รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 7, 2008 10:20 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 7 ต.ค. 2551 
SUMMARY:
- บีโอไอเตรียมแผนการสนับสนุนดึงการลงทุนในช่วงวิกฤติการเงินสหรัฐ
- เศรษฐกิจโลกชะลอ ส่งผลต่อยอดการส่งออกรถยนต์ปีหน้าไม่สดใส
- รัฐบาลเยอรมันอุ้ม Hypo Real Estate
HIGHLIGHT:
1. บีโอไอเตรียมแผนการสนับสนุนดึงการลงทุนในช่วงวิกฤติการเงินสหรัฐ
- เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)กล่าวถึงแนวทางการดึงการลงทุนในสถานะการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจมหภาคอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินสหรัฐว่าอาจทำได้ยากลำบากขึ้น โดยเฉพาะในแง่การชักจูงการลงทุน ซึ่งเลขาธิการบีโอไอกล่าวว่าในขณะนี้มีนักลงทุนที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทยจำนวนหลายรายซึ่งมีโครงการที่จะขยายการลงทุน ดังนั้นบีโอไอจะเข้ามาดูแลภาคสาขาต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการลงทุนเช่นโครงการเหล็กกล้าต้นน้ำเป็นต้น พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงการจัดทำโรดโชว์ว่าให้จัดทำอย่างมีเป้าหมายและในจังหวะที่เหมาะสม โดยให้กระทำในเชิงรุกและให้มองในระยะยาว
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปี 51และในปี 52 ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเนื่องจากปัญหาวิกฤติการเงินของสหรัฐที่ยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ภาครัฐจึงต้องมีบทบาทที่จำเป็นต้องดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการลงทุนภาคเอกชน ได้แก่เร่งลงทุนในโครงการ Mega Project เพื่อช่วยให้เกิดการลงทุนภาคเอกชน (Crowding in effect) โดย สศค. คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนที่แท้จริงในปี 52 จะขยายตัวได้ร้อยละ 7-8 ต่อปี เร่งขึ้นจากปี 51 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 5 ต่อปี
2. เศรษฐกิจโลกชะลอ ส่งผลต่อยอดการส่งออกรถยนต์ปีหน้าไม่สดใส
- ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2551 นี้ ยอดขายรถยนต์ในประเทศ ขยายตัวไม่มากนักเพียงร้อยละ 3.9 เท่านั้น โดยการส่งออกรถยนตเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในช่วง 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา
- ปัจจุบันปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลกค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบตามมาต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ ซึ่งจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยรวมถึงเป็นปัจจัยในการผลิตอุตสาหกรรมอย่างหนึ่ง ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ตกลงในหลายประเทศ
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกรถยนต์ของไทยน่าจะได้รับผลกระทบจาก ปัญหาวิกฤติทางการเงินในสหรัฐฯ โดยทำให้ประเทศผู้นำเข้ารถยนต์หลัก เช่น ออสเตรเลีย กลุ่มประเทศอาเซียน และในตะวันออกกลาง น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินดังกล่าวไม่ทางตรงก็ทางอ้อม โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2552 จะปรับตัวลดลงจากปี 2551 มาขยายตัวร้อยละ 11.0-13.0 ต่อปี
3. รัฐบาลเยอรมันอุ้ม Hypo Real Estate
- รัฐบาลเยอรมนีทำแผนช่วยเหลือสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเยอรมัน Hypo Real Estate (HRE) ซึ่งกำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง หลังจากธนาคารและบริษัทประกันภัยของเยอรมนีถอนเงินสนับสนุนสำหรับแผนความช่วยเหลือในวงเงิน 3.5 หมื่นล้านยูโร (4.85 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยรัฐจะจัดหาสภาพคล่องให้แก่ HRE จำนวน 1.5 หมื่นล้านยูโร (2.08 หมื่นล้านดอลลาร์) และค้ำประกันบัญชีเงินฝากเอกชนมูลค่ากว่า 5 แสนล้านยูโร โดยหวังว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาวะวิกฤติทางการเงินโลกกำลังขยายวงกว้างขึ้น เนื่องจากโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบันได้สร้างการเชื่อมโยงของตลาดเงินตลาดทุนโลก จนทำให้ผลกระทบต่อเนื่องระหว่างประเทศเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐจึงควรมีมาตรการตอบสนองปัญหาอย่างรวดเร็ว ดังเช่นที่รัฐบาลเยอรมนีได้กระทำลงไปนั้นอาจช่วยบรรเทาผลกระทบของปัญหา แต่อาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้หมด ซึ่งหากเศรษฐกิจเยอรมันซึ่งมีขนาดทางเศรษฐกิจใหญ่สุดในกลุ่ม EU ชะลอลงย่อมทำให้เศรษฐกิจ EU ชะลอลงมากซึ่งจะส่งผลเสียต่อการส่งออกไทย
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ