Macro Morning Focus ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2551
SUMMARY:
- รัฐเข็น 11 มาตรการสู้วิกฤติสหรัฐ
- นายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช เผยวิกฤตศ.ก.สหรัฐฯอาจส่งผลกระทบต่อจีดีพีไทยโตไม่ถึง 5%
- ภาคส่งออกและการท่องเที่ยวปีหน้าโคม่า
HIGHLIGHT:
1. รัฐเข็น 11 มาตรการสู้วิกฤติสหรัฐ
- รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่รัฐสภาสหรัฐไม่อนุมัติแผนกู้วิกฤติการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะส่งผลกระทบมายังประเทศไทยอย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการเตรียมไว้ทันที เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามเข้ามายังระบบการเงินของไทย ทั้งนี้ ครม. อนุมัติ 11 มาตรการรับมือวิกฤติการเงินโลกในช่วง 3 เดือน โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 1) ชะลอระดมทุนต่างประเทศในรูปของบาทบอนด์ 2) ธปท. ดูแลสภาพคล่องให้สถาบันการเงินเพียงพอ 3) เล็งขยายวงเงินยกเว้นภาษี RMF-LTF 4) ดึงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ-กองทุนพลังงาน-บลจ. พยุงตลาดหุ้นลงทุนหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก และ 5) ประสานเพื่อนบ้านในเอเชีย กู้เงินระหว่างรัฐต่อรัฐในกรณีฉุกเฉิน
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่รัฐสภาสหรัฐไม่อนุมัติแผนกู้วิกฤติการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ลดลงถึง 777 จุด ซึ่งมากที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นต้นมา ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดการเงินโลกผันผวนมากขึ้น ดังนั้น มาตรการรองรับของไทยที่ออกมาจะช่วยรองรับปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวจะใช้วิกฤติการเงินในครั้งนี้เป็นโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือด้านการเงินระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
2. นายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช เผยวิกฤตศ.ก.สหรัฐฯอาจส่งผลกระทบต่อจีดีพีไทยโตไม่ถึง 5%
- อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยวิกฤตศ.ก.สหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อจีดีพีไทยโตไม่ถึง 5% โดยรัฐบาลจำเป็นจะต้องเข้าไปดูแลศ.ก.ไทยในปี 2552 ที่อาจชะลอตัวลงหลังจากรัฐสภาสหรัฐไม่ผ่านแผนกู้วิกฤตการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ทั้งนี้ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า การส่งออกของไทยที่ชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยสศอ.คาดว่าจีดีพีภาคอุตสาตสาหกรรมไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 7 จากที่เคยประเมินเมื่อต้นปีว่าจะขยายตัวมากกว่านี้
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากการชะลอตัวลงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2551-ปี 2552 ให้ชะลอตัวลง ดังนั้น ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กำลังได้รับผลกระทบดังกล่าว ภาครัฐควรกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศมากขึ้น รวมทั้งโครงการขนาดใหญ่อย่างไรก็ตาม สศค.ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2551 ณ เดือนก.ย. 2551 ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี
3. ภาคส่งออกและการท่องเที่ยวปีหน้าโคม่า
- รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์(ซี.พี.) เผยว่า ปัญหาวิกฤติการเงินสหรัฐจะทำให้เศรษฐกิจโลกปีหน้าชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดสหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น คาดจะส่งผลให้การส่งออกในปีหน้าลดลงร้อยละ 10 จากที่ส่งออกได้เดือนละ 1.4 หมื่นล้านบาท สินค้าที่ได้รับผลกระทบในทันทีคือสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น อัญมณี, สิ่งทอ, อสังหาฯ ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีหน้าจะโตร้อยละ 4-5
- ด้านนายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่าท่องเที่ยวไทยปีหน้าจะกระทบรุนแรงกว่าช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะปัญหาลามจากสหรัฐไปยังยุโรปและเอเซีย คาดว่าการท่องเที่ยวในปีหน้าจะไม่โตถึงร้อยละ 5 ตามที่ ททท.ตั้งเป้าไว้
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปัญหาวิกฤติการเงินของสหรัฐเริ่มส่งผลลุกลามไปยังภูมิภาคต่างๆเช่น สหภาพยุโรป (อียู) และเอเซีย ทำให้การบริโภคของประชากรในประเทศนั้นๆเริ่มมีการชะลอตัวลง ทั้งนี้ทาง สศค. คาดว่าในปี 2552 การส่งออกจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 11-13 ต่อปี ลดลงจากปี 2551 ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 20 ต่อปีอีกทั้งคาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับมามากขึ้น ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2552 เกินดุลได้ 4-6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th