Macro Morning Focus ประจำวันที่ 6 พ.ย. 2551
SUMMARY:
- BOI ยกเว้นภาษีวัตถุดิบเพิ่มสิทธิประโยชน์ 6 ธุรกิจ
- สศอ. อัดงบฯ 250 ล้าน ช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤติการเงินโลก
- ฟิทช์ เรทติ้ง คาดเศรษฐกิจโลกปี 52 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.0
HIGHLIGHT:
1. BOI ยกเว้นภาษีวัตถุดิบเพิ่มสิทธิประโยชน์ 6 ธุรกิจ
- รมว.ว่าการ ก.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า BOI เห็นชอบให้ใช้มาตรการสิทธิประโยชน์ตามมาตรา 36 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงสิ้นปี 52 โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือสภาพคล่องให้กับ SME ผู้ส่งออก โดยผู้ประกอบการที่ยื่นขอใช้สิทธิจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ ยกเว้นการเสียค่าธรรมเนียมในการใช้หนังสือค้ำประกันของธนาคาร และจะไม่มีภาระดอกเบี้ยในกรณีต้องชำระอากรวัตถุดิบก่อน สำหรับกิจการที่ได้รับสิทธิมี 6 ประเภท เช่น กิจการประหยัดพลังงานและพลังงานทดแทน กิจการที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ และกิจการด้านการท่องเที่ยวและเชื่อมโยงกับภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 19 โครงการซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้างและอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า การให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ จะช่วยลดภาระต้นทุนการประกอบการ เสริมสภาพคล่องทางการเงิน และสร้างความเชื่อมั่นแก่อุตสาหกรรมทั้งที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและผลิตเพื่อส่งออกที่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ผลของมาตรการจะกระตุ้นให้การลงทุนภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ทั้งนี้ สศค.คาดการณ์ในเดือนก.ย.ว่าการลงทุนในปี 52 น่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 7.3-8.3 ต่อปี
2. สศอ. อัดงบฯ 250 ล้าน ช่วยผู้ประกอบการฝ่าวิกฤติการเงินโลก
- นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2552 สศอ. เตรียมอัดฉีดงบประมาณกว่า 250 ล้านบาท เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทยให้สามารถฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยงบประมาณดังกล่าวจะกระจายในรูปโครงการศึกษาวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเป็นหลัก ทั้งนี้ งบ 250 ล้านบาทจะถูกกระจายไปในรายสาขาอุตสาหกรรมต่างๆ 18 โครงการ แบ่งออกเป็นสาขาอุตสาหกรรมอาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วน ไฟฟ้าและอิเล็กทรอกนิกส์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เหล็กและเหล็กกล้า เป็นต้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไทยให้ชะลอตัวลง โดยในไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 6.1 ต่อปี ชะลอลงจากร้อยละ 9.4 ต่อปีในไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ผู้ประกอบการควรถือโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อให้การผลิตเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การเพิ่มงบประมาณอัดฉีดแก่การผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยจำนวน 250 ล้านบาทจะเป็นการช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการให้เพิ่มขึ้น
3. ฟิทช์ เรทติ้ง คาดเศรษฐกิจโลกปี 52 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.0
- ฟิทช์ เรทติ้ง บริษัทจัดอันดับชั้นนำของโลก คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 52 จะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.0 จากที่เคยขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3.5 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐ ยุโรป อังกฤษ และญี่ปุ่น รวมกันจะขยายตัวที่ร้อยละ 0.8 ในปี 52 เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้การใช้จ่ายของการลงทุนของประชาชนลดลงมากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากวิกฤติการเงินสหรัฐที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องและเริ่มลุกลามเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real Sector) มากขึ้น ทำให้ภาคการผลิตต่างๆในสหรัฐและยุโรปเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกในปี 52 จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปี 51 ทั้งนี้ในเดือนก.ย. สศค. คาดว่า เศรษฐกิจของ 14 ประเทศคู่ค้าหลักของไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.3 ในปี 52 ชะลอลงจากปี 51 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.9 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยให้ชะลอตัวตามไปด้วย
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th