รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 5, 2008 12:15 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 5 ส.ค. 2551 
SUMMARY:
- คณะกรรมการร่วมรัฐ-เอกชนเชื่อเดือนหน้าเงินเฟ้อลดผลจาก 6 มาตรการ
- ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 60 สตางค์ต่อลิตรจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก
- นักวิเคราะห์คาดยุโรปคงดอกเบี้ยแม้เงินเฟ้อพุ่ง
HIGHLIGHT:
1. คณะกรรมการร่วมรัฐ-เอกชนเชื่อเดือนหน้าเงินเฟ้อลดผลจาก 6 มาตรการ
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เปิดเผยภายหลังการประชุม กกร.ว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 9.2 นั้นถือว่าสูงมาก ส่วนในเดือนหน้าคาดว่าจะปรับลดลง เนื่องจากการออกมาตรการของรัฐบาลทั้ง 6 มาตรการ จะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อลดลง เพราะมาตรการของรัฐบาลเป็นการหยุดปัจจัยในด้านต่างๆ ครบทุกด้าน ที่จะเป็นตัวเร่งให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีการขยายตัวสูงมากซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากการขยายตัวของเงินเฟ้อในหมวดพลังงานขยายตัวร้อยละ 21 (สัดส่วนร้อยละ 9 ของตะกร้าสินค้าผู้บริโภค) และหมวดพาหนะและการขนส่งขยายตัวร้อยละ 10.9 (สัดส่วนร้อยละ 22 ของตะกร้าสินค้าผู้บริโภค) โดยราคาสินค้าในหมวดหลังนี้จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าพลังงาน (pass -through — effect) ทั้งนี้ สศค. คาดว่าผลจากมาตรการบรรเทาเงินเฟ้อซึ่งจะช่วยบรรเทาราคาสินค้าพลังงานและค่าเดินทางจะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลังลงร้อยละ 1 ส่งผลให้การคาดการณ์ระดับเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 6 เดือนหลัง ปี 2551 อยู่ที่ระดับร้อยละ 6.5 - 8 และส่งผลให้ทั้งปี 2551 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ระดับร้อยละ 6 — 7 ต่อปี
2. ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 60 สตางค์ต่อลิตรจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก
- บริษัท ปตท. เชลล์ และบางจาก ได้ปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 60 สตางค์/ลิตร ในวันนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ตลาดสิงคโปร์ได้ปรับลดลงถึง 6.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมาเนื่องจากอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคเริ่มอยู่ในภาวะล้นตลาด จากการที่ความต้องการนำเข้าจาก เวียดนาม และอินโดนีเซีย ได้มีการปรับตัวลดลง อีกทั้งประเทศจีนเริ่มชะลอการนำเข้าดีเซล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ซื้อกักตุนไว้เป็นจำนวนมาก
- สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวลดลงจะสามารถช่วยลดภาวะกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ร้อนแรงลง และจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการบริโภคและลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นผ่านการใช้รถยนต์เชิงพาณิชย์ซึ่งยังคงใช้พลังงานจากน้ำมันดีเซลเป็นหลัก ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลง 60 สตางค์ต่อลิตรจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงประมาณร้อยละ 0.1 ต่อปี
3. นักวิเคราะห์คาดยุโรปคงดอกเบี้ยแม้เงินเฟ้อพุ่ง
- สำนักวิจัย Lehman Brothers คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 4.25 ในการประชุมวันที่ 7 ส.ค. นี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ค. ที่ร้อยละ 4.1 จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ตาม โดยคาดว่าเงินเฟ้อยุโรปจะพุ่งขึ้นสูงสุดที่ร้อยละ 4.2 ในเดือน ส.ค. ก่อนจะเริ่มลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันที่เริ่มลดลงประกอบกับฐานที่สูงในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่ 2 และ 3 อันเป็นผลจากภาวะตึงตัวภาคการเงินและราคาน้ำมันที่สูง กดดันให้ภาคเอกชนชะลอการผลิตและกระทบต่อการจ้างงานในระยะต่อไป และทำให้ GDP ทั้งปี 51 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.4
- สศค. วิเคราะห์ว่าสาเหตุหนึ่งที่เศรษฐกิจยุโรปชะลอลงมากเนื่องจากการที่ ECB ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 4 ในขณะที่สหรัฐดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบผ่อนคลาย โดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ยจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 2 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐมีมาตรการคืนภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชน ประกอบกับการที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมากถึงร้อยละ 6.7 ในปี 51 ทำให้การส่งออกของยุโรปชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันยังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินยูโรเริ่มอ่อนค่าลง น่าจะทำให้ภาคการผลิตและการส่งออกของยุโรปขยายตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจยุโรปจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.0 ในปี 51 ชะลอตัวลงจากร้อยละ 2.6 ในปี 50
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ