Macro Morning Focus ประจำวันที่ 10 พ.ย. 2551
SUMMARY:
- รัฐบาลอัดฉีด 8 พันล้านหนุนการส่งออก
- ซีอีโอ วิตกปี 52 วิกฤติโลกรุนแรง
- รัฐบาลจีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
HIGHLIGHT:
1. รัฐบาลอัดฉีด 8 พันล้านหนุนการส่งออก
- คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ(กนศ.) อนุมัติให้จัดตั้งกองทุนส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศวงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 5 ผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยไปทำธุรกิจในต่างประเทศที่จากเดิมผลิตสินค้าส่งออกไปขายก็เป็นว่าไปลงทุนและทำตลาดในต่างประเทศ ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทยมากขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า วิกฤตการเงินสหรัฐที่ขยายผลไปยังประเทศต่างๆ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น จะทำให้การส่งออกของประเทศไทยลดลงเนื่องจากเป็นตลาดหลักของไทย มีสัดส่วนการส่งออกรวมร้อยละ 37.3 ต่อตลาดการส่งออกทั้งหมด อย่างไรก็ตามไทยซึ่งทั้ง 3 ตลาดใหญ่ควรหาตลาดใหม่ที่โดนผลกระทบน้อย เช่น ตะวันออกกลางและละตินอเมริกา ทั้งนี้ สศค.คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2552 จะขยายตัวร้อยละ 10 ต่อปี ต่ำกว่าในปี 51 ที่คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในระดับร้อยละ 20 ต่อปี
2. ซีอีโอ วิตกปี 52 วิกฤติโลกรุนแรง
- ซีอีโอ ประเมินธุรกิจไทยรับผลกระทบจากปัจจัยวิกฤติการเงินโลกปี 52 สูงกว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ สาเหตุเนื่องจากไทยยังต้องพึ่งการส่งออกเห็นชัดจากคำสั่งซื้อที่เริ่มชะลอตัวต่อเนื่องถึงปีหน้า ทั้งนี้ ได้แนะแนวทางตั้งรับผลกระทบดังกล่าวโดยธุรกิจควรใช้ แคชโฟลว์ แทนกู้เงินแบงก์เพื่อป้องกันความเสี่ยงหลายอุตสาหกรรมประกาศชะลอแผนการลงทุนใหม่เนื่องจากกำลังซื้อลดลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการส่งออกไทยในมิติของ 14ประเทศ คู่ค้าหลัก ไตรมาส 3 ล่าสุดพบว่า มูลค่าการส่งออกยังขยายตัวได้ที่ร้อยละ 25.2 ต่อปี ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ ประเทศคู่ค้าในแถบภูมิภาคเอเชียโดยส่วนใหญ่ปริมาณการส่งออกยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในมิติสินค้าส่งออก พบว่า กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เกษตรกรรม และเชื้อเพลิง เริ่มมีแนวโน้มการขยายตัวชะลอลงในไตรมาส 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะธุรกิจดังกล่าวควรได้รับการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูแลการกระจายตลาดส่งออกไปยังกลุ่มภูมิภาคเอเชียมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
3. รัฐบาลจีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
- เมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์) รัฐบาลประเทศจีนประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 586 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าผลของมาตรการดังกว่าวจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้โตได้ร้อยละ 8 ถึงร้อยละ 9 ในปีหน้าทั้งนี้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะเน้นไปที่การใช้จ่ายของภาครัฐเป็นสำคัญ เช่นโครงการบ้านราคาถูก การสร้างสาธารณูปโภค (ถนน รางรถไฟ) การสนับสนุนภาคเกษตร การสารธารณสุข การพัฒนาความเป็นอยู่ทางสังคม นอกจากการเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐแล้ว แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนยังครอบคลุมถึงมาตรการภาษี โดยจะอนุญาตให้บริษัทที่ประกอบการในจีนสามารถหักค่าใช้จ่ายเครื่องจักรได้
- สศค. วิเคราะห์ว่า การประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณว่า ถึงแม้ว่าภาคการเงินของจีนจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินของโลกมากนัก แต่จีนเองก็คาดว่าวิกฤติเศรษฐกิจโลกจะมีผลกระทบต่อการเติบโตของภาคธุรกิจ (real sector) ของตนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผลของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจจีนได้มากและรวดเร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการเบิกจ่ายของภาครัฐว่าจะมีความรวดเร็วเพียงไหนและภาคเอกชนจะตอบสนองต่อมาตรการภาษีอย่างไร
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th