โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 17, 2024 13:33 —กระทรวงการคลัง

ฉบับที่ 90/2567 วันที่ 17 กันยายน 2567

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ (โครงการฯ) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายสาคัญ ที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสาคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลาดับแรก

คณะรัฐมนตรีเล็งเห็นว่า เนื่องจากในปี 2567 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวที่ต่ากว่า ค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ากว่าอัตราการขยายตัวตามศักยภาพ (Potential Growth) และประเทศในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เช่น การหดตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม ในช่วงครึ่งปีแรก การหดตัวของการบริโภคสินค้าคงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ผู้ผลิตอุตสาหกรรมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมลดลงอย่างต่อเนื่อง หนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทาให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนพิการที่มีกาลังซื้อที่อ่อนแอได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ๆ คณะรัฐมนตรีจึงมีความจาเป็นที่ต้องดาเนินโครงการฯ เพื่อเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ เพิ่มกาลังซื้อ และเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยมีสาระสาคัญของโครงการฯ ดังนี้

1. โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระ ค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) ปี 2565 ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จาเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจานวน 10,000 บาทต่อคน ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับ เลขประจาตัวประชาชนหรือผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ ณ สานักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง (เฉพาะกรณีผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจานวน ประมาณ 12.40 ล้านราย ประกอบด้วย

1.1 ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) สาเร็จแล้วตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง และไม่เป็นคนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการตามฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

1.2 ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ e-KYC สาเร็จแล้ว เป็นคนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการที่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม.

1.3 ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ e-KYC สาเร็จแล้ว เป็นคนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ ตามฐานข้อมูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา แต่ไม่อยู่ ในฐานข้อมูลของ พก. พม.

ทั้งนี้ จะใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 ซึ่งไม่รวมถึงผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) สาเร็จ และเป็นบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัด พม. ตามที่ พม. ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง

2

2. โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและ เพิ่มศักยภาพของคนพิการซึ่งเป็นผู้เปราะบางที่ขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่าย ที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการและความจาเป็นของคนพิการแต่ละประเภทในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจานวน 10,000 บาทต่อคน ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ (1) ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการที่ได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา (2) บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชนของคนพิการ (กรณีไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ย ความพิการตามข้อ (1)) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจานวนประมาณ 2.15 ล้านราย ประกอบด้วย

2.1 คนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการที่ยังไม่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม.

2.2 คนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการที่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม. และไม่มีบัตรสวัสดิการ แห่งรัฐ ซึ่งจะต้องต่ออายุบัตรประจาตัวคนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ

2.3 คนพิการที่ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ ตามฐานข้อมูลของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา และไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะต้องทาบัตรประจาตัวคนพิการ ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ

2.4 คนพิการที่ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ ตามฐานข้อมูลของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ตามฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะต้องทาบัตรประจาตัว คนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ

ทั้งนี้ จะใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 และไม่รวมถึงคนพิการที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัด พม. ตามที่ยืนยันข้อมูลคนพิการดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง

สาหรับการดาเนินการทั้ง 2 โครงการ กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยขณะนี้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้เตรียม ความพร้อมที่จะจ่ายเงิน ดังนี้ วัน เดือน ปี กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน

25 กันยายน 2567

คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0

26 กันยายน 2567

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3

27 กันยายน 2567

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7

30 กันยายน 2567

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจาตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9

หมายเหตุ: คนพิการ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ทั้งนี้ ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สาเร็จในครั้งแรก จะมีการดาเนินการจ่ายเงินซ้า (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจานวน 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 และครั้งที่ 3 ภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 โดยเมื่อพ้นกาหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว รัฐจะสนับสนุนเงินจานวน 10,000 บาทต่อคน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายรวมจานวนประมาณ 14.55 ล้านราย ซึ่งสามารถนาไปใช้จ่ายซื้อสินค้าที่เหมาะสมต่อการดารงชีวิตโดยไม่จากัดประเภทร้านค้า โดยจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จาเป็นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ตลอดจน เพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในช่วงปลายปี 2567 ได้อย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าการมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจานวน 145,552.40 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว

3

เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.35 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ นอกจากนี้ เมื่อผู้บริโภคมีกาลังซื้อมากขึ้น จะช่วยก่อให้เกิดการผลิต การค้าขาย การจ้างงาน และการคมนาคมขนส่งตามมา ซึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น จะเอื้อให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีอากรได้เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเน้นย้าให้กลุ่มเป้าหมายตามโครงการดาเนินการตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจาตัวประชาชนว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือหากยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ขอให้ดาเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจาตัวประชาชน และสาหรับคนพิการที่ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการหรือบัตรประจาตัวคนพิการหมดอายุ ขอให้ดาเนินการทาบัตรหรือต่ออายุบัตรให้เรียบร้อยภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เพื่อรับสิทธิตามโครงการดังกล่าว

ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

1. เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th

2. เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th

3. เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ)

4. แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย" (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)

5. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร. 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

1. คนพิการ

1.1 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรศัพท์สายด่วน (Call Center) 1300

1.2 พก. โทร. 0 2354 3388 ต่อ 701 - 702 (หน่วยงานออกบัตรประจาตัวคนพิการ)

1.3 ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่งได้ทางเว็บไซต์ www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter

1.4 อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

2.1 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

2.2 Call Center กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

?

?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

?

?ยืนยันตัวตนแล้ว

?

?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.

?

?ไม่เป็นคนพิการที่มีบัตรประจาตัวคนพิการ

01

01

02

02

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567

ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

ใครได้รับสิทธิ์บ้าง?

ประมาณ 12.412.40 ล้านราย

ประมาณ 2.15 2.15 ล้านราย

รัฐสนับสนุนเงินจานวน 10,000 10,000 บาทต่อคน (ครั้งเดียว)

โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการที่เหมาะสมต่อการดารงชีวิตโดยไม่จากัดประเภทร้านค้า

พร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชน

?

?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

?

?ยืนยันตัวตนแล้ว

?

?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.

?

?บัตรประจาตัวคนพิการหมดอายุ

?

?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

?

?ยืนยันตัวตนแล้ว

?

?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.

?

?ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการ แต่ได้รับเบี้ยความพิการ(ตามฐานข้อมูลของ อปท./กทม./เมืองพัทยา)

?

?มีบัตรประจาตัวคนพิการ

?

?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

?

?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.

?

?มีบัตรประจาตัวคนพิการแต่หมดอายุ

?

?ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

?

?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.

?

?ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการแต่ได้รับเบี้ยความพิการ(ตามฐานข้อมูลของ อปท./กทม./เมืองพัทยา)

?

?ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

?

?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.

?

?ไม่มีบัตรประจาตัวคนพิการแต่ได้รับเบี้ยความพิการ(ตามฐานข้อมูล อปท./กทม./เมืองพัทยา)

?

?มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ไม่ได้ยืนยันตัวตน

?

?ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของ พม.

2

2 ช่องทาง

บัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ ณ สานักงานคลังจังหวัดหรือกับกรมบัญชีกลาง

บัญชีเงินฝากธนาคาร

พร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชน

2

2 ช่องทาง

ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ

ที่ได้รับข้อมูลจาก อปท./กทม./เมืองพัทยา

?

?Call Center Call Center 1300

?

?02-354-3388ต่อ 701-702(กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ)

สิทธิ์ที่ได้จากโครงการคืออะไร?

เริ่มโอนวันไหน?

หากโอนไม่สาเร็จ รัฐจะโอนซ้าอีกหรือไม่?

25 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป

หากจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สาเร็จในครั้งแรก จะดาเนินการจ่ายซ้า (RetryRetry)จานวน 3 ครั้ง ดังนี้

ครั้งที่ 1 ภายใน 22 ต.ค. 67

ครั้งที่ 2 ภายใน 22 พ.ย. 67

ครั้งที่ 3 ภายใน 22 ธ.ค. 67

(ณ 31 ส.ค. 67)

(ณ 31 ส.ค. 67)

กลุ่ม 2ต้องไปต่ออายุบัตรประจาตัวคนพิการ

กลุ่ม 3 และ 4 ต้องไปทาบัตรประจาตัวคนพิการ

อย่าลืม!!!!

1

1

2

2

3

3

1

1

2

2

3

3

4

4

ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นี้เท่านั้น

ช่องทางการตรวจสอบและผลการได้รับเงินตามโครงการและติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงิน

คนพิการ

?

?ศูนย์บริการคนพิการจังหวัด ทั่วประเทศ

?

?อปท. กทม. และเมืองพัทยา

?

?02-109109-2345 2345 (ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)

?

?0202--109109--2345 2345 กด 1 1 กด 5 5 ((ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ)ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ ได้ตลอด 24 24 ชั่วโมง

?

?0202--270270--6400 6400 (Call Center Call Center กรมบัญชีกลาง)

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

?

?https://govwelfare.cgd.go.th/welfare/home https://govwelfare.cgd.go.th/welfare/home

?

?https://https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th cgd.go.th

?

?แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย"

(โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)

?

?https://govwelfare.dep.go.th/checkhttps://govwelfare.dep.go.th/check

(เฉพาะคนพิการ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

?

?25ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0

?

?26ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3

?

?27ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7

?

?30ก.ย. 67เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9

รวมประมาณ 14.55ล้านราย

ช่องทางการรับเงิน

อย่าลืม!!!!

เปิดบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจาตัวประชาชน

ตรวจสอบบัญชีธนาคารจะต้องมีสถานะ ActiveActive

เพื่อรับเงินได้

ต่ออายุ/ทาบัตรประจาตัวคนพิการเพื่อรอรับเงินโอน

ตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 67 เป็นต้นไป

ที่มา: กระทรวงการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ