รัฐจะสนับสนุนเงินจานวน 10,000 บาทต่อคน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายรวมจานวนประมาณ 14.55 ล้านราย ซึ่งสามารถนาไปใช้จ่ายซื้อสินค้าที่เหมาะสมต่อการดารงชีวิตโดยไม่จากัดประเภทร้านค้า โดยจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จาเป็นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ตลอดจน เพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในช่วงปลายปี 2567 ได้อย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าการมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจานวน 145,552.40 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว
3
เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.35 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ นอกจากนี้ เมื่อผู้บริโภคมีกาลังซื้อมากขึ้น จะช่วยก่อให้เกิดการผลิต การค้าขาย การจ้างงาน และการคมนาคมขนส่งตามมา ซึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น จะเอื้อให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีอากรได้เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเน้นย้าให้กลุ่มเป้าหมายตามโครงการดาเนินการตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจาตัวประชาชนว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือหากยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ขอให้ดาเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจาตัวประชาชน และสาหรับคนพิการที่ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการหรือบัตรประจาตัวคนพิการหมดอายุ ขอให้ดาเนินการทาบัตรหรือต่ออายุบัตรให้เรียบร้อยภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เพื่อรับสิทธิตามโครงการดังกล่าว
ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
1. เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th
2. เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th
3. เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ)
4. แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย" (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
5. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร. 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
1. คนพิการ
1.1 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรศัพท์สายด่วน (Call Center) 1300
1.2 พก. โทร. 0 2354 3388 ต่อ 701 - 702 (หน่วยงานออกบัตรประจาตัวคนพิการ)
1.3 ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่งได้ทางเว็บไซต์ www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter
1.4 อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2.1 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2.2 Call Center กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
?
?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
?
?ยืนยันตัวตนแล้ว
?
?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.
?
?ไม่เป็นคนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการ
01
01
02
02
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567
ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
ใครได้รับสิทธิ์บ้าง?
ประมาณ 12.412.40 ล้านราย
ประมาณ 2.15 2.15 ล้านราย
รัฐสนับสนุนเงินจานวน 10,000 10,000 บาทต่อคน (ครั้งเดียว)
โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการที่เหมาะสมต่อการดารงชีวิตโดยไม่จากัดประเภทร้านค้า
พร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชน
?
?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
?
?ยืนยันตัวตนแล้ว
?
?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.
?
?บัตรประจาตัวคนพิการหมดอายุ
?
?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
?
?ยืนยันตัวตนแล้ว
?
?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.
?
?ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการ แต่ได้รับเบี้ยความพิการ(ตามฐานข้อมูลของ อปท./กทม./เมืองพัทยา)
?
?มีบัตรประจาตัวคนพิการ
?
?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
?
?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.
?
?มีบัตรประจาตัวคนพิการแต่หมดอายุ
?
?ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
?
?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.
?
?ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการแต่ได้รับเบี้ยความพิการ(ตามฐานข้อมูลของ อปท./กทม./เมืองพัทยา)
?
?ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
?
?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.
?
?ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการแต่ได้รับเบี้ยความพิการ(ตามฐานข้อมูล อปท./กทม./เมืองพัทยา)
?
?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ไม่ได้ยืนยันตัวตน
?
?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.
2
2 ช่องทาง
บัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ ณ สานักงานคลังจังหวัดหรือกับกรมบัญชีกลาง
บัญชีเงินฝากธนาคาร
พร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชน
2
2 ช่องทาง
ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ
ที่ได้รับข้อมูลจาก อปท./กทม./เมืองพัทยา
?
?Call Center Call Center 1300
?
?02-354-3388ต่อ 701-702(กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ)
สิทธิ์ที่ได้จากโครงการคืออะไร?
เริ่มโอนวันไหน?
หากโอนไม่สาเร็จ รัฐจะโอนซ้าอีกหรือไม่?
25 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป
หากจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สาเร็จในครั้งแรก จะดาเนินการจ่ายซ้า (RetryRetry)จานวน 3 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 ภายใน 22 ต.ค. 67
ครั้งที่ 2 ภายใน 22 พ.ย. 67
ครั้งที่ 3 ภายใน 22 ธ.ค. 67
(ณ 31 ส.ค. 67)
(ณ 31 ส.ค. 67)
กลุ่ม 2ต้องไปต่ออายุบัตรประจาตัวคนพิการ
กลุ่ม 3 และ 4 ต้องไปทาบัตรประจาตัวคนพิการ
อย่าลืม!!!!
1
1
2
2
3
3
1
1
2
2
3
3
4
4
ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นี้เท่านั้น
ช่องทางการตรวจสอบและผลการได้รับเงินตามโครงการและติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงิน
คนพิการ
?
?ศูนย์บริการคนพิการจังหวัด ทั่วประเทศ
?
?อปท. กทม. และเมืองพัทยา
?
?02-109109-2345 2345 (ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)
?
?0202--109109--2345 2345 กด 1 1 กด 5 5 ((ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ ได้ตลอด 24 24 ชั่วโมง
?
?0202--270270--6400 6400 (Call Center Call Center กรมบัญชีกลาง)
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
?
?https://govwelfare.cgd.go.th/welfare/home https://govwelfare.cgd.go.th/welfare/home
?
?https://https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th cgd.go.th
?
?แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย"
(โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)
?
?https://govwelfare.dep.go.th/checkhttps://govwelfare.dep.go.th/check
(เฉพาะคนพิการ)
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
?
?25ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0
?
?26ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3
?
?27ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7
?
?30ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9
รวมประมาณ 14.55ล้านราย
ช่องทางการรับเงิน
อย่าลืม!!!!
เปิดบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชน
ตรวจสอบบัญชีธนาคารจะต้องมีสถานะ ActiveActive
เพื่อรับเงินได้
ต่ออายุ/ทาบัตรประจาตัวคนพิการเพื่อรอรับเงินโอน
ตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 67 เป็นต้นไป
ที่มา: กระทรวงการคลัง