ในปี 2550 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 14.5 ล้านคน ขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.7 ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 22.9 ต่อปี ทั้งนี้ รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2550 มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 511.8 พันล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ประมาณร้อยละ 6.1 ต่อปี
อัตราการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2550 ที่ร้อยละ 4.7 ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี จากปัจจัยความไม่เชื่อมั่นต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวจากกลุ่มเอเชียตะวันออกซึ่งเป็นกล่มนักท่องเที่ยวที่มีการอ่อนไหวต่อสถานการณ์ไม่มีแน่นอนต่างๆ มีการหดตัวลงมากที่สุด และรองลงมาคือนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกา ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มทวีปยุโรปยังคงมีอัตราการขยายตัวได้ดี รวมถึงในตลาดใหม่ๆ
เช่น กลุ่มตะวันออกกลางได้แก่ ประเทศอิสราเอลและสาธารณรัฐอาหรับอมิเรต กลุ่มโอเชียเนีย ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย กลุ่มอเมริกาใต้ และกลุ่มเอเชียใต้ ซึ่งได้แก่ ประเทศอินเดีย
จากการวิเคราะห์ของ สศม. พบว่า ในด้านอุปสงค์ (Demand side) นักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อหัวในระดับสูง ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกาเหนือ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีมูลค่าการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูง ควรให้ความสำคัญ และดำเนินการตลาดในเชิงรุกกับประเทศที่มีนักท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงเหล่านี้ นอกจากนี้ ควรมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยงในกลุ่มตลาดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงในอนาคต ในด้านอุปทาน (Supply side) ของการท่องเที่ยว ภาครัฐควรมีการส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
ในการนี้ จากการศึกษาผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจไทยของ สศม. พบว่า หากจำนวนนักท่องเที่ยวสามารถเพิ่มขึ้นได้ 100,000 คน จะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศสามารถเพิ่มขึ้นประมาณ 3,700 ล้านบาท ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และทำให้ GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.15 ต่อปีจากกรณีฐาน
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th