รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 12 กันยายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 12, 2008 11:55 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 12 ก.ย. 2551 
SUMMARY:
- พิษการเมืองฉุดดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
- ยอดขายรถยนต์เดือนส.ค.51 ขยายตัวร้อยละ 5.3
- “ไต้หวัน” ควักกระเป๋าทุ่มแสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ
HIGHLIGHT:
1.พิษการเมืองฉุดดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
- รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.หอการค้าไทย เผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. ว่าดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโดยรวมเดือน ส.ค. เท่ากับ 70.5 ลดลงจากเดือน ก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 71.8 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่บวกับโอกาสการหางานทำเท่ากับ 70.9 ลดลงจากเดือน ก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 72.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 91.7 ลดลงจากเดือน ก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 93 โดยดัชนีได้ปรับตัวลดลงทุกรายการและอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เป็นผลมาจากปัจจัยลบที่วิตกกังวลกับสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่อาจยืดเยื้อมากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงสะท้อนภาพความไม่เชื่อมั่นของประชาชน อันมีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลายลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน และการบริโภคในประเทศ รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก อย่างไรก็ดีทาง สศค.คาดว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองจบลงอย่างไม่ยืดเยื้อ จะช่วยให้สัญญาณการฟื้นตัวมีความชัดเจนขึ้นในช่วงสุดท้ายของปี โดยทาง สศค. จะปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่ในปลายเดือนนี้จากเดิมที่ร้อยละ 5.0-6.0 ต่อปี
2. ยอดขายรถยนต์เดือนส.ค.51 ขยายตัวร้อยละ 5.3
- บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ รายงานถึง ยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภทในเดือน ส.ค.51 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.51 โดยยอดขายรถยนต์นั่งรวมทั้งสิ้น 17,991 คันหรือลดลงร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับ ก.ค. ขณะที่ยอดขายรถกระบะขนาด 1 ตันรวมทั้งสิ้น 24,234 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 เมื่อเทียบกับ ก.ค. ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ลดลง แต่มีปัจจัยลบคือเหตุการณ์ทางการเมือง ทั้งนี้ ยอดขายรถรวม 8 เดือนแรกปี 51 มีจำนวนทั้งสิ้น 413,376 คันเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ต่อปี แบ่งเป็นรถกระบะขนาด 1 ตัน 221,361 คันลดลงร้อยละ 7.4 ต่อปี รถยนต์นั่ง 147,690 คัน เพิ่มขึ้น 30.2 ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ยอดขายรถยนต์ในเดือน ส.ค.ยังขยายตัวได้ดีเนื่องจากปัจจัยบวกจาก 1) ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง 2) การปรับลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้น้ำมัน E20 และ 3) การลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ตาม 6 มาตรการการ 6 เดือนของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายทางการเมืองอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจและส่งผลต่อยอดจำหน่ายรถยนต์ขยายตัวชะลอลงในช่วงที่เหลือของปี ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวลงถึงร้อยละ 25.7 ต่อปี
3. “ไต้หวัน” ควักกระเป๋าทุ่มแสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ
- คณะกรรมาธิการฝ่ายวางแผนและการพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวัน เผยว่า รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 5,600 ล้านเหรีษญสหรัฐ หรือประมาณ 1.92 แสนล้านบาท ท่ามกลางความแปรปรวนของสภาพเศรษฐกิจ ทั้งนี้แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวครอบคลุมถึงการพักการชำระภาษี การอุดหนุนทางการเงินในภาคธุรกิจ และสนับสนุนการลงทุนพร้อมๆ กับการขยายการส่งออก ซึ่งคาดว่าจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 4.3 ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังและเป็นการสร้างความเชื้อมั่นให้กับการบริโภคและการลงทุนให้กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น และจะเป็นผลดีต่อภาคการส่งออกของไทยไปไต้หวันให้ขยายตัวดีขึ้น ทั้งนี้การส่งออกของไทยไปไต้หวันในช่วง 7 เดือนแรกมีสัดส่วนที่ร้อยละ 1.6 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ทางสศค.คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไต้หวันในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 ต่อปี ชะลอลงจากครึ่งปีแรกที่ขยายตัวร้อยละ 5.3 ต่อปี และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.6 ต่อปี
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ