MacroMorning Focus ประจำวันที่ 20 มิ.ย.51
SUMMARY:
- อนุมัติเงิน 5 พันล้านบาท ดำเนินโครงการ SML
- อุตฯก่อสร้างโอดต้นทุนพุ่ง เสียหาย 8 หมื่นล้านบาท
- จีนปรับราคาสินค้าเชื้อเพลิงภายในประเทศขึ้น
HIGHLIGHT:
1. อนุมัติเงิน 5 พันล้านบาท ดำเนินโครงการ SML
- จากการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน(SML) ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ในเบื้องต้นพบว่าสำนักงบประมาณได้มีการทำหนังสือขอใช้งบประมาณปี 51 ในการใช้ดำเนินโครงการ SML ไปแล้วประมาณ 5,500 ล้านบาท จากวงเงินที่ครม.อนุมัติไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท
- ขณะที่รมต.คลังจะมีการประชุมคณะกรรมการเอสเอ็มแอล ในวันนี้ (20 มิ.ย.51) ว่าจะมีการอนุมัติเงินอีก 5,000 ล้านบาท เพื่อมาใช้ดำเนินโครงการ SML เพิ่มเติมอีกหรือไม่
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจครึ่งหลังปี 51 มีความเสี่ยงจากเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นจากการที่ราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงและมีความผันผวนมากขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศ (การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน) ขยายตัวชะลอลงได้ ดังนั้นการที่มีการเร่งดำเนินโครงการ SML นั้น จะเป็นประโยชน์ในการที่จะบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะการดังกล่าวได้บ้าง
2.อุตฯก่อสร้างโอดต้นทุนพุ่ง เสียหาย 8 หมื่นล้านบาท
- นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเปิดเผยว่า ต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นสูง สร้างความเสียหายให้อุตสาหกรรมกว่า 8 หมื่นล้านบาท มีผู้ประกอบการทิ้งงานกว่า300โครงการ เชื่อสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1,000 โครงการ โดยทางครม.มีมติเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ทำสัญญากับภาคราชการ ทางสมาคมมีความพอใจในความช่วยเหลือแต่ยังถือเป็นมาตราการเบื้องต้น จึงขอยื่นข้อเสนอต่อภาครัฐอีก 4 ประเด็นเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว คือ 1.กำหนดสูตรสัญญาแบบปรับราคาได้(ค่าK) ใหม่ 2.กำหนดราคากลางให้เป็นปัจจุบัน 3.ปรับปรุงระบบ E-Auction 4.ยกเว้นระเบียบพัสดุ ข้อ16 เรื่องการใช้เหล็ก บรรเทาปัญหาการขาดแคลนเหล็กเส้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจาก วัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้าง 2 รายการ มีราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก ได้แก่ 1.เหล็กเส้น 2.น้ำมันเชื้อเพลิงที่ราคาปรับตัวเพิ่มนับจากต้นปีมากกว่า ร้อยละ50และ30 ตามลำดับ ทำให้ผู้รับเหมาโครงการที่ได้ทำสัญญาก่อสร้างไปแล้ว ได้รับผลกระทบไม่สามารถแบกรับภาระค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นได้ จนเป็นเหตุให้ต้องทิ้งโครงการไป จนอาจส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีการชะลอตัวลง อย่างไรก็ดีรัฐบาลกำลังเร่งเข้ามาช่วยเหลือ พิจารณาปรับสูตรค่า K ใหม่ให้สะท้อนภาพต้นทุนที่แท้จริง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นนี้
3. จีนปรับราคาสินค้าเชื้อเพลิงภายในประเทศขึ้น
- รัฐบาลจีนประกาศจะปรับราคาน้ำมันดีเซลและเบนซิน รวมถึงค่าไฟหลังจากราคำน้ำมันดิบในตลาดโลกปัจจุบันอยู่สูงกว่า 130 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX ลดลงทันทีเพื่อขานรับการคาดการณ์ถึงอุปสงค์ต่อน้ำมันของจีนที่น่าจะปรับลดลง รัฐบาลจีนเองก็ยังห่วงว่าการปรับราคาครั้งนี้จะส่งแรงกดดันให้กับภาวะเงินเฟ้อในประเทศที่สูงอยู่แล้วให้เพิ่มขึ้น แม้นักวิเคราะห์บางส่วนเห็นว่าจีนบริโภคน้ำมันน้อยกว่าที่จำเป็น การปรับเพิ่มราคาจะทำให้โรงกลั่นน้ำมันในจีนมีกำไรเพิ่มขึ้นและมีแรงจูงใจให้เพิ่มการผลิต
- สศค.วิเคราะห์ว่า จากการที่จีนเป็นประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อุปสงค์ต่อน้ำมันของจีนที่ลดลงอาจช่วยให้ปัญหาอุปสงค์ส่วนเกินในตลาดน้ำมันดิบโลกลดลง และทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกลดลงหรืออย่างน้อยไม่ปรับตัวสูงขึ้น การขึ้นราคาพลังงานครั้งนี้จะทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าภายในจีนเพิ่มขึ้น และยังช่วยชะลอการลงทุนและการบริโภค รวมถึงลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนลง อย่างไรก็ตาม จีนเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้ารายใหญ่ของโลก การขึ้นราคาสืนค้าภายในจีนและภาวะเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอาจกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อโลก
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th