Macro Morning Focus ประจำวันที่ 28 พ.ย. 2551
SUMMARY:
- ATTA ชี้ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ กระทบท่องเที่ยวปี 52 หดตัวร้อยละ -15 ต่อปี
- ภาคเอกชนหวั่น GDP ปี 2552 ขยายตัวร้อยละ 2.0 ต่อปี หากม็อบไม่จบ
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯส่อเค้าภาวะถดถอย
HIGHLIGHT:
1. ATTA ชี้ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ กระทบท่องเที่ยวปี 52 หดตัวร้อยละ -15 ต่อปี
- นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) เปิดเผยว่า การปิดสนามบินสุวรรณภูมิอาจส่งผลกระทบท่องเที่ยวปี 52 หดตัวร้อยละ -15 ต่อปี ใกล้เคียงกับเหตุการณ์สึนามิ ที่นักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันหายไปเกือบ 100% ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการยัง ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่ไทยต้องเผชิญกับปัญหาการเมืองรุนแรงมากขึ้น ส่งผลยอดนักท่องเที่ยวหดตัว และจะส่งผลต่อเนื่องในการปลดแรงงานในภาคท่องเที่ยวซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 แสนคน โดยอาจเห็นผลในไตรมาส 1 ปี 52
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับการผลิตสาขาคมนาคมขนส่ง และสาขาโรงแรมและภัตตาคาร ทั้งนี้ สศค. ได้ทำการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค พบว่าหากมีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 0.3 ล้านคน สูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ -429 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงคิดเป็นร้อยละ -0.08 ต่อ GDP
2. ภาคเอกชนหวั่น GDP ปี 2552 ขยายตัวร้อยละ 2.0 ต่อปี หากม็อบไม่จบ
- นักธุรกิจภาคเอกชนหวั่น GDP ปี 2552 ชะลอลงเหลือร้อยละ 2.0 ต่อปี หากการลงทุนและการใช้จ่ายไม่ฟื้นตัวได้เร็ว และปัจจัยทางการเมืองจากเหตุการณ์ม็อบพันธมิตรปิดสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองยืดเยื้อ โดยคาดว่าปัจจัยการเมืองดังกล่าวส่งผลให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบและส่งผลต่อดุลบริการของประเทศให้ลดลง โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนสุดท้ายที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่าร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งปี ขณะที่ บจ.(มหาชน) หลักทรัพย์เอเซียพลัส กล่าวว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกและการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่ฟื้นตัว จะเป็นอีกปัจจัยส่งผลให้ GDP ปี 2552 ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.0 ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า นอกเหนือจากปัจจัยภายนอกประเทศ คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่เป็นระบบเปิด (Open Economy)แล้ว เหตุการณ์การปิดสนามบินดังกล่าวจะเป็นอีกปัจจัยภายในประเทศที่ส่งผลกระทบทางลบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมียอดการจ้างงานที่สูงขึ้นในปี 52 และเป็นรายได้หลักที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 52 ขณะเดียวกันได้ส่งผลกระทบทางลบต่อภาคส่งออก การลงทุนและการบริโภคผ่านการขนส่งสินค้าที่ต้องหยุดชะงักลง เช่นกัน
3. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯส่อเค้าภาวะถดถอย
- ทางการสหรัฐฯได้เผยรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ 4 ฉบับ ได้แก่ ตัวเลขการขอยื่นรับสิทธิประโยชน์การว่างงาน ที่เฉลี่ยตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.18 แสนคน สูงสุดตั้งแต่ปี 2526 การใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดคำสั่งการผลิตสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรมเดือนต.ค. 51 ปรับตัวลดลงร้อยละ 1.0 และร้อยละ 6.2 ตามลำดับ และราคาขายบ้านสร้างใหม่เดือนต.ค. ปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.18 แสนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย
- สศค. วิเคราะห์ว่า วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ เริ่มส่งผลถึงภาคเศรษฐกิจจริง สหรัฐฯมากขึ้น โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ถดถอยจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯและประเทศคู่ค้าอื่นๆให้ชะลอตัวลงได้ โดยล่าสุด ตัวเลขมูลค่าการส่งออก เดือนต.ค.2551 ขยายตัวเพียงร้อยละ 5.2 ต่อปี ลดลงจากร้อยละ 19.4 ต่อปี ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯในปี 52 จะขยายตัวได้เพียงร้อยละ 0.7 ต่อปี ชะลอลงจากปี 51 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 1.5 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน ก.ย. 51)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th