ผลการบริหารจัดการหนี้สาธารณะภาครัฐ ประจำเดือนพฤษภาคม 2551 และรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2551
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2551 พร้อมทั้งรายงานสถานะ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2551 ดังนี้
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
1.1 เดือนพฤษภาคม 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกเพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) ซึ่งครบกำหนด ไถ่ถอนเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2551 วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท โดยการทยอยออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 3 รุ่น วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท ในเดือนเดียวกัน
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการเคหะแห่งชาติได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงินรวม 3,700 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ Refinance เงินกู้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) จำนวน 17,328 ล้านบาท ในเดือนเมษายน 2551 โดยการออก Samurai Bond ในเดือนพฤษภาคม 2551 ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 1,549 ล้านบาท
1.2 ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้
ในประเทศวงเงินรวม 64,657 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงิน 15,000 ล้านบาท
และพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 49,657 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll Over และ Refinance หนี้เดิมรวม 54,905 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
รัฐบาลได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 22,361 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 2 ล้านบาท Refinance วงเงิน 17,328 ล้านบาท และ Swap วงเงิน 5,031 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 1,589 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,199 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 1,699 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 258 ล้านบาท และเป็นการ Roll Over วงเงิน 7,500 ล้านบาท
2. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนพฤษภาคม 2551
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชยการขาดดุล งบประมาณ วงเงินรวม 11,500 ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 11,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 500 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 6,500 ล้านบาท
โดยเป็นการกู้เพื่อลงทุนในโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
และการเคหะแห่งชาติ วงเงิน 1,200 ล้านบาท และ 5,300 ล้านบาท ตามลำดับ
ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 210,212 ล้านบาท โดยเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 153,891 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 56,321 ล้านบาท รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 3
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
เดือนพฤษภาคม 2551
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 16,546 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 10,740 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 5,806 ล้านบาท
ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 80,053 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2551
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2551 มีจำนวน 3,401,403 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.11 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,178,065 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 949,567 ล้านบาท
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 92,442 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 160,360 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 20,969 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 25,750 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 37,563 ล้านบาท สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 2,646 ล้านบาท 3,155 ล้านบาท และ 6,012 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศที่รัฐบาลกู้โดยตรง โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 39,943 ล้านบาท เนื่องจากการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 23,550 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 12,393 ล้านบาท และตั๋วเงินคลัง วงเงิน 4,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,948 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการออกพันธบัตรขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการเคหะแห่งชาติ วงเงิน 4,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ และการกู้เงินระยะยาวของการเคหะแห่งชาติและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย วงเงิน 8,100 ล้านบาท และ 1,577 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง 5,560 ล้านบาท
สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงสุทธิ 9,455 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด วงเงิน 1,230 ล้านบาท และการเคหะแห่งชาติชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะยาว วงเงิน 8,004 ล้านบาท
สำหรับหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ลดลงสุทธิ 6,012 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรกองทุนที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน จำนวน 6,000 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ 3,401,403 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 396,045 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.64 และ หนี้ในประเทศ 3,005,358 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.36 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,186,931 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.69 และหนี้ระยะสั้น 214,472 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.31 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5309
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 53/2551 27 มิถุนายน 51--
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤษภาคม 2551 พร้อมทั้งรายงานสถานะ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2551 ดังนี้
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
1.1 เดือนพฤษภาคม 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกเพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) ซึ่งครบกำหนด ไถ่ถอนเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2551 วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท โดยการทยอยออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 3 รุ่น วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท ในเดือนเดียวกัน
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการเคหะแห่งชาติได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงินรวม 3,700 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ Refinance เงินกู้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) จำนวน 17,328 ล้านบาท ในเดือนเมษายน 2551 โดยการออก Samurai Bond ในเดือนพฤษภาคม 2551 ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 1,549 ล้านบาท
1.2 ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้
ในประเทศวงเงินรวม 64,657 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงิน 15,000 ล้านบาท
และพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 49,657 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll Over และ Refinance หนี้เดิมรวม 54,905 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
รัฐบาลได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 22,361 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 2 ล้านบาท Refinance วงเงิน 17,328 ล้านบาท และ Swap วงเงิน 5,031 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 1,589 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,199 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 1,699 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 258 ล้านบาท และเป็นการ Roll Over วงเงิน 7,500 ล้านบาท
2. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนพฤษภาคม 2551
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชยการขาดดุล งบประมาณ วงเงินรวม 11,500 ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 11,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 500 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 6,500 ล้านบาท
โดยเป็นการกู้เพื่อลงทุนในโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
และการเคหะแห่งชาติ วงเงิน 1,200 ล้านบาท และ 5,300 ล้านบาท ตามลำดับ
ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 210,212 ล้านบาท โดยเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 153,891 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 56,321 ล้านบาท รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 3
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
เดือนพฤษภาคม 2551
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 16,546 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 10,740 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 5,806 ล้านบาท
ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 80,053 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2551
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2551 มีจำนวน 3,401,403 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.11 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,178,065 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 949,567 ล้านบาท
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 92,442 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 160,360 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 20,969 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 25,750 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 37,563 ล้านบาท สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 2,646 ล้านบาท 3,155 ล้านบาท และ 6,012 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศที่รัฐบาลกู้โดยตรง โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 39,943 ล้านบาท เนื่องจากการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 23,550 ล้านบาท พันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 12,393 ล้านบาท และตั๋วเงินคลัง วงเงิน 4,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,948 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการออกพันธบัตรขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการเคหะแห่งชาติ วงเงิน 4,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ และการกู้เงินระยะยาวของการเคหะแห่งชาติและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย วงเงิน 8,100 ล้านบาท และ 1,577 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ หนี้ต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง 5,560 ล้านบาท
สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงสุทธิ 9,455 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด วงเงิน 1,230 ล้านบาท และการเคหะแห่งชาติชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะยาว วงเงิน 8,004 ล้านบาท
สำหรับหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ลดลงสุทธิ 6,012 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรกองทุนที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน จำนวน 6,000 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ 3,401,403 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 396,045 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.64 และ หนี้ในประเทศ 3,005,358 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.36 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,186,931 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.69 และหนี้ระยะสั้น 214,472 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.31 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5309
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 53/2551 27 มิถุนายน 51--