รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 15, 2008 11:00 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่  15  ก.ค.51
SUMMARY:
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. ปรับลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
- ธปท. ชี้สภาพคล่องไม่มีปัญหาแม้ต่างชาติขนเงินออก
- ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจญี่ปุ่นลดลงจากปัญหาราคาน้ำมันแพงและเศรษฐกิจสหรัฐ
HIGHLIGHT:
1. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. ปรับลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. ว่า อยู่ที่ระดับ 70.8 ลดลงจากระดับ 71.8 ในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในขณะนี้ ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และรายได้ในอนาคตที่ไม่สอดคล้องกับรายจ่าย รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในปัจจุบันและอนาคต ขณะเดียวกัน ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัญหา Sub Prime ในสหรัฐฯ เป็นแรงกดดันให้ผู้บริโภคมีความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจรวมที่ปรับลดลง เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงต่อเนื่องตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เร่งตัวขึ้น ทำให้ผู้บริโภคกังวลกับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคเช่นกัน บ่งชี้ว่าภาพรวมการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ไม่เต็มที่ สอดคล้องกับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนอื่นๆที่ปรับตัวลดลงเช่นกัน เห็นได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ เดือน มิ.ย. ขยายตัวร้อยละ 7.6 ต่อปีชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า
2. ธปท. ชี้สภาพคล่องไม่มีปัญหาแม้ต่างชาติขนเงินออก
- ผู้ว่าการ ธปท. ยืนยันไทยไม่มีปัญหาสภาพคล่อง ถึงแม้นักลงทุนต่างชาติจะมีการนำเงินออกนอกประเทศซึ่งเป็นผลพวงมาจากวิกฤตสินเชื่อในสหรัฐ โดยเงินทุนไหลออกส่วนใหญ่มาจากการที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย ประมาณ 7 หมื่นกว่าล้านนับจากต้นปี 2551 โดยผู้ว่าการธปท. กล่าวว่าสภาพคล่องในระบบยังมีจำนวนมาก ซึ่งธนาคารได้ลงทุนในตลาดพันธบัตร หรือช่องทางลงทุนระยะสั้นอื่นๆ จำนวนไม่ต่างจากเดิมทีประมาณ 5 แสนล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า เงินทุนไหลออกจากการขายสุทธิในตลาดหุ้นจะส่งผลระยะสั้นต่อค่าเงินบาทให้มีการอ่อนค่าลง และไม่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องส่วนเกินในระบบธนาคารพาณิชย์เท่าไรนัก จากข้อมูลการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิ 69,879 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์พบว่าปัจจุบันยังอยู่ในระดับสูง ยังไม่ถึงขั้นที่น่ากังวลมากนัก และต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะมีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยและการขยายสินเชื่อ
3. ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจญี่ปุ่นลดลงจากปัญหาราคาน้ำมันแพงและเศรษฐกิจสหรัฐ
- รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปปรับลดความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจของญี่ปุ่นลงพร้อมทั้งย้ำเตือนถึงความน่าเป็นห่วงจากปัญหาภาวะราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วประกอบกับปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยภาคธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาลงได้แก่ภาคบริษัทซึ่งเดิมทีเป็นตัวขับเคลื่อนหลักโดยมีช่วงกำไรที่ลดลง และอัตราการขยายตัวของการลงทุนได้ปรับตัวลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้หลายฝ่ายในตลาดมองว่าธนาคารกลางของญี่ปุ่นน่าจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากยังคงมีความกดดันจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจมากกว่าการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
- สศค. คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.4 ต่อปี จากร้อยละ 2.1 ต่อปีในปีก่อนหน้าจากการชะลอตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนของประเทศญี่ปุ่นภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน ราคาโภคภัณฑ์ และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นมาก ในขณะเดียวกันค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้การส่งออกขยายตัวดีบวกกับการขยายตัวของอุปสงค์จากประเทศเกิดใหม่ในเอเชียจะช่วยชดเชยการส่งออกไปสหรัฐฯที่มีแนวโน้มชะลอตัวได้ระดับหนึ่ง และยังทำให้การส่งออกซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงขยายตัวได้ดี แม้จะชะลอลงจากปี 2550
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ