Macro Morning Focus ประจำวันที่ 24 ก.ย. 2551
SUMMARY:
- ผักแพง หมูถูก ผู้เลี้ยงรอเลิกเจขึ้นราคา
- สถาบันเหล็ก เผยราคาเหล็กในไทยเดือนก.ย.51ลดลง 30%หลังผู้ค้าแห่กักตุน
- เศรษฐกิจยูโรโซนส่งสัญญาณอ่อนแอ
HIGHLIGHT:
1. ผักแพง หมูถูก ผู้เลี้ยงรอเลิกเจขึ้นราคา
- เลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเปิดเผยว่าเทศกาลกินเจที่จะเริ่มต้นขึ้นระหว่างวันที่ 28 ก.ย.- 7 ต.ค.นี้คาดว่าราคาหมูหน้าฟาร์มจะอ่อนตัวลงอีก 1-2 บาท ต่อ กก. จากปัจจุบันที่ 50-53 บาท ต่อ กก.ซึ่งจะทำให้ผู้เลี้ยงหมูขาดทุนมากยิ่งขึ้นจากเดิมที่ขาดทุนอยู่แล้ว 3-6บาท ต่อ กก. เพราะต้นทุนการเลี้ยงขณะนี้อยู่ที่ กก. ละ 56 บาท หรือขาดทุนเฉลี่ย 400-500 บาท/ตัว นอกจากนั้นการบริโภคเนื้อหมูของประชาชนก็ลดลงประมาณร้อยละ เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนเกิดการเปลี่ยนแปลงเน้นการเลือกบริโภคพืชและธัญพืชแทนเนื้อสัตว์ จึงคาดว่ากลุ่มผู้เลี้ยงหมูคงต้องลดกำลังการผลิตลงเพื่อให้เกิดภาวะขาดแคลน ทำให้ราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้าได้
- สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาพืชและผักสด ในช่วงระหว่างเทศกาลกินเจ เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกๆปี เนื่องจากอุปสงค์จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการต่อผู้ที่เข้าร่วมในเทศกาลกินเจ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี พร้อมกันนั้นราคาเนื้อสัตว์ในช่วงเทศกาลก็จะมีการปรับตัวลดลง จากความต้องการที่ขาดหายไป อย่างไรก็ดีราคาเนื้อหมูในปีนี้ต่ำว่าราคาในปีที่แล้วเนื่องจากราคาวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ในปีที่แล้วมีราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก ตามการเก็งกำไรในพืชพลังงาน ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงเพิ่มสูงขึ้นมาก ทาง สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 3 จะอยู่ในระดับที่ร้อยละ 7.2 ต่อปี ชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ 2 ที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี
2. สถาบันเหล็ก เผยราคาเหล็กในไทยเดือนก.ย.51ลดลง 30%หลังผู้ค้าแห่กักตุน
- สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยราคาเหล็กในไทยเดือนก.ย.51 ลดลงร้อยละ 30 ถือว่าเป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยปัจจุบันราคาเหล็กรีดร้อนตลาดโลกอยู่ที่ราคาตันละ 800 ดอลลาร์ต่อตัน ราคาปรับลดลงจากที่ราคาตันละ 1,000 ดอลลาร์ในเดือนส.ค. จากที่คาดกันว่าราคาเหล็กจะปรับเพิ่มขึ้นกลางปีทำให้ผู้ค้าเหล็กแห่กักตุนสต็อกไว้มากส่งผลราคาสูงเกินจริง ขณะที่ปัจจุบันต้องมีการระบายสต็อกออกมาส่งผลให้ราคาเหล็กในไทยลดลงดังกล่าว และคาดว่าราคาเหล็กตลาดโลกจะทรงตัวที่ราคา 800 ดอลลาร์ต่อตัน ไปตลอดไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
- อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกคงจะมีการชะลอตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาศ.ก.ในสหรัฐว่ามีการจัดการได้ดีเพียงใด รวมทั้งคาดว่าราคาเหล็กตลาดโลกต้นปี 52 มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นตามราคาสินแร่เหล็กที่อาจมีการขอปรับราคาขึ้นปลายปีนี้
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปริมาณความต้องการใช้เหล็กของไทยช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงมีการชะลอตัวจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ปัญหาทางการเมือง แต่มีปัจจัยบวกคือบรรยากาศการลงทุนด้านการก่อสร้างที่น่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังได้รัฐบาลชุดใหม่ และคาดว่าในปี 52 การลงทุนในภาคเอกชนและภาครัฐจะเร่งตัวขึ้นจากปี 51
3. เศรษฐกิจยูโรโซนส่งสัญญาณอ่อนแอ
- ดัชนีชี้ภาวะเศรษฐกิจของยูโรโซนส่งสัญญาณความอ่อนแอของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยตัวเลข PMI ที่สำรวจผลผลิตของภาคเอกชนในเดือนก.ย. 51 ลดลงเหลือ 47.0 จากเดือนก่อนหน้าที่ 48.2 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 46 และเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านการผลิตที่หดตัว
- สศค. วิเคราะห์ว่า ตัวเลข PMI ที่ต่ำกว่าระดับที่ 50 ดังกล่าวประกอบกับการชะลอตัวของความต้องการสินค้าจากต่างประเทศ และการใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศที่อ่อนแอ ส่งผลให้คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 51 จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากครั้งแรก ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนในปี 51 และ 52 จะขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 และ 1.2 ต่อปี ตามลำดับ
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th