รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 13 มิถุนายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 13, 2008 11:00 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 13 มิ.ย.51
SUMMARY:
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคติดต่อกัน 2 เดือน
- ช่องทางของไทยเมื่อเวียดนามประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ
- เงินเฟ้อพ่นพิษ ฉุดหุ้นเอเชียดิ่งระนาว
HIGHLIGHT:
1. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคติดต่อกัน 2 เดือน
- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.51 พบว่าอยู่ที่ระดับ 71.8 ลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 73.0 ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความกังวลเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง
- สศค.วิเคราะห์ว่า การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง สะท้อนถึงผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของประชาชน อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐมีนโยบายออกช่วยเหลือ เช่น ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างขั้นต่ำ และแจกคูปองสำหรับคนมีรายได้น้อย เป็นต้น น่าจะช่วยเสริมความมั่นใจและบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะดังกล่าวให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่ง
2. ช่องทางของไทยเมื่อเวียดนามประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ
- รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. กระทรวงอุตฯ เปิดเผยว่าการที่เวียดนามประสบปัญหาเศรษฐกิจและมีโครงสร้างพื้นฐานไม่มั่นคง อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติหันมาลงทุนในไทย แต่ไทยไม่ควรประมาทและควรวางแผนในการดึงการลงทุนเข้ามาไทย เนื่องจากเวียดนามยังมีค่าแรงถูกกว่าไทย ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตฯ เห็นว่ารัฐควรบริหารจัดการให้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออก และควรจัดการกับปัญหาการชะลอตัวของการบริโภค
- สศค.วิเคราะห์ว่า ปัญหาเศรษฐกิจเวียดนามและการลดค่า Dong จะกระทบการค้าและการเงินไทย ด้านการส่งออก เวียดนามน่าจะมีการนำเข้าสินค้าลดลง โดยมูลค่านำเข้าจากไทยคิดเป็นร้อยละ 6.8 ของการนำเข้าทั้งหมดของเวียดนาม พิจารณาการส่งออกของไทยพบว่าไทยส่งออกไปเวียดนามเพียงร้อยละ 2.5 ของการส่งออกทั้งหมด จึงอาจไม่กระทบภาพรวมของการส่งออกมากนัก การอ่อนค่าของ Dong จะทำให้สินค้าเข้าจากเวียดนามถูกลงและอาจทำให้ไทยมีการนำเข้าจากเวียดนามมากขึ้น ธุรกิจไทยที่ลงทุนในเวียดนามอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดการเก็งกำไรในค่าเงินบาทจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเดียวกับเวียดนาม รัฐบาลควรสนับสนุนการกระจายตลาดส่งออกให้มากขึ้น และป้องกันการเก็งกำไรจากนักลงทุนต่างชาติ ธปท. ควรดูแลค่าเงินบาทไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป และภาครัฐควรร่วมมือกับภาคเอกชนไทยในเวียดนามวางแผนรองรับผลกระทบ
3. เงินเฟ้อพ่นพิษ ฉุดหุ้นเอเชียดิ่งระนาว
- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่าตลาดหุ้นทั่วเอเชียร่วงลงต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน จากความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและความปั่นป่วนในตลาดสินเชื่อที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ปิดร่วงไปถึง 2.21% หรือ 66.71จุด มาอยู่ที่ 2957.53จุด แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน พ.ค.จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7.7% สำหรับดัชนีนิกเกอิปิดตัวลดลง 2.08% หรือ 294.88จุด มาอยู่ที่ 13888.60 จุด ตามทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงลงไป 205.99จุด หรือ 1.68% ปิดที่ระดับ 12083.77จุด
- สศค.วิเคราะห์ว่า ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นมากในหลายประเทศทั่วเอเชีย มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์, ราคาสินค้าเกษตรได้แก่ ข้าว, ข้าวโพด, มันสำปะหลัง ที่เพิ่มขึ้นมากจากการลดลงของอุปทาน เป็นผลให้นักลงทุนต่างกลัวว่าภาวะเงินเฟ้อจะทำให้การบริโภคภาคประชาชนลดลง ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ดีธนาคารกลางจำเป็นต้องใช้การมาตรการทางการเงิน เช่นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ