ฉบับที่ 131/2567 วันที่ 20 ธันวาคม 2567
ความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ รอบการจ่ายเงินซ้า (Retry) ครั งที่ 3 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผย ความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายโครงการรวมประมาณ 14.55 ล้านคน ว่า กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ต่อราย ให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2567 โดยมียอดรวมที่จ่ายเงินสาเร็จแล้ว เป็นจานวนทั้งสิ้น 14,450,168 ราย
ทั งนี ในรอบการจ่ายเงินซ้า (Retry) ครั งที่ 3 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 กรมบัญชีกลางได้สั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีสิทธิจ้านวน 50,228 ราย โดยประกอบด้วยการจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิที่ยังจ่ายเงินไม่สาเร็จในรอบการจ่ายเงินที่ผ่านมา และการจ่ายเงินให้แก่คนพิการที่ได้ดาเนินการต่ออายุบัตรประจาตัวคนพิการหรือทาบัตรประจาตัวคนพิการหรือแก้ไขข้อมูลบัตรประจาตัวคนพิการเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี พบว่าในรอบการจ่ายเงินซ้าดังกล่าว ยังมีการจ่ายเงินไม่ส้าเร็จจ้านวน 37,685 ราย เนื่องจากสาเหตุดังนี้
1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายเงินไม่ส้าเร็จจ้านวน 33,767 ราย มีสาเหตุหลักเนื่องจากยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจาตัวประชาชนจานวน 30,842 ราย รองลงมาคือ บัญชีเงินฝากธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคาร และเลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้องรวมกัน 2,925 ราย
2. คนพิการ จ่ายเงินไม่ส้าเร็จจ้านวน 3,918 ราย มีสาเหตุหลักเนื่องจากยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจาตัวประชาชนจานวน 3,834 ราย รองลงมาคือ บัญชีเงินฝากธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง และไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารรวมกัน 84 ราย
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า ภายหลังจากการจ่ายเงินซ้า (Retry) ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ถือได้ว่ากระทรวงการคลังได้ดาเนินการจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายเสร็จสิ้นแล้วตามเงื่อนไขของโครงการที่คณะรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นชอบไว้ กล่าวคือ ?เมื่อพ้นก้าหนดการ Retry ครั งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และ ถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ?
ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการด้าเนินโครงการฯ ภาครัฐได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายแล้วรวมทั งสิ น 14,450,168 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.19 ของกลุ่มเป้าหมาย ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ ท้าให้มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจจ้านวน 144,501.68 ล้านบาท และจากผลการสารวจความคิดเห็นของประชาชนที่ได้รับสิทธิในโครงการฯ จานวนตัวอย่าง 31,500 ราย โดยสานักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีการแบ่งสัดส่วนการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาท ไปกับการใช้จ่ายของครัวเรือนเป็นหลักกว่าร้อยละ 75 โดยมีการใช้จ่าย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม 2) ซื้อของใช้ในครัวเรือน และ 3) ชาระ ค่าสาธารณูปโภค ในขณะที่สถานที่ที่นาเงิน 10,000 บาท ไปใช้จ่าย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ร้านค้าในชุมชน/ร้านขายของชา 2) หาบเร่ แผงลอยทั่วไป/ในตลาด และ 3) ร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ททั่วไป สะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ของการดาเนินโครงการฯ ที่มีวัตถุประสงค์หลักในการบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จาเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในช่วงปลายปี 2567
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สานักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3522
ที่มา: กระทรวงการคลัง