ภาวะเศรษฐกิจจากผลการสำรวจผู้ประกอบการของสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน 2551 (จัดทำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 6, 2008 14:20 —กระทรวงการคลัง

          รายงานภาวะเศรษฐกิจจากผลการสำรวจผู้ประกอบการของสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน 2551 ที่จัดทำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve District) ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือ The Beige Bookเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2551 ดังต่อไปนี้
จากรายงานการสำรวจภาพรวมเศรษฐกิจใน 12 เขตเศรษฐกิจซึ่งแบ่งตามพื้นที่ควบคุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เอกสารแนบ 1) ในเดือนมิถุนายน 2551 พบว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ยังชะลอตัวลงต่อไป โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจใน 5 เขตเศรษฐกิจทางตะวันออกของประเทศอ่อนตัวหรือปรับตัวลดลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเขตชิคาโกเชื่องช้าอ่อนตัว กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเขตแคนซัสซิตี้ และดัลลัสขยายตัวในระดับปานกลาง ส่วนเขตเศรษฐกิจที่เหลือได้แก่ เซ็นต์หลุยส์ ซานฟรานซิสโกคลีพแลนด์ และมินนีอาโพลิส มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจคงที่หรือเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
การใช้จ่ายของประชาชนส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ทั้ง ๆ ที่ได้รับการจ่ายคืนเงินชดเชยภาษีตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ส่วนกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวมีรายงานความเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยประชาชนในหลาย ๆ พื้นที่หันมาท่องเที่ยวใกล้กับแหล่งที่พักอาศัยมากขึ้น เนื่องจากปัญหาภาวะน้ำมันแพง ส่วนอุตสาหกรรมการบริการนั้น มีรายงานถึงความแข็งแรงของธุรกิจการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและธุรกิจการบริการด้านสุขภาพที่มาชดเชยกับการอ่อนตัวลงของธุรกิจการบริการด้านอื่น ๆ สภาวะอุตสาหกรรมการผลิตในหลาย ๆ เขตเศรษฐกิจปรับตัวลดลง ทั้ง ๆ ที่อุปสงค์การส่งออกยังคงตัวอยู่ที่ปริมาณสูงในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั่วทั้งสหรัฐฯ ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ยังคงชะลอตัวในเขตเศรษฐกิจหลัก ได้มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในบางเขตเศรษฐกิจ ในส่วนของกิจกรรมด้านการกู้ยืมยังคงตึงตัว โดยการกู้ยืมสินเชื่อด้านอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อเงินสดอ่อนตัวลงในอัตราที่สูงกว่าการอ่อนตัวของการกู้ยืมในเชิงพาณิชย์ โดยมีรายงานถึงความเข้มงวดในการให้สินเชื่อมากขึ้น ทางด้านเกษตรกรรมมีรายงานความแตกต่างไปในแต่ละพื้นที่ ในขณะที่อุตสาหกรรมพลังงานยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
แรงกดดันจากราคาปัจจัยการผลิตโดยเฉพาะพลังงาน ผลิตภัณฑ์ปิโตเลียมผลิตภัณฑ์โลหะ อาหาร และเคมีภัณฑ์ เพิ่มสูงขึ้นในทุกเขตเศรษฐกิจ ในขณะที่ราคาขายปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่และคงตัวในบางพื้นที่ ส่วนแรงกดดันจากราคาค่าแรงอยู่ในระดับต่ำ สืบเนื่องจากอุปสงค์แรงงานที่อ่อนตัวลง ทั้งนี้ สามารถแบ่งการเคลื่อนไหวในภาคเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในด้านต่างๆ ได้ ดังนี้
การใช้จ่ายของผู้บริโภคและการท่องเที่ยว (Consumer Spending andTourism)
การใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวลดลง ยกเว้นในเขตคลีพแลนด์ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าหลาย ๆ ประเภท อย่างไรก็ตาม การจ่ายคืนเงินชดเชยภาษีได้กระตุ้นยอดขายของสินค้าบางประเภท โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนร้านค้าปลีกโดยรวมแสดงผลประกอบการที่ลดน้อยลง แต่มีการปรับตัวสูงขึ้นในบางอาณาเขต เช่น ฟิลาเดเฟีย ริชมอนด์ เซ็นต์หลุยส์ ดัลลัส ซานฟรานซิสโก และนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของร้านค้าเกือบทุกประเภทชะลอตัว โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับครัวเรือนนอกจากนี้ ผลประกอบการของธุรกิจร้านอาหารในเขตฟิลาเดเฟีย และมินนีอาโพลิสก็ปรับตัวลดลง เช่นกัน
รายงานยอดขายรถยนต์อ่อนตัวลงในทุกเขตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุก SUV และรถตู้ขนาดเล็ก ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ของรถยนต์ประเภทประหยัดพลังงานขนาดเล็ก และรถยนต์นำเข้ายังคงมีปริมาณสูงในเขตฟิลาเดเฟีย คลีพแลนด์ ชิคาโก้ มินนีอาโพลิส และดัลลัส
กิจกรรมการท่องเที่ยวมีรายงานที่แตกต่างกันไปในแต่ละเขตเศรษฐกิจ โดยเขตฟิลาเดเฟีย ชิคาโก ซานฟานซิสโก และแอตแลนต้า มีรายงานยอดการท่องเที่ยวที่ลดน้อยลง ในขณะที่ การท่องเที่ยวในเขตนิวยอร์กและแถบที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา เช่นเขตริชมอนด์ มินนีอาโพลิส และแคนซัสซิตี้ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ด้านการบริการที่ไม่ใช่ด้านการเงิน (Nonfinancial Services)
การบริการที่ไม่ใช่ด้านการเงิน มีรายงานการขยายตัวที่ผสมผสานแตกต่างกันไปในแต่ละเขตเศรษฐกิจโดยธุรกิจโฆษณาและการตลาดในบอสตันขยายตัวในทางบวก ซึ่งนับเป็นผลจากอุปสงค์ด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมรายย่อยที่สูงขึ้นในขณะที่ มีรายงานผลประกอบการที่ต่ำลงในเขตนิวยอร์ก ซานฟานซิสโก มินนีอาโพลิสและริชมอนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในเขตซานฟรานซิสโก เช่นธุรกิจประกันภัย ส่วนธุรกิจบริการในนิวยอร์กที่มีรายงานการจ้างงานลดลงนั้น เป็นผลสืบเนื่องจากวิกฤติตลาดการเงินในสหรัฐฯ
การบริการด้านการขนส่ง (Transportation Services) อ่อนตัวลงในเขตนิวยอร์ก แอตแลนต้าและดัลลัส เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ในขณะที่การบริการด้านการขนส่งในเขตคลีพแลนด์มีผลประกอบการ
ด้านผลประกอบการโรงงาน (Manufacturing)
ผลประกอบการโรงงานอ่อนตัวลงในเกือบทุกเขตเศรษฐกิจ แม้จะมีรายงานการขยายตัวเล็กน้อยในเขตคลีพแลนด์ เซ็นต์หลุยส์ และซานฟรานซิสโกก็ตาม โดยหลาย ๆเขตเศรษฐกิจได้รายงานการปรับตัวลดลงของผลประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม เขตคลีฟแลนด์ แอตแลนตาเซ็นหลุยส์ และชิคาโก้ ได้รายงานการอ่อนตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ ในขณะที่ อุปสงค์ของรถยนต์ขนาดเล็กและรถยนต์ประหยัดพลังงานในเขตเซ็นต์หลุยส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมีแนวโน้มการปรับตัวในด้านบวกของอุตสาหกรรมรถยนต์ในหลาย ๆ เขตเศรษฐกิจ
ในส่วนของผลประกอบการเพื่อการส่งออก ในเขตคลีพแลนด์ ริชมอนด์ชิคาโก และแคนซัสซิตี้มีรายงานยอดอุปสงค์การส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนเขตดัลลัส มีการปรับตัวสูงขึ้นของยอดการส่งออกสินค้าไฮเทคในตลาดเอเชีย ในขณะที่การส่งออกไปตลาดยุโรปตะวันตกปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการในหลาย ๆ เขตเศรษฐกิจต่างคาดการณ์การอ่อนตัวลงของธุรกิจ โดยผู้ประกอบการส่วนมากจะยังคงปริมาณเงินลงทุนให้อยู่ในระดับเดียวกับช่วงที่ผ่านมา
ด้านการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate and Construction)
ความต้องการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยปรับตัวลดลง โดยยอดบ้านคงค้างโดยทั่วไปยังคงอยู่ในระดับสูงและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นในทุกเขตเศรษฐกิจ ยกเว้นในเขตดัลลัสที่ยอดบ้านคงค้างมีปริมาณลดลงโดยเฉพาะในตลาดบ้านราคาถูก ราคาบ้านยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องในหลาย ๆ อาณาเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตซานฟรานซิสโก อริโซน่า เนวาดา และแอตแลนต้า ปริมาณการก่อสร้างบ้านเดี่ยวโดยรวมลดลงต่อเนื่องและมีรายงานการยกเลิกสัญญาการก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตชิคาโก
ในส่วนของความต้องการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ยังคงอ่อนตัวลงในเขตเศรษฐกิจหลักถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในคลีพแลนด์ มินนีอาโพลิสและแคนซัสซิตี้
ด้านการเงินและการธนาคาร (Banking and Finance)
กิจกรรมการกู้ยืมเงินโดยทั่วไปชะลอตัวลง โดยธุรกิจสินเชื่อพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเงินสดอ่อนตัวลงมากกว่าการอ่อนตัวของการกู้ยืมในเชิงพาณิชย์ โดยอุปสงค์เงินกู้ปรับตัวลดลงในเขตนิวยอร์ค แคนซัสซิตี้ซานฟรานซิสโก และฟิลาเดเฟีย ในขณะที่ มีการขยายตัวในทางบวกในเขตเซ็นหลุยส์
ทุกเขตเศรษฐกิจมีรายงานการเข้มงวดในการให้สินเชื่อมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและการก่อสร้าง โดยในเขตดัลลัส มีรายงานการปรับตัวเพิ่มขึ้นของส่วนต่างดอกเบี้ย (Loan Spread)จากผลของต้นทุนการปล่อยกู้ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีรายงานการผิดนัดชำระเงินที่เพิ่มมากขึ้นในเขตนิวยอร์ก และได้มีการคาดการณ์ถึงแนวโน้มการผิดนัดชำระเงินที่เพิ่มมากขึ้นในเขตดัลลัส จากปริมาณสินเชื่อคุณภาพสูงที่น้อยลง
ด้านการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ (Agriculture and NaturalResources)
แต่ละเขตเศรษฐกิจมีรายงานการขยายตัวที่แตกต่างกัน โดยทุกเขตเศรษฐกิจต่างประสบปัญหาการปรับตัวสูงขึ้นของต้นทุนการผลิต ซึ่งส่งผลให้ผลประกอบการลดลงในส่วนของสภาพภูมิอากาศ มีรายงานการฟื้นตัวจากภาวะแห้งแล้งและรายงานปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นในหลาย ๆ พื้นที่ ได้แก่ ริชมอนด์ แอตแลนต้ามินนีอาโพลิส และดัลลัส อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่เย็นและชี้นในเขตชิคาโก เซ็นหลุยส์ มินนีอาโพลิส และแคนซัสซิตี้ นั้น กระทบต่อการเติบโตของข้าวโพดและถั่วเหลือง นอกจากนี้ ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นได้ไปชะลอฤดูการปลูกข้าวสาลีในเขตริชมอนด์ เซ็นต์หลุยส์ และแคนซัสซิตี้นอกจากนี้ ยังมีรายงานความเสียหายจากน้ำท่วมในเขตชิคาโก อีกด้วย
ทรัพยากรด้านพลังงานยังคงมีรายงานยอดกิจกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น จากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตและขุดเจาะพลังงานน้ำมันและ ก๊าซธรรมชาติ ในเขตคลีพแลนด์ แคนซัสซิตี้ดัลลัส และซานฟรานซิสโก
ด้านระดับราคาและค่าจ้าง (Price and Wage)
จากต้นทุนการที่ผลิตปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเชื้อเพลิง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โลหะ อาหารและเคมีภัณฑ์ ประกอบกับการคาดการณ์การปรับตัวลดลงของอุปสงค์ในตลาดและผลประกอบการที่ลดลง ได้บ่งชี้แนวโน้มที่ผู้ผลิตอาจปรับเพิ่มราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น ดังเห็นจากรายงานแรงกดดันด้านราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกเขตเศรษฐกิจ
ในส่วนของค่าจ้างและเงินเดือน ถือว่าอยู่ในระดับคงตัวหรือปรับตัวลดลงเล็กน้อยเปรียบเทียบกับช่วงสองเดือนก่อนหน้า โดยแรงกดดันด้านค่าแรงอยู่ในระดับปานกลาง ตลาดแรงงานยังคงมีความต้องการแรงงานฝีมือในทุกประเภทธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ในบางเขตเศรษฐกิจได้มีรายงานการอ่อนตัวของธุรกิจการบริการด้านการเงิน อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมการก่อสร้าง นอกจากนี้ ในเขตบอสตันและดัลลัสได้มีการเรียกร้องให้ปรับอัตราค่าจ้างขึ้นเพื่อชดเชยกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
การแบ่งเขตเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ
อาณาเขตที่ 1 Boston ประกอบด้วยมลรัฐ Maine, Massachusetts, New Hampshire, Rhode Island, Vermont, และ Most of Connecticut
อาณาเขตที่ 2 New York ประกอบด้วยมลรัฐ New York, Northern New Jersey, Fairfield County, และ Connecticut
อาณาเขตที่ 3 Philadelphia ประกอบด้วยมลรัฐ Delaware, Southern New Jersey, และ Eastern Pennsylvania
อาณาเขตที่ 4 Cleveland ประกอบด้วยมลรัฐ Ohio, Eastern Kentucky, Western Pennsylvania, และ Northern West Virginia
อาณาเขตที่ 5 Richmond ประกอบด้วยมลรัฐ Maryland, Virginia, North Carolina, South Carolina, Southern West Virginia, และ District of Columbia (DC)
อาณาเขตที่ 6 Atlanta ประกอบด้วยมลรัฐ Alabama, Florida, Georgia, Eastern Tennessee, Southern Louisiana, และ Southern Mississippi
อาณาเขตที่ 7 Chicago ประกอบด้วยมลรัฐ Lowa, Northern Indiana, Northern Illinois, Southern Michigan, และ Southern Wisconsin
อาณาเขตที่ 8 St. Louis ประกอบด้วยมลรัฐ Arkansas, Southern Illinois, Southern Indiana, Western Kentucky, Northern Mississippi, Eastern Missouri, และ Western Tennessee
อาณาเขตที่ 9 Minneapolis ประกอบด้วยมลรัฐ Minnesota, Montana, North Dakota, South Dakota, Upper Michigan, และ Northern Wisconsin
อาณาเขตที่ 10 Kansas City ประกอบด้วยมลรัฐ Colorado, Kansas, Nebraska, Oklahoma, Wyoming, Western Missouri, และ Northern New Mexico
อาณาเขตที่ 11 Dallas ประกอบด้วยมลรัฐ Texas, Northern Louisiana, และ Southern New Mexico
อาณาเขตที่ 12 San Francisco ประกอบด้วยมลรัฐ Alaska, Arizona, California, Hawaii, Idaho, Nevada, Oregon, Utah, และ Washington
ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ