รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 20, 2008 14:18 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 พ.ย. 2551

SUMMARY:
  • ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนต.ค.51 อยู่ที่ระดับ 75.5
  • ระดับราคาสินค้าในสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก
  • จีเอ็มแห่ปิดโรงงาน จี้วุฒิสภาผ่านงบอุ้มผู้ผลิตรถยนต์

HIGHLIGHT:

1. ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนต.ค.51 อยู่ที่ระดับ 75.5
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน ต.ค.51 อยู่ที่ระดับ 75.5 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 81.1 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงเช่นกัน โดยในเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 82.4 ลดลงจากเดือนก่อนที่ระดับ 90.8 เนื่องจากความกังวลเราองปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากวิกฤตการเงินโลก และปัญหาการเมืองในประเทศ
  • สศค. วิเคราะห์ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสหกรรมปรับตัวลดลงสะท้อนถึงภาคธุรกิจมีความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะวิกฤตการเงินโลกที่เริ่มจะส่งผลกระทบภาคเศรษฐกิจจริง (real sector) ในประเทศต่างๆ ในอเมริกา ยุโรป และเริ่มทยอยมาเอเชียมากขึ้น (ซึ่งประเทศดังกล่าวเป็นประเทศคู่ค้าหลักของไทย) ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อและยอดขายต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงมาก อย่างไรก็ตาม จากการที่ภาครัฐมีนโยบายการคลังแบบขาดดุล ประกอบราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง จะส่งผลดีต่อการประกอบการของธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ความเชื่อมั่นมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นบ้างในปี 52
2. ระดับราคาสินค้าในสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภคเดือนตุลาคมปรับตัวลดลงเกือบร้อยละ 1.0 จากเดือนก่อนหน้า ถือเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 1947 โดยมีสาเหตุมาจากการลดลงอย่างมากของราคาเชื้อเพลิง การปรับตัวลดลงของระดับราคาเกิดขึ้นในหลายสินค้า เช่น คอมพิวเตอร์ ยานพาหนะ และที่พักอาศัย ขณะที่ระดับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารลดลงร้อยละ -0.1 จากเดือนก่อน เป็นการหดตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1982
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การลดลงของระดับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคมส่งผลให้ความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อคลี่คลายลง ทั้งนี้ การปรับตัวของระดับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ลดลงมาก ประกอบกับการลดลงของราคาอสังหาริมทรัพย์ และการตกต่ำของตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ยังส่งผลให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืด (Deflation) ได้
3. จีเอ็มแห่ปิดโรงงาน จี้วุฒิสภาผ่านงบอุ้มผู้ผลิตรถยนต์
  • วิกฤติการเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ล่าสุดเจนเนอรัลมอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) ประกาศปิดโรงงาน 5แห่งเป็นการชั่วคราว 1-2 สัปดาห์ และลดการทำงานล่วงเวลา หลังยอดขายร่วงกว่าร้อยละ 45 ในเดือนที่ผ่าน ขณะที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารเร่งให้วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติเงินกู้ 25,000 ล้านดอลล่าร์ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ที่ย่ำแย่ ขณะเดียวกันโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปเตรียมลดการผลิตในอเมริกาเหนือลงอีก และระงับการผลิตที่โรงงานแคนนาดาชั่วคราวในวันที่ 22 ธ.ค. พร้อมจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นหใม่ให้น้อยลงเพื่อลดต้นทุนหลังยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า วิกฤติทางการเงินโลกเริ่มส่งผลกระทบเข้าสู่ภาคการผลิตโดยเห็นได้จากยอดขายรถยนต์ที่ลดลงมาก ทำให้ผู้ผลิตหลายรายลดกำลังการผลิตลง และมีแผนที่จะปลดพนักงานในที่สุด สำหรับประเทศไทยค่ายจีเอ็ม ก็มีแผนที่จะลดคนงานในสายการผลิตลง เนื่องจากจำเป็นต้องดำเนินนโยบายตามบริษัทแม่ อย่างไรก็ดีรัฐบาลได้เตรียมแผนรองรับแรงงานที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบดังกล่าว โดยจะใช้งบประมาณกลางปีที่กำลังรอการอนุมัติจากสภาจำนวน 100,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มที่ถูกเลิกจ้างลงได้

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ