สรุปเศรษฐกิจญี่ปุ่นรอบสัปดาห์ (9-13 มิ.ย. 51)
1. ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวจะจัดตั้งตลาดการซื้อขาย Carbon Credit
รัฐบาลนายกรัฐมนตรี Fukuda ได้มีมติที่จะปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าทางด้านการเงินเพื่อให้สถาบันการเงินในประเทศญี่ปุ่นสามารถซื้อขาย Carbon Credit ได้ โดยตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้มีการจัดตั้งกลุ่มศึกษาวิจัยเพื่อจัดตั้งระบบตลาดการซื้อขาย Carbon Credit ภายใต้ข้อตกลงใน Kyoto Protocol โดยมีสมาชิกประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในกรุงโตเกียว กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม หน่วยงานกำกับดูแลบริการการเงินญี่ปุ่น (Financial Services Agency (FSA)) และกระทรวงสิ่งแวดล้อม โดยมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ Carbon Credit ล่วงหน้า (Future Market) และ การซื้อขาย ณ ราคาปัจจุบัน (Spot Market)
ปัจจุบันการซื้อขาย Carbon Credit ของโรงงานผลิตไฟฟ้า และบริษัทการค้า (Trading Firms/Consulting Firms) ในประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นการซื้อขาย Carbon Credit ที่จะได้จากโครงการ CDM ในอนาคตซึ่งเป็นแบบ Future Market แต่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวมีแผนที่จะเปิดตลาดทำการซื้อขาย Carbon Credit ที่ผ่านการรับรองจาก UN แล้วซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ หรือที่เรียกว่าโครงการที่ได้รับ Certified Emission Reduction (CER) เป็นแบบ Spot Market โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ประกอบการ และสถาบันการเงินที่มีความเชี่ยวชาญในการซื้อขาย Carbon Credit โดยในที่ประชุมกลุ่มศึกษา/วิจัยดังกล่าวมีการศึกษาประเด็นที่สำคัญได้แก่ 1) การกำหนดราคาและระยะเวลาในการซื้อขาย 2) ระบบการชำระเงิน 3) การเตรียมพร้อมเพื่อให้เอกชน เช่น โรงงานผลิตไฟฟ้าและบริษัทการค้าสามารถทั่วไปเข้าร่วมซื้อขายในตลาดได้ 4) การกำกับดูแลราคา ภายหลังจากการเตรียมความพร้อมของตลาด แล้ว และ 5) ระบบการชำระเงิน ซึ่งปกติการชำระเงินในกรณีการซื้อขายหุ้นนั้นจะดำเนินการภายใน 3 วัน แต่ในกรณีการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ Carbon Credit ปัจจุบันจะต้องใช้เวลาในการโอนเงินระหว่างปัญชีเป็นเวลามากกว่า 15 วัน เพื่อที่จะให้การซื้อขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว อาจจะต้องมีการพิจารณาแก้ไขกฎระเบียบหรือกฏหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมการค้าดังกล่าวด้วย
2. จำนวนการสั่งเครื่องจักรประจำเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5
Cabinet Office เปิดเผยว่าจำนวนการสั่งเครื่องจักร (ยกเว้นประเภทเรือขนส่ง และเครื่องจักรผลิตไฟฟ้า) ประจำเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเป็นจำนวน 1.009 ล้านล้านเยน เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ด้านภาคการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เพิ่มขึ้นจาก 8 ประเภทธุรกิจจากทั้งหมด 15 ประเภทโดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตเรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 187.7 และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 109.7 ส่วนด้านธุรกิจบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 ในขณะที่จำนวนการสั่งเครื่องจักรของธุรกิจบริการที่รวมการขนส่งและพลังงานไฟฟ้าลดลงร้อยละ 7.2 ซึ่งลดลง 3 ประเภทจากทั้งหมด 8 ประเภทโดย ธุรกิจการผลิตไฟฟ้าลดลงร้อยละ 34.5 และธุรกิจการเงินและธุรกิจประกันลดลงร้อยละ 8.7
ที่มา: สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง www.fpo.go.th