สรุปเศรษฐกิจญี่ปุ่นรอบสัปดาห์ (23-27 มิ.ย. 51)
1. สรุปนโยบายเศรษฐกิจและการคลังประจำปีงบประมาณ 2551 (Guidelines on Economic and Fiscal Management and Structural Reforms for Fiscal 2008)
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2551 รัฐบาลได้แถลงสรุปทิศทางนโยบายเศรษฐกิจและการคลังประจำปี 2551 ซึ่งมีนาย Sadakazu Tanigaki อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ในฐานะประธาน Policy Research Council ของพรรค LDP เป็นผู้รับผิดชอบหลัก โดยจะมีการลดค่าใช้จ่ายในงบประมาณอย่างมาก และมีการนำงบประมาณที่ได้จากการเก็บภาษีพิเศษเพื่อการซ่อมแซมถนนมายุบรวมในงบประมาณทั่วไป ส่วนเรื่องที่จะปรับขึ้นอัตราภาษีบริโภคนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดวันที่จะขึ้นแน่นอน รายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1.1 การลดค่าใช้จ่ายในงบประมาณ
นโยบายเศรษฐกิจและการคลังประจำปี 2551 นี้ จะมีการลดค่าใช้จ่ายในงบประมาณอย่างมากที่สุด ตั้งแต่ที่ได้ดำเนินนโยบายมาในปี 2549 และ 2550 โดยเฉพาะจะลดค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคมลง ปีละ 220 พันล้านเยน และจะมีการตรวจสอบงบประมาณพิเศษอย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย
1.2 การปฎิรูปการบริหารงบประมาณ
นำงบประมาณที่ได้จากการเก็บภาษีพิเศษเพื่อการซ่อมแซมถนน มายุบรวมในงบประมาณทั่วไป เพื่อให้สามารถใช้ในเรื่องอื่นได้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 และจัดตั้งสำนักงานผู้บริโภคในปีงบประมาณ 2552 ด้วย
1.3 การปรับปรุงระบบภาษี
เร่งพิจารณาปรับปรุงระบบภาษีบริโภคอย่างจริงจัง และพิจารณาจัดตั้งภาษีสิ่งแวดล้อมเพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
1.4 ยุทธศาสตร์เพื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เพิ่มการสนับสนุนทางด้านการเงิน (ODA) ให้แก่ทวีปแอฟริกาเป็นเท่าตัวจากปัจจุบัน และสนับสนุนให้มีการใช้สนามบินฮาเนดะ เป็นศูนย์กลางสำหรับเที่ยวบินในเอเซีย
1.5 ระบบประกันสังคม
แก้ไขปัญหาการขาดแคลน สูติแพทย์ และ กุมารแพทย์ และลดภาระทางด้านค่าใช้จ่ายเพื่อการประกันสังคมของผู้ที่มีรายได้น้อยตามระบบประกันสุขภาพผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 75 ปีขึ้นไป
ประเด็นการลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมาก กำลังเป็นประเด็นร้อนระหว่างคนในพรรครัฐบาลกันเอง รวมทั้งระหว่างกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่ดูแลด้านสุขภาพ ประกันสังคม ทั้งระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น เนื่องจากกลัวเสียคะแนนนิยมเพราะใกล้ถึงกำหนดเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ ซึ่งปัจจุบันสมาชิกส่วนใหญ่เป็นของพรรค LDP ในขณะที่สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่เป็นของพรรค DPJ แต่นาย Tanigaki ยังยืนยันว่ามีความจำเป็นต้องทำเพราะ มิฉะนั้นแล้วญี่ปุ่นจะล่มจมจากภาระหนี้ภาครัฐที่มีถึงร้อยละ 170 ของ GDP
2. รัฐบาลประกาศจะขายหุ้นของรัฐวิสาหกิจ
รัฐบาลประกาศจะขายหุ้นของรัฐวิสาหกิจที่จะแปรสภาพเป็นเอกชนโดยกระทรวงการคลังจะขายหุ้นของรัฐวิสาหกิจจำนวน 36 แห่ง คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นจำนวน 8.4 ล้านล้านเยน ภายในปี 2558 และรัฐบาลได้ตัดสินใจขายสินทรัพย์ของรัฐบาลมีมูลค่าเท่ากับ 140 ล้านล้านเยน ตามนโยบายเศรษฐกิจการคลังปี 2549
ที่มา: สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง www.fpo.go.th