รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 3 ธันวาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 3, 2008 11:56 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 3 ธ.ค. 2551

SUMMARY:
  • ครม. มีมติเห็นชอบ ลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ทิ้งทวน
  • ผลผลิตอุตสาหกรรมเข้าขั้นวิกฤต ติดลบครั้งแรกในรอบปีนี้
  • ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 1.00
HIGHLIGHT:
1. ครม. มีมติเห็นชอบ ลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ทิ้งทวน
  • รักษาการ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ออกไปอีก 1 ปี มีผลออกไปจนถึงวันที่ 28 มี.ค. 53 สาระสำคัญของมาตรการ คือ อนุมัติให้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะจากเดิมที่กำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 3 เหลืออัตราร้อยละ 0.1 สำหรับรายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางการค้า ลดการเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากร้อยละ 2 ของราคาประเมินและลดการเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองจากร้อยละ 1 ของราคาประเมินแต่ไม่เกิน 2 แสนบาทเหลือร้อยละ 0.01 ของราคาประเมิน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลของมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ส่งผลดีต่อการลงทุนก่อสร้างภาคเอกชน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ (Linkage industries) ให้สามารถขยายตัวได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ลดภาระต้นทุนประกอบการให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง เพิ่มแรงจูงใจให้เกิดการเร่งทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์โดยตรง และส่งผลทางอ้อมต้องการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นตามมาได้ ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ การลงทุนภาคเอกชน ปี 52 ขยายตัวที่ร้อยละ 7-8 ต่อปี (คาดการณ์ ณ ก.ย.51)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมเข้าขั้นวิกฤต ติดลบครั้งแรกในรอบปีนี้
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กท.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตัวเลขดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนตุลาคม 2551 ติดลบร้อยละ 0.90 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ ที่ระดับ 180.21 เป็นตัวเลขติดลบครั้งแรกในรอบปีนี้ สาเหตุจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่สามารถคลี่คลายลงได้ในเร็ววัน โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมาก ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องประดับเพชรพลอย อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตและจำหน่าย และอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ภาคอุตสาหกรรมได้รับผลด้านลบจากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางอุตสาหกรรมลดลง ประกอบกับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าทำให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมของไทยลดลง ซึ่งดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่หดตัวลงดังกล่าว สอดคล้องกับปริมาณส่งออกสินค้า ในเดือน ต.ค. ที่หดตัวลดลงร้อยละ -2.6 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การที่ไทยมีการหาตลาดส่งออกใหม่รองรับ จะมีส่วนช่วยลดผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่มีต่อภาคการส่งออกของไทยได้ทางหนึ่ง
3.ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 1.00
  • ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 1.00 หรือ 100 basis point ซึ่งเป็นการปรับลดที่มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.75 โดยเป็นการปรับลดจากอัตราร้อยละ 5.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 4.25 โดยผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียอ้างถึงเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงนั้นมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงและการชะลอตัวลงของอุปสงค์ ต่อสินค้าภายในประเทศ
  • สศค. วิเคราะห์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลียในอัตราถึงร้อยละ 1.00 นั้นเป็นไปตามแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจออสเตรเลียที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในขณะที่ความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้ลดลงมาก ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลียจะสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.2 และ 2.0 ต่อปีในปี 51 และปี 52 ตามลำดับ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ