รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 กันยายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 15, 2008 12:41 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 ก.ย. 2551 
SUMMARY:
- ทูตพาณิชย์ประเมินเป้าส่งออกปี 52 คาดตลาดส่งออกขยายตัวได้ต่อเนื่อง
- นักลงทุนต่างชาติลดการลงทุนในไทยเกือบร้อยละ 50
- ยอดขายปลีกสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่สอง แต่ความเชื่อมั่นเริ่มดีขึ้น
HIGHLIGHT:
1.ทูตพาณิชย์ประเมินเป้าส่งออกปี 52 คาดตลาดส่งออกขยายตัวได้ต่อเนื่อง
- อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า วันนี้ (15 ก.ย.) จะประชุมร่วมกับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 57 แห่ง ทั่วโลก เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกสินค้าไทยในปี 2552 โดยคาดว่าการส่งออกภาพรวมจะยังคงขยายตัวได้เพิ่มขึ้น โดยจากการพิจารณาเบื้องต้น พบว่าปีหน้าตลาดหลักของไทยยังมีโอกาสขยายตัวได้เกือบทุกแห่ง โดยตลาดสหรัฐอเมริกา คาดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีเสร็จ ตลาดยุโรปจะดีขึ้นจากทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลง ตลาดญี่ปุ่นยังไม่สามารถประเมินสภาพเศรษฐกิจได้ชัดเจน แต่มีแนวโน้มที่ไทยจะส่งออกได้เพิ่มจากแต้มต่อในการทำข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (เจเทปา) ขณะที่ตลาดอาเซียนจะขยายตัวต่อเช่นกัน ตลาดใหม่ คาดว่ามีโอกาสขยายตัวดีทั้งตลาดจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก เอเชียใต้ แอฟริกาใต้ และมั่นใจว่าสัดส่วนการส่งออกระหว่างตลาดหลักกับตลาดใหม่จะมีสัดส่วน 50 ต่อ 50 ได้ในปี 2552
- สศค. วิเคราะห์ว่า 7 เดือนแรกปี 2551 มูลค่าการส่งออกของไทยมีการขยายตัวสูงที่ร้อยละ 27.4 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการกระจายตลาดส่งออก ทำให้ไทยมีการหันมาพึ่งพาตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเดียวกันซึ่งมีอัตราการเติบโตที่สูง ทำให้ส่งผลดีต่อการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและบริการ ทั้งนี้ ในปี 2551 สัดส่วนตลาดส่งออกหลักกับตลาดใหม่อยู่ที่ 51.2 ต่อ 48.8 เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ประมาณ 55 ต่อ 45
2. นักลงทุนต่างชาติลดการลงทุนในไทยเกือบร้อยละ 50
- เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เผยว่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ช่วงเดือน ม.ค. ถึง ส.ค. 51 มีนักลงทุนต่างชาติยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 548 โครงการ เงินลงทุน 1.79 แสนล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนโครงการลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 0.9 แต่การลงทุนลดลงร้อยละ 43.7 จากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วมูลค่าการลงทุน 3.18 แสนล้านบาท
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ที่ชะลอตัวลงนั้นมีปัจจัยเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติและผู้ประกอบการเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจและส่งผลต่อยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในช่วงที่เหลือของปี 51
3. ยอดขายปลีกสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่สอง แต่ความเชื่อมั่นเริ่มดีขึ้น
- ยอดขายปลีกของสหรัฐในเดือน ส.ค. หดตัวร้อยละ -0.3 ต่อเดือน หลังจากหดตัวร้อยละ -0.5 ในเดือน ก.ค. โดยกลุ่มสินค้าที่มีการหดตัวมากได้แก่ วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ทำสวน เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า และสินค้าเบ็ดเตล็ด ขณะที่ยอดขายรถยนต์ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่รวมยอดขายรถยนต์แล้ว ยอดค้าปลีกสหรัฐจะหดตัวถึงร้อยละ -0.7 อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นในเดือน ก.ย. ที่จัดเก็บโดย ม. มิชิแกนปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด โดยอยู่ที่ 73.1 จุด ปรับขึ้นจาก 63 จุดในเดือน ส.ค.
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ยอดขายปลีกยังคงหดตัวในเดือน ส.ค. บ่งชี้ว่าการบริโภคภาคเอกชนของสหรัฐเริ่มอ่อนกำลังลงหลังจากผลของมาตรการคืนภาษีของรัฐบาลในเดือน พ.ค. หมดลงนอกจากนั้น หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่าสินค้าที่มียอดขายลดลงมากได้แก่สินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤต Sub-Prime อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงทีผ่านมา บ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์อาจเริ่มพลิกฟื้นขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันที่เริ่มปรับลดลง น่าจะทำให้ภาคการบริโภคสหรัฐในช่วงปลายปี 51 ถึงต้นปี 52 น่าจะเริ่มพลิกฟื้นขึ้นได้
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ