มาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้ Pre-Budget Report 2008

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 26, 2008 11:45 —กระทรวงการคลัง

สาระสำคัญโดยสรุปของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอังกฤษภายใต้ Pre-Budget Report 2008 ที่นาย Alistair Darling รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เสนอต่อสภาเมื่อบ่ายวันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 โดยมีมาตรการที่เด่นๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อยวงเงิน 20 พันล้านปอนด์ หรือเท่ากับร้อยละ 1.0 ของ GDP ที่จะดำเนินการนับจากวันถัดจากวันแถลงจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2010 ได้แก่

1. ปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากร้อยละ 17.5 เหลือร้อยละ 15.0 เป็นการชั่วคราว 13 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2009 หลังจากนั้นจะกลับมาเป็นร้อยละ 17.5 ตามเดิม

2. เลื่อนบังคับใช้การปรับเพิ่มภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ระหว่าง 0-300,000 ปอนด์ที่ตามกำหนดเดิมจะต้องปรับเพิ่มจากอัตราภาษีจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 21 ในปีภาษีปัจจุบันออกไปอีก 1 ปีเป็นเดือนเมษายน 2009 เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจการขนาดเล็ก

3. ปรับยืดเวลาการชำระภาษีทุกประเภทให้กับกิจการที่ประสบปัญหาสภาพคล่องให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระภาษีของกิจการนั้นๆ เพื่อเป็นการบรรเทาภาระ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้กิจการสามารถนำผลขาดทุนในอดีตมาหักภาษีได้โดยสามารถทยอยหักได้ 3 ปีในวงเงินไม่เกิน 50,000 ปอนด์เป็นการชั่วคราว 1 ปีนับจากเดือนพฤศจิกายน 2008

4. จัดให้มีโครงการ Small Business Finance Scheme ซึ่งเป็นการค้ำประกันสินเชื่อของรัฐบาลสำหรับธุรกิจ SMEs วงเงิน 1 พันล้านปอนด์ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราว รวมถึงจัดให้มีการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อการส่งออกสำหรับผู้ส่งออกรายเล็กในวงเงิน 1 พันล้านปอนด์เป็นการชั่วคราวด้วย เช่นกัน

5. ปรับลดค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้มีเงินได้เกิน 100,000 ปอนด์ ต่อปี ตั้งแต่เดือนเมษายน 2010 และจะมีการปรับเพิ่มอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงจากร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 45 สำหรับเงินได้พึงประเมินเกิน 150,000 ปอนด์ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2011

6. ปรับเพิ่มอัตราการสมทบกองทุนประกันสังคมแห่งชาติ (national insurance contribution: NICs) ขึ้นอีกร้อยละ 0.5 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2011

7. ปรับมาตรการเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวน 600 ปอนด์ต่อปีที่เคยเสนอจะให้เฉพาะปีงบประมาณนี้เพื่อเป็นการชดเชยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นต้นร้อยละ 10 ให้เป็นค่าลดหย่อนอย่างถาวร ขณะเดียวกัน ก็จะเพิ่มค่าลดหย่อนให้อีก 130 ปอนด์ในปีวบประมาณ 2010-11 อีกหนึ่งปี

8. เลื่อนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต (excise duty) สำหรับรถยนต์เก่าเพื่อลดการก่อมลพิษออกไปจนถึงปี 2010

9. ปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตเหล้าและบุหรี่เพื่อให้คงราคาไว้เท่าเดิมในปัจจุบันหลังจากมีการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มลงแล้ว

สำหรับผลกระทบจากการใช้นโยบายการคลังภายใต้ Pre-Budget Report 2008 เมื่อรวมกับการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของระบบการเงินไม่ว่าจะเป็นการโอนกิจการธนาคาร Norther Rock และ Bradford & Bingley เข้าเป็นของรัฐ โครงการอัดฉีดเงินเพิ่มทุนให้กับสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินด้วยการยอมให้สถาบันการเงินนำตราสารทางการเงินที่มีอสังหาริมทรัพย์หนุนหลัง (Mortgage-backed securities) มาแลกเป็นพันธบัตรรัฐบาลตามโครงการ Special Liquidity Scheme (SLS) และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับสถาบันการเงินตามโครงการ Credit Guarantee Scheme (CGS) กระทรวงการคลังประมาณการว่ายอดการขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2009 จะเพิ่มเป็น 78 พันล้านปอนด์หรือเท่ากับร้อยละ 5.3 ของ GDP จากเดิมที่ประมาณว่าจะขาดดุลเพียง 43 พันล้านปอนด์ หรือร้อยละ 2.7 ของ GDP ขณะเดียวกัน ยอดหนี้สาธารณะก็จะเพิ่มเป็น 602 พันล้านปอนด์ หรือเท่ากับร้อยละ 41.2 ของ GDP จากเดิมที่ประมาณยอดหนี้สาธารณะต่อ GDP จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 38.5 ของ GDP ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดเพดานยอดหนี้สาธารณะสูงสุดไว้ไม่เกินร้อยละ 40 ในรอบระยะหนึ่งวัฎจักรเศรษฐกิจ (economic cycle)

ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ