Macro Morning Focus ประจำวันที่ 29 ต.ค. 2551
SUMMARY:
- ครม.ให้แบงค์ปล่อยกู้ 3 โครงการรับจำนำ อุ้มเกษตรแสนล้าน
- วิกฤตการเงินสหรัฐส่งผลกระทบการส่งออก-โรงงานลดผลิต
- สหรัฐเริ่มยก 2 แผนอุ้ม 16 แบงก์
HIGHLIGHT:
1. ครม.ให้แบงค์ปล่อยกู้ 3 โครงการรับจำนำ อุ้มเกษตรแสนล้าน
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.วันที่ 28 ต.ค. ได้อนุมัติหลักการให้กระทรวงการคลังกู้เงินจากสถาบันการเงินมาใช้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 51/52 วงเงิน 9.7หมื่นล้านบาท พร้อมมอบให้ไปพิจารณาแหล่งเงินกู้เพิ่มเติมที่จะนำมาใช้กับโครงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 51/52 จำนวน 4,916 ล้านบาท และโครงการรับจำนำมันสำปะหลังปี 51/52 อีกจำนวน 4,156 ล้านบาท รวม 3 โครงการกว่า 1แสนล้านบาท โดยราคารับจำนำข้าวโพดความชื้น 14.5% จะอยู่ที่ กก.ละ 8.5บาท ส่วนมันสำปะหลังในเดือนแรกอยู่ที่ กก.ละ 1.8 บาทหลังจากนั้นจะปรับเพิ่มขึ้นเดือนละ 5 สตางค์ ทั้งนี้เป้าหมายรับจำนำอยู่ที่ 5 แสนตัน และ 5 ล้านตันตามลำดับ
- สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาสินค้าเกษตรของไทยอันได้แก่ข้าวโพด และมันสำปะหลัง มีการปรับตัวลดลงมากตามการลดลงของราคาตลาดโลก สาเหตุจากสินค้าเหล่านี้ส่วนหนึ่งสามารถใช้ผลิตพลังงานทดแทนได้ เมื่อราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลง ความต้องการสินค้าเหล่านี้เพื่อผลิตเป็นพลังงานทดแทนจึงลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ราคาปรับตัวลงอย่างมากจนเกษตรกรประสบภาวะขาดทุน รัฐบาลจึงได้เข้ามาช่วยเหลือโดยใช้วิธีการรับจำนำ ซึ่งสามารถช่วยให้ราคาในตลาดปรับตัวสูงขึ้นตามราคาที่รับจำนำได้อีกด้วย
2. วิกฤตการเงินสหรัฐส่งผลกระทบการส่งออก-โรงงานลดผลิต
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินสถานการณ์วิกฤตทางการเงินในสหรัฐ เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย โดยการส่งออกเริ่มชะลอตัว จากการชะลอคำสั่งซื้อ ทำให้ภาคการผลิตจำต้องลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้คาดการณ์ว่าแรงงานจะเริ่มทยอยหายไปจากระบบประมาณร้อยละ 20-30 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ เซรามิค ที่มีตลาดหลักสหรัฐ และยุโรป
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากจำนวนผู้ว่างงานของไทยล่าสุด (ส.ค. 2551) มีจำนวน 446.6 พันคน จากกำลังแรงงานรวม 38.36 ล้านคน คิดเป็นอัตราการว่างงานที่ร้อยละ 1.4 ทั้งนี้ สศค.กำลังติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และเสนอนโยบายบรรเทาผลกระทบต่อไป อย่างไรก็ตาม แรงงานไทยมีความยืดหยุ่นและเคลื่อนย้ายระหว่างภาคเศรษฐกิจได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง เห็นได้จากในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจไทยปี 2540-41 อัตราการว่างงานสูงสุดที่ร้อยละ 2.8
3. สหรัฐเริ่มยก 2 แผนอุ้ม 16 แบงก์
- รัฐบาลสหรัฐเริ่มแผนอุ้มสถาบันการเงินยก 2 ด้วยการจัดงบประมาณ 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 8.5 ล้านล้านบาท) เพื่อฟื้นฟูสภาพของสถาบันการเงินที่ประสบปัญหาสภาพคล่องจากวิกฤตสินเชื่อ โดยล่าสุดมีสถาบันการเงินและธนาคารอย่างน้อย 16 แห่ง แสดงความจำนงที่จะขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ โดยกระทรวงการคลังจะอัดทุนหนุนธนาคารและสถาบันการเงินเหล่านี้ โดยการแลกกับการครอบครองหุ้นบุริมสิทธิ และใบสำคัญแสดงสิทธิการซื้อหุ้นจากสถาบันการเงิน 20 จาก 22 แห่ง
- สำหรับธนาคารที่ประกาศเข้าโครงการเพิ่มเติมจาก 9 แห่งแรกเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมาคือ ซิตี้ เนชั้นแนล, โคเมริกา, เฟริสต์ ไอแอการา ไฟแนนเชียล กรุ๊ป, ฮันติงตัน แบงก์แชร์, นอร์เทิร์น ทรัสต์, สเตต สตรีต และยูซีบีเอช โฮลดิง
- สศค. วิเคราะห์ว่า แผนอุ้มสถาบันการเงินของรัฐบาลสหรัฐเพื่อต้องการช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องจากภาวะตลาดสินเชื่อตึงตัว นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25-0.5 ในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค. นี้ ภายหลังจากการปรับลดลงไปร้อยละ 0.5 ในวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th