สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมิถุนายน 2551 พร้อมทั้งรายงานสถานะ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2551 ดังนี้
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
1.1 เดือนมิถุนายน 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดโดยการแปลงเป็นพันธบัตรรัฐบาล วงเงินรวม 16,000 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 10,787 ล้านบาท โดยทำการ Roll Over วงเงิน 3,000 ล้านบาท และ Refinance วงเงิน 7,787 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงิน 3,000 ล้านบาท และการรถไฟแห่งประเทศไทยและการเคหะแห่งชาติได้ทำการ Refinance หนี้เดิม วงเงิน 2,987 ล้านบาท และ 4,800 ล้านบาท ตามลำดับ
1.2 ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้
ในประเทศวงเงินรวม 80,657 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงิน 15,000 ล้านบาท ตั๋วเงินคลัง วงเงิน 16,000 และพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 49,657 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll Over และ Refinance หนี้เดิมรวม 65,692 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
รัฐบาลได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 22,361 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 2 ล้านบาท Refinance วงเงิน 17,328 ล้านบาท และ Swap วงเงิน 5,031 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 1,589 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,199 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 1,699 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 258 ล้านบาท และเป็นการ Roll Over วงเงิน 7,500 ล้านบาท
2. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนมิถุนายน 2551
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชยการขาดดุล งบประมาณ วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 500 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 2,500 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 3,220 ล้านบาทโดยเป็นการกู้เพื่อลงทุนในโครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย วงเงิน 1,000 ล้านบาท และเป็นการกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ วงเงิน 220 ล้านบาท และธนาคารอาคารสงเคราะห์ วงเงิน 2,000 ล้านบาท
ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 216,432 ล้านบาท โดยเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 156,891 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 59,541 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
เดือนมิถุนายน 2551
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 20,763 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 14,872 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 5,891 ล้านบาท
ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 100,816 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2551
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2551 มีจำนวน 3,400,158 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.10 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,180,814 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 949,611 ล้านบาทหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 91,496 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 157,268 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 20,969 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะลดลง 1,245 ล้านบาท โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินและหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 945 ล้านบาท และ 3,092 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงและหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 2,748 ล้านบาท และ 44 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การลดลงสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงสุทธิ3,092 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรกองทุนที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันจำนวน 2,000 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงสุทธิ 945 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดจำนวน 1,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,748 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศจากการออกพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 11,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และหนี้ต่างประเทศลดลง เกิดจากการชำระคืนตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ครบกำหนด วงเงิน 300 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,452 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศและต่างประเทศ โดยหนี้ในประเทศที่เพิ่มขึ้นรายการสำคัญเกิดจากการเคหะแห่งชาติได้ออกพันธบัตรวงเงิน 2,000 ล้านบาท และหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นรายการสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น 849 ล้านบาท
สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงสุทธิ 2,408 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ในประเทศสุทธิ 4,175 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 6,000 ล้านบาท และบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้กู้เงินระยะสั้น จำนวน 1,985 ล้านบาท และหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นรายการสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น 1,767 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ 3,400,158 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 389,971 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.47 และหนี้ในประเทศ 3,010,187 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.53 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,202,148 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.18 และหนี้ระยะสั้น 198,010 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.82 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5309
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 59/2551 29 กรกฎาคม 51--
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
1.1 เดือนมิถุนายน 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดโดยการแปลงเป็นพันธบัตรรัฐบาล วงเงินรวม 16,000 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 10,787 ล้านบาท โดยทำการ Roll Over วงเงิน 3,000 ล้านบาท และ Refinance วงเงิน 7,787 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงิน 3,000 ล้านบาท และการรถไฟแห่งประเทศไทยและการเคหะแห่งชาติได้ทำการ Refinance หนี้เดิม วงเงิน 2,987 ล้านบาท และ 4,800 ล้านบาท ตามลำดับ
1.2 ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้
ในประเทศวงเงินรวม 80,657 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงิน 15,000 ล้านบาท ตั๋วเงินคลัง วงเงิน 16,000 และพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 49,657 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll Over และ Refinance หนี้เดิมรวม 65,692 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
รัฐบาลได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 22,361 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 2 ล้านบาท Refinance วงเงิน 17,328 ล้านบาท และ Swap วงเงิน 5,031 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 1,589 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 9,199 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 1,699 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 258 ล้านบาท และเป็นการ Roll Over วงเงิน 7,500 ล้านบาท
2. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนมิถุนายน 2551
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชยการขาดดุล งบประมาณ วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 500 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 2,500 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 3,220 ล้านบาทโดยเป็นการกู้เพื่อลงทุนในโครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย วงเงิน 1,000 ล้านบาท และเป็นการกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ วงเงิน 220 ล้านบาท และธนาคารอาคารสงเคราะห์ วงเงิน 2,000 ล้านบาท
ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 216,432 ล้านบาท โดยเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 156,891 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 59,541 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
เดือนมิถุนายน 2551
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 20,763 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 14,872 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 5,891 ล้านบาท
ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 100,816 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2551
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2551 มีจำนวน 3,400,158 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.10 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,180,814 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 949,611 ล้านบาทหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 91,496 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 157,268 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 20,969 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะลดลง 1,245 ล้านบาท โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินและหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 945 ล้านบาท และ 3,092 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงและหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 2,748 ล้านบาท และ 44 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การลดลงสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงสุทธิ3,092 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรกองทุนที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันจำนวน 2,000 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงสุทธิ 945 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดจำนวน 1,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,748 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศจากการออกพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 11,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และหนี้ต่างประเทศลดลง เกิดจากการชำระคืนตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ครบกำหนด วงเงิน 300 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,452 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศและต่างประเทศ โดยหนี้ในประเทศที่เพิ่มขึ้นรายการสำคัญเกิดจากการเคหะแห่งชาติได้ออกพันธบัตรวงเงิน 2,000 ล้านบาท และหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นรายการสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น 849 ล้านบาท
สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงสุทธิ 2,408 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ในประเทศสุทธิ 4,175 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 6,000 ล้านบาท และบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้กู้เงินระยะสั้น จำนวน 1,985 ล้านบาท และหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นรายการสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น 1,767 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ 3,400,158 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 389,971 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.47 และหนี้ในประเทศ 3,010,187 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.53 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,202,148 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.18 และหนี้ระยะสั้น 198,010 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.82 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5309
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 59/2551 29 กรกฎาคม 51--