Macro Morning Focus ประจำวันที่ 8 ก.ย. 2551
SUMMARY:
- ปัญหาการเมือง 1 เดือนไม่จบ โบรกชี้ดัชนีSETมีโอกาสแตะ 600
- อสังหาฯกระทบ-ความเชื่อมั่นลดลงหวั่นกระทบตลาดบ้านในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
- สหรัฐว่างงานมากสุดในรอบ 5 ปี
HIGHLIGHT:
1. ปัญหาการเมือง 1 เดือนไม่จบ โบรกชี้ดัชนีSETมีโอกาสแตะ 600
- สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เผยว่า สมาคมอยู่ระหว่างการรวบรวมความคิดเห็นของบริษัทสมาชิกเพื่อประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นสิ้นปีรอบใหม่ หลังจากปัจจัยทางการเมืองมีความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ โบรกเกอร์ปรับเป้าดัชนีลงประมาณที่ระดับ 600 จุด จากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อหาทางออกไม่ได้ภายใน 1 เดือน
- สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นไทยมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 645.80 ณ วันที่ 5 ก.ย.51 ปรับตัวลดลงที่ร้อยละ -23.4 จากต้นปีที่ระดับ 842.97 โดยสาเหตุที่ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างมากมาจากนักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง จากความไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์ทางการเมืองของไทย อย่างไรก็ดี หากปัจจัยทางการเมืองไม่คลี่คลายคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวในระดับที่สูงขึ้น
2. อสังหาฯกระทบ-ความเชื่อมั่นลดลงหวั่นกระทบตลาดบ้านในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
- นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึง เหตุการณ์ความรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบ ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง และส่งผลด้านลบต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการโดยเฉพาะการทุ่มงบประมาณด้านการตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีซึ่งเป็นฤดูขายบ้าน อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ยุติโดยเร็ว ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจต่อเนื่องเท่านั้น ธุรกิจด้านอื่นๆรวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้
- สศค. วิเคราะห์ว่า ในครึ่งปีแรกของปี 51 ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคก่อสร้างขยายตัวในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.9 และ-1.4 ต่อปี ตามลำดับ เนื่องจากผลกระทบจากราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นมากเป็นสำคัญ โดยเฉพาะราคาเหล็กเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.5 อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.52 และหากภาครัฐสามารถผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (Mega Project) จะเป็นปัจจัยบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์
3. สหรัฐว่างงานมากสุดในรอบ 5 ปี
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าอัตราการว่างงานในเดือน ส.ค. อยู่ที่ร้อยละ 6.1 ของกำลังแรงงานรวม สูงสุดในรอบ 5 ปี และปรับตัวสูงขึ้นจากเดือน ก.ค. ที่อยู่ที่ร้อยละ 5.7 ในขณะที่ตัวเลขจำนวนแรงงานนอกภาคเกษตรถูกปลดออกอยู่ที่ 8.4 หมื่นตำแหน่ง ปรับสูงขึ้นจาก 5.1 หมื่นตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า โดยภาคที่มีการปลดคนงานมากได้แก่ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และภาคการค้าปลีก
- สศค. วิเคราะห์ว่าตัวเลขการว่างงานและจำนวนแรงงานนอกภาคเกษตรที่ถูกปลดออกในเดือน ส.ค. นั้นเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ร้อยละ 5.7 หรือ 7.0 หมื่นตำแหน่ง ทำให้เป็นไปได้ว่าปัจจัยลบต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา เช่น ราคาน้ำมันแพง ปัญหาตึงตัวภาคการเงิน และปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐนั้นส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและการจ้างงานมากกว่าที่คาด จึงเป็นไปได้ว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐอาจมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกที่สองหลังจากที่รัฐบาลบุชได้มีมาตรการคืนภาษีเป็นจำนวน 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐครึ่งหลังของปี 51 อาจชะลอลงจากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 ต่อปี ก่อนที่จะฟื้นตัวอีกครั้งในปี 52 โดยน่าจะขยายตัวที่ประมาณร้อยละ 1.5-2.5 จากปี 51 ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ประมาณร้อยละ 1.5
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th