รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 3, 2008 10:39 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 3 ต.ค. 2551 
SUMMARY:
- กระทรวงพาณิชย์ผลักดันแผนการส่งออกปี 52 เน้นตลาดใหม่
- ดัชนีอุตสาหกรรมขยายตัวชะลอลงรับผลกระทบเศรษฐกิจโลก
- ธปท.ส่งสัญญาณหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
HIGHLIGHT:
1. กระทรวงพาณิชย์ผลักดันแผนการส่งออกปี 52 เน้นตลาดใหม่
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากระทรวงฯได้มีการผลักดันแผนการส่งเสริมการส่งออกปี 2551-2552 โดยเน้นการเร่งเปิดตลาดใหม่ เช่นจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก เพื่อชดเชยตลาดหลักที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว และผลักดันสินค้าเกษตรและ
บริการซึ่งใช้วัตถุดิบภายในประเทศสูง โดยคาดว่าการส่งออกปี 2552 จะยังสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 15 ในขณะที่ประธานหอการค้าไทย-อิตาเลียนกล่าวว่า เริ่มเห็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแล้ว จากยอดการสั่งซื้อสินค้าจากยุโรปที่ลดลง เชื่อว่าผู้ซื้อยังรอดูท่าทีและผลของนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ
- สศค. วิเคราะห์ว่า วิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐ ส่งผลให้เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย มีแนวโน้มชะลอตัว ทำให้การขยายตัวของการส่งออกของไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี นโยบายการส่งออกที่เน้นการเปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดที่ยังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่นประเทศในเอเชีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง จะช่วยให้การส่งออกของไทยเติบโตได้ดี โดยภาครัฐควรจับตามองค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้เงินบาทมีความผันผวนมากนัก เป็นการช่วยเหลือการส่งออกอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะขยายตัวได้ร้อยละ 11-13 ในปี 52
2. ดัชนีอุตสาหกรรมขยายตัวชะลอลงรับผลกระทบเศรษฐกิจโลก
- ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตฯ เปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ส.ค.51 ขยายตัวร้อยละ 4.5 ต่อปี อยู่ที่ระดับ 183.8 ชะลอลงตามแรงกระทบเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดีภาพรวมอุตฯยังคงขยายตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหลักที่ตลาดส่งออกยังคงไปดี คือ การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากการมีคำสั่งซื้อจากยุโรปและสหรัฐ การแปรรูปและถนอมสัตว์น้ำจากการขยายการส่งออกไปยังตลาดใหม่ คือยุโรป ญี่ปุ่น ตะวันออกกลางกลาง และการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จากการลงทุนขยายการผลิตของ บริษัทต่างๆ
- สศค. วิเคราะห์ว่า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกส่งผลให้การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีแนวโน้มชะลอตัวลงโดยเฉพาะเครื่องประดับ และกระเป๋าเดินทางที่ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 51 หดตัวลงถึงร้อยละ -19.3 ต่อปี และ -54.2 ต่อปี นอกจากนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. 51 ที่ขยายตัวชะลอลงยังเป็นผลมาจากการหดตัวลงของการผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่มีการหยุดการผลิตเพื่อเตรียมปรับเปลี่ยน model ใหม่ และการหดตัวลงของการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เนื่องจากมีการผิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ประจำปี
3. ธปท.ส่งสัญญาณหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.จะดูแลนโยบายด้านการเงินอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสมกับภาวะในปัจจุบันที่ความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อลดลง แต่ความเสี่ยงของการขยายตัวเศรษฐกิจมีสูงขึ้น เป็นผลจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้จากการติดตามประเมินผลกระทบจากปัญหาสถาบันการเงินในประเทศสหรัฐ ยังไม่ส่งผลกระทบกับสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินไทย เงินทุนไหลเข้าออกยังอยู่ในภาวะปกติสอดคล้องกับภูมิภาค
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปี 51และในปี 52 ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเนื่องจากปัญหาวิกฤติการเงินของสหรัฐที่ยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกระทบกับการส่งออกของไทย ดังนั้น ไทยจำเป็นต้องหันมากระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านการใช้จ่ายในประเทศโดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ (Mega Project) และหากธปท.สามารถดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายให้สอดคล้องกับนโยบายการคลังแบบขยายตัวแล้ว จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดย สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 51 และ 52 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.1 และ 4.0-5.0 ต่อปีตามลำดับ
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ