นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการดาเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของ กระทรวงการคลังที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร ผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ ได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชาระหนี้สินนอกระบบ สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ โดยผลการดาเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ? 31 ธันวาคม 2567 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจานวน 50,077 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 1,778.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแถลงข่าวกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 จานวน 24,684 ราย และมียอดอนุมัติเพิ่มขึ้น 577.36 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายส่งเสริมให้มีการประกอบ ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกากับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบจากเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกาหนด รวมทั้งยังเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาให้บริการสินเชื่อในระบบอย่างถูกกฎหมาย โดยปัจจุบัน ณ เดือนธันวาคม 2567 มีนิติบุคคล (บริษัทจากัดหรือห้างหุ้นส่วนจากัด) ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดาเนินการแล้ว 1,148 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,768,999 บัญชี เป็นจานวนเงินรวม 46,177.93 ล้านบาท โดยเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 385,807 บัญชี เป็นจานวนเงินรวม 7,203.55 ล้านบาท ทั้งนี้ นิติบุคคลที่สนใจประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถดูข้อมูลการยื่นคาขออนุญาต ได้ที่ www.1359.go.th หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1359
กองนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สานักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2169 7130 ที่มา: กระทรวงการคลัง